แผงตกแต่งภายใน รวมสไตล์ของคุณเข้าไว้ด้วยกัน 

Danpal ประเทศไทย เข้าใจดีว่า สิ่งสำคัญเมื่อคุณต้องการออกแบบให้พื้นที่ภายใน คือ การบรรลุเป้าหมายอย่างสมดุล คุณคงไม่อยากไปเน้นในแต่ละส่วนเป็นส่วนๆไป และเมื่อรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันแล้ว; กลายเป็นว่า ไม่เข้ากันและดูยุ่งเหยิงกันไปหมด

แทนที่จะเป็นความคิดที่ดีในการออกแบบในจุดที่เล็กที่สุดที่ทุกๆอย่างจะรวมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่มี

แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของการออกแบบตกแต่งภายในด้วย ซึ่งต้องใช้การวางแผนอย่างรอบคอบและมีตัวเลือกมากมายรอให้คุณได้ตัดสินใจ

การจัดแนวผนังและแนวเพดาน

เมื่อพูดถึงเรื่องผนัง จำเป็นต้องใช้แผงตกแต่งภายในอย่างเหมาะสมเพื่อให้เห็นภาพลวงตาของพื้นที่และดูสะอาดตา Danpal ยืนหนึ่งในเรื่องของแผงตกแต่งภายในที่มาในรูปแบบหลากสีสัน มีลายเส้นที่ดูสะอาดตาและเพิ่มเอฟเฟคแสงให้ความรู้สึกสว่างสดใสแก่พื้นที่ใดๆที่คุณได้ย่างกรายเข้ามา

ถ้าพูดถึงการตกแต่งภายใน หลายคนลืมความสำคัญของเพดานไป แต่จริงๆแล้วเพดานเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดของของเกมปริศนาเลยก็ว่าได้ 

คุณสามารถใช้เพดานในการเพิ่มสีสันและชีวิตชีวาให้กับพื้นที่นั้นๆได้ Danpal จึงขอเสนอโซลูชั่นที่มีเอกลักษณ์ สามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวคอนกรีต หรือเพดาน สามารถใช้งานได้ง่ายและติดตั้งได้รวดเร็ว ช่วยให้ผิวเพดานดูสะอาดและเรียบเนียน ให้แสงเข้าได้อย่างเต็มที่

องค์ประกอบของแผงตกแต่ง

หากพูดถึงแผงตกแต่งภายใน คุณจะมีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ของ Danpal มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวแบบไหน ลวดลาย หรือสีสันแบบใดก็ตาม เราการันตีเรื่องโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน มีการกระจายแสงและการตกกระทบที่เหนือกว่า ซึ่งจะช่วยให้การตกแต่งภายในพื้นที่ดูดีและใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นในอนาคต

ส่วนเหตุผลที่ Danpal บรรลุได้ถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นนี้ได้ก็เพราะแผงไมโครเซลล์ที่มีความหนาและความกว้างแตกต่างกันไปตามความต้องการ ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีระยะห่างระหว่างโครงสร้างน้อยเพื่อให้การกระจายแสงเป็นไปได้ดีกว่านั่นเอง

ความสวยงามของแผงตกแต่งภายในจาก Danpal

 หากคุณต้องการสร้างสรรค์ การผสมผสานเข้ากับการตกแต่งภายใน หรือคุณอยากจะออกแบบให้ดูโดดเด่น Danpal มีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความสวยงามเยอะแยะมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการใดๆของคุณ

ในปัจจุบันมีความสวยงามด้านสุนทรียศาสตร์ที่แตกต่างกันมากมาย ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถเปลี่ยนพื้นที่ที่แสนจะธรรมดาและไม่น่าสนใจให้กลายเป็นการพลิกโฉมใหม่ของอุตสาหกรรมได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงการออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยวและปรับใช้แสงให้มีคุณภาพขึ้นได้

ทุกสิ่งตั้งแต่ผนัง ไปจนถึงแผงตกแต่งภายในและเพดาน สามารถเปลี่ยนองค์ประกอบของประติมากรรมให้บรรยากาศในพื้นที่นั้นๆมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วย

ใช้ระบบตกแต่งภายในของ Danpal ความคิดสร้างสรรค์ของคุณจะไม่ถูกจำกัดขอบเขต สามารถเพิ่มศักยภาพการใช้แสงประดิษฐ์และแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาทำให้ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว

ติดต่อเราเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับระบบตกแต่งภายในของ Danpal ได้แล้ววันนี้!

เปรียบเทียบ กระจกและแผ่นโพลีคาร์บอเนต

เวลาเปลี่ยนเทรนด์ก็เปลี่ยน และอุตสาหกรรมการก่อสร้างก็เปลี่ยนไปตามๆกัน แต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ เมื่อคุณออกแบบสิ่งก่อสร้าง คุณก็ต้องการโครงสร้างและฟังก์ชั่นการใช้งานที่แข็งแรงและทนทานเป็นเวลานาน เทคโนโลยีและวิจัยของ Danpal ทำให้เกิดความก้าวหน้าต่างๆในอุตสาหกรรมก่อสร้าง หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ในการสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีความแข็งแกร่งทนทานเหนือกว่าสิ่งอื่นใด คุณอาจจะกำลังต้องการแผ่นโพลีคาร์บอเนตอยู่ก็ได้ นอกจากประสิทธิภาพที่เหนือชั้นและความแข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้อาคารมีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม เปรียบเสมือนกับแผ่นกันฉนวนห่อหุ้มตัวอาคารและทำให้รูปลักษณ์มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย โพลีคาร์บอเนตได้เข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมการก่อสร้างให้มีความน่าสนใจ และคุณจะต้องตื่นเต้นไปกับความพิเศษนี้

 แผ่นโพลีคาร์บอเนตชนะทุกการแข่งขัน

โพลีคาร์บอเนตมีความแข็งแรงมากกว่ากระจก 200 เท่าแต่ก็มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถปรับแต่งได้ง่าย ผ่านการชุบแข็งมาอย่างดี ไม่สามารถแตกได้ง่ายๆ มีความทนทานต่อแรงกระแทกไม่เหมือนกับกระจกที่เรารู้กันดีว่า มีโอกาสแตกได้ง่ายมากๆ เมื่อก่อน กระจก เป็นวัสดุก่อสร้างที่นิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 แต่โพลีคาร์บอเนตถูกผลิตออกมาด้วยความแข็งแรง มีความหลากหลายในการใช้งานและความสะดวกในการติดตั้ง ทำให้โพลีคาร์บอเนตกลายเป็นที่นิยมมากกว่า  

นอกจากนี้ กระจก มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าแผ่นโพลีคาร์บอเนต ทำให้การติดตั้งและการใช้งานไม่ได้ใช้ง่ายเหมือนแผ่นโพลีคาร์บอเนต สถาปนิกมักจะต้องการอิสระในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการก่อสร้างที่สามารถประยุกต์ให้เข้ากับทุกดีไซน์ อย่างเช่นแผ่นโพลีคาร์บอเนต

หากคุณเลือกใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนต จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ โพลีคาร์บอเนตแบบตัน จะเป็นแผ่นเรียบๆใส มีความคล้ายกับกระจก แต่แน่นอนว่าหากเป็นโพลีคาร์บอเนตแล้ว ถึงแม้ว่าจะดูคล้ายคลึงกับกระจกแต่ไม่มีจุดอ่อนที่แตกง่ายเหมือนกระจก ส่วนอีกแบบคือ โพลีคาร์บอเนตแบบลูกฟูก Multiwall ที่มีโครงสร้างเป็นช่องอากาศแบบกลวงๆ ไม่ว่าคุณจะเลือกโพลีคาร์บอเนตประเภทไหน ทั้ง 2 ประเภทจะมีความแข็งแรงและคุณภาพสูงเท่าเทียมกัน

 การป้องกันฉนวนด้วยแผ่นโพลีคาร์บอเนตในการใช้งาน 

ระบบม่านกันฝนพร้อมช่องระบายอากาศของ Danpal มีชื่อเสียงในเรื่องของการปกป้องตัวอาคารจากผลกระทบทางด้านสภาพอากาศ แผ่นโพลีคาร์บอเนตเป็นเหตุให้การทำงานของ VRS มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นฉนวนป้องกันภายในตัวอาคารจากพายุฝน หิมะและลูกเห็บ ซึ่งสามารถทำลายโครงสร้างให้เสียหายได้ VRS มีโครงสร้างที่ทนทานต่อสภาพภายนอก สามารถถ่ายเทอากาศจากช่องว่างอากาศเพื่อให้ฉนวนกันความร้อนแห้ง ซึ่งฉนวนกันความร้อนแบบแห้งจะช่วยให้สิ่งก่อสร้างมีอายุการใช้งานยาวนานมากยิ่งขึ้น

แผ่นโพลีคาร์บอเนตช่วยยกระดับการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ 

งบประมาณของครัวเรือนถูกจัดสรรเพื่อใช้ในการชำระค่าสาธารณูปโภค แต่ถ้าหากฉนวนกันความร้อนไม่ได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับพลังงานที่สิ้นเปลืองไป นั่นเป็นเพราะว่าพลังงานรั่วไหลจากด้านในของตัวอาคารออกไปและคุณกำลังจ่ายเงินสำหรับพลังงานที่คุณไม่ได้ใช้งานอยู่ โดยปกติแล้วการก่อสร้างอาคารจะต้องมีการใช้พลังงานอย่างรับผิดชอบ 40% ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เป้าหมายก็เพื่อการรักษ์โลกด้วยการประหยัดพลังงาน เมื่อสิ่งก่อสร้างถูกสร้างจากแผ่นโพลีคาร์บอเนต คุณจะสามารถควบคุมการใช้พลังงานตามจริง ให้เป็นไปตามงบประมาณของครัวเรือนได้ และไม่ใช่ว่ามาจากการสิ้นเปลืองโดยไม่ทราบสาเหตุ อันเนื่องมาจากฉนวนกันความร้อนที่ไม่มีประสิทธิภาพ    

คุณกำลังมองหาแผ่นโพลีคาร์บอเนตที่มีคุณภาพสำหรับโครงการสถาปัตยกรรมชิ้นใหม่อยู่หรือไม่?

อย่าลังเลที่จะพูดคุยกับพวกเรา เพื่อขอคำแนะนำและเทคนิคเพิ่มเติม!

แผ่นหุ้มผนังจะไม่ทำให้อากาศทำลายฉนวนความร้อนได้ 

งบประมาณมีผลกับการซื้อสินค้า ไม่ว่าคุณจะซื้ออะไร โปรดจำไว้ว่า หากมองข้ามคุณภาพ ทั้งๆที่คุณคิดว่าคุณจะประหยัดได้มากในตอนแรก คุณจะลงเอยด้วยการจ่ายค่าซ่อมแซมและเปลี่ยนคืนสินค้า ที่ Danpal เรามักจะแนะนำลูกค้าว่า การซื้อแผ่นห่อหุ้มผนังเป็นทางเลือกในการซื้อที่ชาญฉลาด หมายความว่าอย่างไร? ผนังหุ้มอาคาร สามารถสร้างความแตกต่างในด้านค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค ความแข็งแรงและความทนทานของตัวอาคาร รวมทั้งความสะดวกสบายของที่อยู่อาศัยและพื้นที่ในการทำงาน เราจะอธิบายให้ฟังว่า ทำไมแผ่นหุ้มผนังจึงสร้างความแตกต่างของอาคารในการป้องกันสภาพอากาศจากภายนอกและช่วยประหยัดเงินได้

แผ่นหุ้มผนัง: ทางเลือกของการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดเงิน

 ประเทศต่างๆส่วนใหญ่ในกลุ่มของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) กว่า 40% ของการใช้พลังงานเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่สิ่งก่อสร้างเลือกใช้ นั่นเป็นพลังงานอันมหาศาล! ลองจินตนาการดูว่า หากมีการสูญเสียพลังงานเหล่านั้นไป ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นมากเพียงใด เรามักจะไม่รู้ตัวเรื่องพลังงานที่สูญเสียไปในช่วงแรกๆ ทั้งความชื้นจากพายุฝน หรือหิมะ จะเข้าสู่ภายในตัวอาคารของที่พักอาศัย หรือพื้นที่ธุรกิจ และขยายตัวไปที่ฉนวนกันความร้อน หลังจากนั้น เราจึงจะรู้ถึงสาเหตุของต้นทุนการสูญเสียพลังงาน แผ่นหุ้มผนังจะช่วยปกป้องอันตรายจากสภาพอากาศที่ทำลายฉนวนกันร้อนได้

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ฉนวนกันความร้อนถูกทำลายโดยความชื้น

อุณหภูมิที่เหมาะสมภายในอาคารคืออะไร? ควรจะเป็นไปอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ทั้งเวลาร้อนมากๆในฤดูร้อนและหนาวมากๆในฤดูหนาว คุณสามารถรักษาอุณหภูมิให้คงที่และไม่ต้องเปิดเครื่องควบคุมอุณหภูมิขึ้นๆลงๆให้รู้สึกสบายตัวขึ้น หากคุณต้องการปรับอุณหภูมิเมื่อสภาพภายนอกมีการเปลี่ยนแปลง ถึงเวลาที่คุณจะต้องตรวจดูว่า ฉนวนความร้อนเปียกชื้นอยู่หรือไม่

ข้อสงสัยอีกหนึ่งประการที่บ่งบอกว่าฉนวนความร้อนของคุณถูกทำลายโดยความชื้นแล้ว คือ เมื่อคุณจ่ายค่าสาธารณูปโภค ถ้าคุณสังเกตเห็นว่า มีจำนวนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างไม่คาดคิด คุณอาจจะลองตรวจสอบดูก็ได้ว่าฉนวนความร้อนยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ ฉนวนที่เปียกชื้นจะทำให้พลังงานไหลรั่วออกไปและคุณจะกลายเป็นคนที่ต้องจ่ายค่าพลังงานเหล่านั้น ทั้งๆที่คุณไม่ได้ใช้งานเลย

แผ่นหุ้มผนังของ  DANPAL มีหลักการทํางานอย่างไร 

Danpal ได้ลงทุนในด้านการวิจัยและการพัฒนาธุรกิจของเรา และพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ นอกจากนี้เรายังได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งความสำเร็จนี้ ได้รับความนิยมจากลูกค้าและเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราคงรักษาระดับอยู่ในชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม

แผ่นหุ้มผนังของเรา ถูกออกแบบมาให้มีช่องว่างอากาศ ช่วยให้แผ่นหุ้มผนังสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ช่วยให้ฉนวนกันความร้อนแห้งและปราศจากความชื้น โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันฉนวนจากความชื้น คือ การพาความร้อนเคลื่อนที่บริเวณด้สนหลังผนังนั่นเอง

แผงไมโครเซลล์โพลีคาร์บอเนต แผ่นหุ้มผนังที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง เชื่อมรอยต่อด้วยตัวเชื่อม ช่วยป้องกันความชื้นให้กับตัวอาคาร ให้อาคารมีความทนทาน เพราะแผ่นหุ้มผนังของ Danpal ช่วยป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี

แผ่นหุ้มผนังจะไม่ปล่อยให้สภาพอากาศทำร้ายฉนวนกันความร้อนของคุณ ติดต่อเราเพื่อปรึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผ่นหุ้มผนังของคุณได้ที่นี่!

ผนังหุ้มอาคารเป็นฉนวนป้องกันความร้อนที่ดี

สถาปัตยกรรมอาจเป็นงานที่ต้องการทักษะสูงมาก ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสถาปัตยกรรมเฉพาะทาง คือ ผู้ที่เข้าใจพื้นฐานของการก่อสร้างเพื่อให้อาคารที่ออกแบบไว้ สามารถสร้างขึ้นมาและใช้งานได้จริง สถาปนิกต้องมีความรู้ในการสร้างอาคารและข้อกำหนดของรัฐบาลเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับทางกฎหมายของอุตสาหกรรมก่อสร้างว่าด้วยการควบคุมอาคาร เมื่อรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดก็มักจะรู้วิธีการสร้างฝันของลูกค้าให้กลายเป็นจริงได้ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ สถาปนิกจะเป็นผู้สร้างสรรค์ ออกแบบ โดยนำวัสดุก่อสร้างและการเลือกใช้สี มาผสมผสานเป็นโครงสร้างอาคารที่ตอบสนองต่อความต้องการ ถึงแม้ว่าจะดูเข้าใจง่าย แต่หากว่าเกิดข้อผิดพลาดเรื่องการรั่วซึมภายในอาคารเมื่อไหร่ ผู้คนในตัวอาคารก็คงจะเหนื่อยหน่ายกันแน่ๆ ดังนั้นสถาปนิกที่มีความสามารถ มีความรู้ ความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์จะเริ่มตระหนักว่า การออกแบบควรใช้ผนังห่อหุ้มอาคารที่มีฉนวนป้องกันความร้อนในการก่อสร้างหรือไม่

ป้องกันการรั่วซึมด้วยผนังหุ้มอาคารของ Danpal

ไม่มีใครอยากให้เกิดการรั่วซึมภายในอาคาร การรั่วซึมจะทำให้ยุ่งยากเรื่องการทำความสะอาด; เป็นการสร้างความรำคาญให้กับผู้อาศัยอยู่ในตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือที่ทำงาน; และเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างเช่นการลื่นและหกล้ม หากการรั่วซึมส่งผลกระทบต่อฉนวนความร้อนภายในตัวอาคารอาจจะทำให้ความเสียหายทวีคูณมากยิ่งขึ้น ฉนวนผนังแบบแห้งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระบบความร้อน หรือความเย็น ซึ่งสามารถช่วยรักษาประสิทธิภาพในการใช้พลังงานได้ — และเป็นส่วนหนึ่งของการใช้พลังงานอย่างมีความรับผิดชอบ 40% ในประเทศที่พัฒนาแล้ว — ดังนั้นคุณจึงนึกภาพออกว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากมีพลังงานรั่วไหลออกไปผ่านฉนวนที่ชำรุด ดังนั้นผนังขึ้นอาคารที่มีคุณภาพจึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้ฉนวนในอาคารของคุณได้รับการปกป้องในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมผนังหุ้มอาคารของ Danpal จึงให้การปกป้องที่ดีกว่า 

ระบบระบายอากาศ Rainscreen ของ Danpal ให้การปกป้องฉนวนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วย แผงระบายอากาศ Danpalon ผลิตจากไมโครเซลล์โพลีคาร์บอเนตที่มีแผ่นปิดรอยบากแบบ 2 ชั้น ทำให้ไร้รอยต่อ ป้องกันฉนวนอาคารจากการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี มีช่องว่างอากาศที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ตามธรรมชาติ; การพาความร้อน จะช่วยให้ฉนวนแห้งและไม่เกิดการรั่วซึมใดๆ ฉนวนกันความร้อนเป็นเหมือนวัคซีนป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอาคารได้; ช่วยป้องกันปัญหาโครงสร้างจากการปรับปรุงตัวอาคารและยังป้องกันการรั่วซึมของความชื้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของเชื้อราและปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้

ผนังหุ้มอาคารและความคิด สร้างสรรค์ความงามที่เทียบไม่ได้ 

ผนังห่อหุ้มอาคารมีบทบาทสำคัญกับอายุการใช้งานของสิ่งก่อสร้าง แต่ในด้านของการออกแบบของสถาปนิก มันยังมีในส่วนของการตกแต่งเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเพราะว่าผนังห่อหุ้มอาคารของ Danpal มาในรูปแบบสีสันที่หลากหลายและดีไซน์ที่สวยงาม มอบเอกลักษณ์ไข้กับตัวอาคารอย่างสร้างสรรค์ พร้อมๆกับตัวเลือกในการตกแต่งได้อย่างใจ — ระบบหุ้มอาคารของ Danpal สามารถกับการใช้งานได้ตามมาตรฐานความยาวสูงถึง 12 เมตร — และคุณจะเข้าใจว่าทำไมสถาปนิกถึงได้ตื่นเต้นกับผลิตภัณฑ์ของเรา 

สี เป็นสุนทรียภาพความงามที่สวยงามที่สุด แต่ Danpal ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น พวกเราเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องของสถาปัตยกรรมช่วงเวลากลางวันด้วย นั่นหมายถึง การนำแสงธรรมชาติมาออกแบบร่วมกับการใช้ระบบห่อหุ้มอาคารได้อย่างง่ายดาย ด้วยผนังห่อหุ้มที่จะช่วยปกป้องการตกแต่งภายในตัวอาคาร จากการรั่วซึมของความชื้น ในขณะเดียวกันก็ให้ประโยชน์ในการเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับพื้นที่ใช้สอยภายในอย่างสวยงาม ผลลัพธ์ที่ได้ คือในเรื่องของโครงสร้างและความสวยงาม ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่โปรดปรานที่สุด 

คุณต้องการระบบห่อหุ้มอาคารด้วยหรือไม่? ติดต่อเรา เพื่อปรึกษาหารือได้เลยที่นี่!

บานเกล็ดบังแดด ช่วยปรับแสงให้กับคุณ

คุณอยากให้แสงแดดส่องเข้ามาอย่างไร? นี่ไม่ใช่เกมปัญหาเชาว์แต่อย่างใด แต่คำตอบที่แสนง่ายสำหรับคนที่ตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในการติดตั้งบานเกล็ดบังแดด คือ แสงแดดที่ส่องเข้ามาในที่ที่เราต้องการแสง ระบบบานเกล็ดปรับแสงของ Danpal ได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถ 1) รับแสงธรรมชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของการออกแบบอาคารและ 2) ให้คุณเป็นผู้ควบคุมการรับแสงได้เอง โดยแสงภายในอาคารในรูปแบบร่วมสมัย โดยเอาความสว่างจ้าของแสงแดดมาผสมผสานกับองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมเพื่อให้พื้นที่ภายในร่มเกิดความสบายตา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวความคิดของการออกแบบทางสถาปัตยกรรม หน้าต่างบานเกล็ดที่ช่วยในการปรับแสงจึงมาในรูปแบบหลากหลายสีสัน ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มความผ่อนคลายสบายตาเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ของบ้าน หรือที่ทำงานอีกด้วย

บานเกล็ดปรับแสง ช่วยระบายอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน

บางคนมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน ด้วยความเชื่อที่ว่าผู้ใช้พลังงานจะต้องมีสติและต้องเสียสละความสะดวกสบายที่ได้รับไปบ้าง แต่ผลิตภัณฑ์ของ Danpal ได้พิสูจน์แล้วว่าความเชื่อเหล่านั้นไม่เป็นจริง ด้วยบานเกล็ดปรับแสงของเราที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ไปพร้อมๆกับการดูแลสภาพแวดล้อมด้วยเช่นเดียวกัน ในช่วงเวลาต่างๆของปี อาคารส่วนมากมักจะใช้เครื่องทำความร้อนและเครื่องปรับอากาศเพื่อรักษาอุณหภูมิที่สม่ำเสมอและเหมาะสมกับสภาพอากาศ เราเองก็อยากจะอยู่ในที่อุ่นๆเมื่อลมพัดหนาว และเราก็อยากจะอยู่ในที่เย็นๆ หากสภาพอากาศด้านนอกร้อนพอที่จะทอดไข่บนถนนได้ นี่ขอมากเกินไปหรือเปล่า?

เปล่าเลย ไม่ได้ขอมากไป บานเกล็ดปรับแสงจะช่วยปรับเปลี่ยนสภาพอากาศเหล่านั้นได้ ในช่วงเวลาที่เราไม่ต้องการความร้อน หรือความเย็นใดๆ สิ่งที่เราต้องการมีเพียงอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อนๆ เพียงแค่ปรับบานเกล็ดเพื่อให้อากาศเข้ามามากที่สุดอย่างที่คุณต้องการและสามารถดูได้ว่า แสงแดดจ้าเกินไปไหม คุณไม่ต้องมี HVAC เลยก็ได้ เพื่อการประหยัดพลังงานและคุณก็ได้รับความสะดวกสบายมากกว่า ถึงแม้ว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลงบ่อยแต่ด้วยบานเกล็ดบังแสงของเรา คุณเองก็สามารถตัดสินใจเองได้ 

บานเกล็ดปรับแสงและอากาศที่บริสุทธิ์ 

มันก็มีโอกาสที่คุณจะรู้สึกว่ามีลมพัดเข้ามาด้านในแต่คุณไม่ได้เปิดพัดลม อาจจะมีลมพัดมาจากที่ไหนสักแห่ง แต่ถ้าคุณติดตั้งบานเกล็ดบังแสงคุณจะรู้สึกว่า พื้นที่ภายในมีอากาศถ่ายเทได้สะดวกกว่า เรียกว่าเป็นการระบายอากาศก็ได้ เพราะอากาศด้านนอกจะถูกถ่ายเทเข้ามาด้านในตัวอาคาร อากาศบริสุทธิ์จากด้านนอกในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นและการปรับมุมของหน้าต่างบานเกล็ดจะทำให้อากาศเข้ามาในแบบที่คุณต้องการ ถ้าเราทำงานหนักๆ แทนที่จะทนกลิ่นเหม็นอับ อากาศบริสุทธิ์ก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นด้วยได้ ถ้าหากว่าเป็นบ้านของเรา เราก็อยากให้ลมพัดเข้ามารับอากาศบริสุทธิ์ได้ทุกวัน

วันนี้อยากให้แสงแดดส่องเข้ามา อย่างไร?

แสงแดดก็มีเวลาของมันเอง ซึ่งจะเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆตามช่วงเวลาของวัน วันไหนที่แสงแดดส่องเข้ามาและมีแสงสะท้อนแยงตา คุณสามารถสบายใจได้ว่า บานเกล็ดปรับแสงจะช่วยควบคุมแสงแดดที่ส่องเข้าออกอย่างเหมาะสมที่สุด

ติดต่อ Danpal เพื่อขอคำแนะนำสำหรับบานเกล็ดปรับแสง เพื่อโครงการสิ่งก่อสร้างใหม่ๆที่ดีกว่า

ฟาซาดช่วยให้อาคารแข็งแรง ดูน่าสนใจและประหยัดพลังงานมากขึ้น

การออกแบบอาคารมีข้อควรพิจารณาหลายประการ สถาปนิกจะมีภาพอาคารอยู่ในความคิดอยู่แล้ว แต่กระบวนการออกแบบจะต้องคำนึงถึงการวิเคราะห์ ขั้นตอนการสร้างอย่างครอบคลุม ซึ่งสภาพอากาศเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการวางแผนของสถาปนิกเสมอ: อาคารหลังนี้อยู่ในภูมิภาคที่มีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น มีหิมะและฝนตกหรือไม่? แดดจะแรงไหม? เป็นพื้นที่ที่มีลมพัดแรงหรือไม่? สภาพอากาศรุนแรงแค่ไหนและจะส่งผลกระทบต่อตัวอาคารได้อย่างไร? สถาปนิกจะเป็นผู้สร้างแบบขึ้นโดยคำนึงถึงสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม กฎข้อบังคับและความมีสุนทรียภาพ และนอกจากนี้พวกเขายังต้องเอาใจใส่ลูกค้าที่กำลังออกแบบอาคารอย่างกระตือรือร้นอีกด้วย นอกจากนี้ ลูกค้ามักจะกังวลเกี่ยวกับต้นทุนในการออกแบบ: จะต้องมีค่าบำรุงรักษาเท่าไหร่? มันจะอยู่ได้นานไหม? มันจะเป็นไปที่คาดหวังไว้หรือไม่?

การพิจารณาในเรื่องต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ผู้นำในอุตสาหกรรมการก่อสร้างอย่าง Danpal ได้แนะนำฟาซาดติดบริเวณด้านหน้าของอาคารเพื่อลดความกังวลของสถาปนิกและลูกค้าลง Danpal facades ผสมผสานความแข็งแกร่งที่เหนือเกินบรรยายแต่มีน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและมีความคงทนสูง 

จุดเด่นของฟาซาด Danpal ที่เหนือกว่า 

ฟาซาดของ Danpal มีความคงทนต่อสภาพอากาศและป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าสู่ตัวอาคารได้ ด้วยเทคโนโลยีไมโครเซลล์ที่ช่วยป้องกันการซึมของน้ำและอากาศเข้าสู่ตัวอาคาร มีระบบล็อคแบบดับเบิ้ลคลิก (double-click) ที่มีความทนทานต่อแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีตัวเชื่อมต่อแบบ snap-lock ป้องกันความชื้น   

ฟาซาดที่สามารถใช้งานร่วมกับระบบแสง 

แสงธรรมชาติ (Natural light) เป็นนวัตกรรมของวัสดุก่อสร้างที่ยอดเยี่ยมที่สุด โดย Danpal facades ยืนหนึ่งในเรื่องฟีเจอร์การใช้งานร่วมกับระบบแสง ด้วยระยะห่างเพียงเล็กน้อยระหว่างโครงของแผงกระจกฟาซาดช่วยให้แสงธรรมชาติกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้พื้นที่ทำงานภายในและพื้นที่ใช้สอยดูกว้างขวาง ในขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันปัญหาจากแสงแดดด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นแสงที่ดีแต่ก็สร้างปัญหาให้กับตัวอาคารได้ จึงเป็นเหตุผลที่เราคิดค้นระบบกระจายแสงสำหรับการป้องกันรังสี UV ซึ่งช่วยให้อาคารมีอายุการใช้งานยาวนานมากยิ่งขึ้น

การสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพโดย Danpal Facades 

โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ฟาซาดที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถทำการปรับเปลี่ยน “U” และ “R” ที่ทำให้ฉนวนกันความร้อนทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ซึ่งผู้บริโภคในปัจจุบันคาดหวังให้สถานที่ทำงานและที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และ Danpal มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ เราให้ความสำคัญเกี่ยวกับ Global Vision วิสัยทัศน์รักษ์โลก Local Focus การให้ความสำคัญกับชุมชน ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าของเรา

การคำนึงถึงสุนทรียศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งในความน่าดึงดูดใจของ Danpal Façade

ไม่จำเป็นต้องออกแบบอาคารให้ดูน่าเบื่อ เมื่อ Danpal มีตัวเลือกให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสีต่างๆ แบบสำเร็จและพื้นสัมผัสในรูปแบบใหม่ที่ตื่นตาและเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับอาคารของคุณ ผลิตภัณฑ์ฟาซาดจะทำให้สถาปนิกไม่ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้การสร้างอาคารเป็นมากกว่าเพียงสิ่งก่อสร้างเหมือนที่ผ่านมา

Danpal Facades ใช้งานได้ง่ายมาก 

Danpal มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ฟาซาดของเราจึงได้รับการออกแบบให้ตัวข้อต่อประสานตัวอย่างเรียบเนียนกับโครงสร้างภายนอก หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพก็สามารถทำการบิด  หรือดัดตัวฟลัชด้านนอกได้  

เลือก Danpal façade เท่ากับเลือกความแข็งแกร่ง ความสวยงาม ความยืดหยุ่นและความคงทน และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด! 

ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฟาซาดไหม? ติดต่อพวกเราเลย!

ฟาซาดที่สวยสง่า เป็นหนึ่งในวิธีปกป้องอาคารไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ

Danpal ผู้นำอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่มีประสบการณ์กว่าครึ่งศตวรรษ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการผลิตสินค้าคุณภาพสูงที่มาพร้อมประสิทธิภาพเหนือกว่าอยู่เสมอ เรามุ่งมั่นในความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าวัสดุที่ซื้อจากเรานั้นจะไม่ทำลายระบบนิเวศวิทยาอย่างที่ลูกค้ากังวลแน่นอน ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัทเราหันมาใส่ใจและเป็นผู้บุกเบิกในแนวคิดนี้ แต่เราก็ยังมีส่วนสร้างสรรค์ให้กับสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารสถานที่ ความสร้างสรรค์ที่ลงตัว แสดงให้เห็นประสิทธิภาพอย่างชัดเจนจากฟาซาดอาคารของเรา ฟาซาดอาคารเป็นทั้งองค์ประกอบด้านความงามและการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างส่วนประกอบ

สร้างความลงตัวของฟาซาดให้เข้ากับพื้นที่ใกล้เคียง

เรามีตัวเลือกสี พื้นผิว และการตกแต่งที่หลากหลาย เพื่อให้สถาปนิกสามารถเลือกได้ตามชอบเพื่อให้ฟาซาดอาคารมีลักษณะลงตัวเข้ากับสถานที่ แต่ละอาคารต่างมีวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ให้ผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือที่ทำงาน ดังนั้นโครงสร้างภายในนั้นต้องปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับผู้ที่ใช้เวลาอยู่ในนั่น แต่ทั้งนี้อาคารก็ยังมีย่านพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ด้วย ดังนั้นรูปลักษณ์ภายนอกจึงเป็นส่วนหนึ่งในแนวทางที่จะเข้ากับชุมชนโดยรอบ อาคารของคุณตั้งอยู่ในใกล้ย่านที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมมากกว่า หรืออยู่ในย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ฟาซาดที่คุณเลือกสามารถผสมผสานกับสไตล์ที่เข้ากับตำแหน่งที่ตั้งของอาคารมากที่สุด ฟาซาดสามารถปรับรูปลักษณ์ภายนอกของอาคารได้ เพื่อช่วยสร้างความประทับใจในเชิงบวกแก่ผู้อาศัยหรือผู้คนที่ผ่านมาเห็น

ความแข็งแกร่งของฟาซาด ช่วยป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศ

เทคโนโลยี Microcell เป็นหัวใจสำคัญของงานฟาซาด Danpal ความทนทานต่อแรงกระแทกสูงที่ได้จากเทคโนโลยีไมโครเซลล์ ช่วยให้อาคารสามารถทนต่อความเสียหายที่เกิดจากลูกเห็บได้ ระบบเชื่อมต่อแบบ snap-lock ช่วยป้องกันน้ำและอากาศไม่ให้ซึมเข้าในอาคารและป้องกันการเกิดความชื้นสะสม นอกจากนี้ ฟาซาด Danpal ยังมีการป้องกันรังสียูวี เพื่อไม่ให้พลังของดวงอาทิตย์ส่งผลอันตรายต่ออาคารของคุณเมื่อเวลาผ่านไป

ฟาซาดและความสวยงามที่ลงตัว

แสงสว่างเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่น่าดึงดูดที่สุดที่มาพร้อมกับฟาซาด Danpal แผ่นกระจกฟาซาดมีการเว้นระยะถี่ระหว่างสันโครง เพื่อให้แสงธรรมชาติจากด้านนอกสามารถกระจายเข้ามาด้านในได้อย่างสม่ำเสมอ แสงยังช่วยเพิ่มการมองเห็นที่ชัดเจน เนื่องจากองค์ประกอบอาคาร ไม่ว่าจะซ่อนหรือรวมเข้ากับกระจกทั่วไป ก็สร้างความประทับใจได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องสีสันและการตกแต่งที่หลากหลายเพื่อแปลงโฉมอาคารให้เป็นผลงานชิ้นเอกทางศิลปะ

ข้อดีด้านอื่น ๆ ของฟาซาด

สถาปนิกชื่นชอบในความยืดหยุ่นของฟาซาด Danpal ซึ่งทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ข้อต่อปกปิดด้านนอกที่ปกปิดสามารถงอและบิดได้ตามต้องการ คุณสมบัติอื่นคือการรับรองระบบนี้เป็นไปตามข้อกำหนด ISO9001 และ CSTB และเนื่องจากค่า “R” ของฉนวนหลังคาเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยฟาซาด Danpal มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ นั่นเป็นเพราะโครงสร้างเซลล์ฟาซาดที่เป็นเอกลักษณ์ทำงานร่วมกับฉนวนกันความร้อนที่เหนือระดับ เมื่อถึงเวลาที่ควรรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอันเป็นเป้าหมายสากล งานฟาซาด Danpal จึงมีส่วนทำหน้าที่ของตนเพื่อทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น

Danpal ขึ้นชื่อเรื่องการบุกเบิกสิ่งที่เรียกว่า “สถาปัตยกรรมแสงแดด” นั่นคือวิธีที่เราอธิบายแนวทางรวมแสงธรรมชาติเข้าไปในอาคารของเรา เหล่าสถาปนิกใช้ฟาซาดของเราเพื่อสร้างบรรยากาศภายในที่สามารถปรับให้เข้ากับมุมที่เปลี่ยนไปของแสง เพื่อให้ได้รับปริมาณแสงที่เหมาะสม ปรับเพิ่มความสามารถในการมองเห็นและลับกับความรู้สึกของเรา แม้ปฏิกิริยาของมนุษย์ต่อแสงธรรมชาติอาจดูเหมือนจับต้องไม่ได้ แต่จากการศึกษาพบว่ามันมีจริง

ติดต่อเรา เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับโซลูชันฟาซาดได้แล้ววันนี้! เรายินดีให้บริการคำแนะนำ เพราะเรามั่นใจเรื่องประสิทธิผลที่มีมากยิ่งขึ้นในด้านสภาพแวดล้อมที่รองรับแสงธรรมชาติ

การเลือกวัสดุก่อสร้างอาคารสีเขียว

ในศตวรรษที่ 21 ได้เห็นถึงความก้าวกน้าในความยั่งยืนที่โดดเด่นมากขึ้นจนถึงจุดที่ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมาก เราตัดสินใจเลือกอาหารที่จะซื้อ วันหยุดพักผ่อนที่จะใช้ และอาคารบ้านเรือนที่จะอาศัยอยู่ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากสิ่งที่เรากระทำ ดังที่ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมีการพัฒนามากขึ้น ทำให้เราตอนนี้หันมาให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการเลือกใช้วัสดุและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างอาคารสีเขียว เรารู้ข้อดีของการใช้วัสดุก่อสร้างสีเขียว เราได้รับประโยชน์จากการประหยัดพลังงาน การลดต้นทุนบำรุงรักษา การเพิ่มผลผลิต และสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในอาคาร เพราะการปรับเปลี่ยนพื้นที่มีต้นทุนที่ลดลง และช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการออกแบบมากขึ้น การเลือกวัสดุที่เหมาะสม เป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมาที่ให้ความสำคัญกับโลกใบนี้เป็นอย่างแรก และการทำลักษณะนี้จะช่วยให้ความเป็นอยู่ของเราดีขึ้นด้วย

ในฐานะบริษัท Danpal ที่ยังคงยึดมั่นในหลักการของความยั่งยืนตลอดการดำรงในธุรกิจของเรา ด้วยสโลแกน Global Vision, Local Focus ที่ตอกย้ำแนวทางปฏิบัติของเรา และแสดงความยึดมั่นในนโยบายถึงสิ่งที่เราผลิตว่า จะต้องไม่เป็นอันตรายต่อโลกหรือผู้คนที่อาศัยอยู่บนนั้น แม้เป็นเป้าหมายที่สูงเกินเอื้อม แต่เรามั่นใจว่านี่เป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้เช่นกัน การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นวิธีดูแลตัวเองเช่นกัน เพราะสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อโลก ในท้ายที่สุดจะย้อนกลับมากระทบต่อเราทุกคน ทรัพยากรธรรมชาติของเราต้องได้รับการคุ้มครอง เพื่อให้ทรัพยากรเหล่านั้นค้ำจุนเราต่อไป เราไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากน้ำที่สะอาดและสามารถดื่มได้ อากาศที่เราหายใจได้ และดินที่สามารถปลูกอาหารให้เรากินได้

องค์ประกอบของวัสดุก่อสร้างสีเขียว

การใช้วัสดุและผลิตภัณฑ์อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีบทบาทในการปกป้องสิ่งแวดล้อมหลายแง่มุมจากการส่งเสริมให้อนุรักษ์ทรัพยากรที่ไม่สามารถหมุนเวียนได้ ประโยชน์อีกประการหนึ่งคือ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากกระบวนการการสกัด การขนส่ง การแปรรูป การทำแม่พิมพ์ การติดตั้ง การใช้ซ้ำ การรีไซเคิล และการกำจัดวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างขึ้นจากทรัพยากรหมุนเวียน สิ่งเหล่านี้จึงส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราคำนึงถึงผลกระทบตลอดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์

เกณฑ์การคัดเลือกวัสดุสร้างอาคารสีเขียว

วัสดุที่ประหยัดทรัพยากร

  • ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล
  • ใช้วัสดุธรรมชาติและวัสดุหมุนเวียน
  • ผลิตด้วยกระบวนการที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
  • ผลิตจากวัสดุและส่วนประกอบที่หาได้ในท้องถิ่น
  • ใช้วัสดุที่ได้รับการบูรณะ ตกแต่งใหม่ นำมาใช้ใหม่ รีไซเคิลได้
  • เป็นการแสดงความรับชอบ

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด

  • โดยใช้วัสดุที่ช่วยลดการใช้พลังงานในอาคารและจากสิ่งอำนวยความสะดวก

คุณภาพอากาศภายในอาคารเพิ่มขึ้น โดยใช้วัสดุที่

  • ปล่อยสารก่อมะเร็งเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
  • ปล่อยสารเคมีน้อยที่สุด
  • ติดตั้งด้วยสารประกอบที่ผลิต VOC น้อยที่สุด
  • มีความทนทานต่อความชื้น
  • ทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องพึ่งสารพิษ
  • ส่งเสริมคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีต่อสุขภาพ

เกณฑ์อื่น ๆ ได้แก่ ความคุ้มค่าในการเลือกใช้วัสดุและบทบาทในการช่วยอนุรักษ์น้ำ

การเลือกวัสดุสร้างอาคารสีเขียว

หลังจากกำหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมเฉพาะโครงการแล้ว ผู้บริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สามารถอาศัยการวิจัย การประเมินผล และการคัดเลือกเพื่อเลือกวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ งานวิจัยรวมถึงการรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคที่มีอยู่ทั้งหมดที่นำมาใช้ประเมิน ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณกำลังกำหนดตัวเลือกทั้งหมด การประเมินนั้นประกอบด้วย การยืนยันข้อมูลทางเทคนิค และหากยังขาเหลือ ให้ค้นหาข้อมูลที่ยังขาด เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ใด จำเป็นต้องมีเมทริกซ์การประเมินที่ใช้กำหนดคะแนนของเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมเฉพาะโครงการ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด จะถูกกำหนดเป็นคะแนนรวมของแต่ละผลิตภัณฑ์

ความมุ่งมั่นของ DANPAL ต่อความยั่งยืนและการคัดเลือกวัสดุสร้างอาคารสีเขียว

อาคารที่เราออกแบบและสร้างขึ้นสามารถมีบทบาทที่เกี่ยวเนื่องในความยั่งยืนโดยรวมของโลกใบนี้ซึ่งเป็นบ้านของพวกเราทุกคน ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม!

ระบบหุ้มอาคาร: เสริมการป้องกันให้กับอาคารของคุณ

สิ่งปลูกสร้างของคุณต้องได้รับการปกป้องจากตัวทำลาย เช่น พายุฝนที่ตกหนักตามฤดูกาลที่ส่งผลกระทบต่อตัวอาคารและจนทำให้เกิดความเสียหายราคาแพงได้ ในช่วงฤดูหนาว หิมะเป็นศัตรูตัวฉกาจอีกตัวหนึ่งที่อาจสร้างความเสียหายต่ออาคารของคุณต้องที่เกิดจากแรงลมหนาวพัด การก่อตัวเป็นน้ำแข็งโดยเฉพาะหิมะที่ก่อตัวหนาบนหลังคา นอกจากนี้ลูกเห็บเป็นอีกหนึ่งธรรมชาติที่ไม่เป็นมิตรกับอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง เพราะมักสร้างความเสียหายต่อสิ่งก่อสร้างด้วยแรงกระแทกลงมาอย่างรุนแรง ดังนั้นเพื่อให้อาคารยังคงสภาพดี กันน้ำและกันอากาศได้ ทนทานต่อสภาพอากาศที่จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย คุณจำเป็นต้องมีระบบคุ้มกันอาคาร

การหุ้มอาคาร คือการปกป้องอาคารไม่ให้เกิดความเสียหาย ติดตั้งด้านนอกอาคารเพื่อเป็นเกราะป้องกันสภาพอากาศ การเลือกตัวช่วยป้องกันอาคาร เริ่มตั้งแต่การเลือกบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างโดยเน้นที่ชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมองหาบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาวัสดุคุณภาพสูงที่ให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด

สภาพอากาศเป็นศัตรูตัวฉกาจทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นเกราะหุ้มอาคารของคุณจึงต้องพร้อมตลอดเวลาเพื่อรับมือกับการโจมตีเหล่านี้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าสภาพอากาศมันควบคุมไม่ได้ และในปัจจุบันความรุนแรงของพายุก็เพิ่มขึ้นหนักเรื่อย ๆ เราจึงต้องเตรียมการปกป้องที่ดีสำหรับอาคารของเรา  บริษัท Danpal มีชื่อเสียงด้านการให้บริการระบบหุ้มอาคารเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากสภาพอากาศที่รุนแรง

แผ่นโพลีคาร์บอเนต MICROCELL ช่วยให้การหุ้มอาคารของคุณแข็งแรงยิ่งขึ้น

อยากให้ตัวหุ้มอาคารของคุณแข็งแกร่งและทนทานหรือไม่ มั่นใจได้เลยว่าแผ่นหุ้มอาคารโพลีคาร์บอเนต Microcell ของ Danpal สามารถช่วยได้ ด้วยเทคโนโลยีไมโครเซลล์และแผ่นโพลีคาร์บอเนต ที่รวมพลังเป็นฮีโร่ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งสูงสุดเพื่อปกป้องอาคารจากสภาพอากาศตามฤดู แผ่นหุ้มมีรอยบากสองครั้งเพื่อเสริมความแข็งแรง กันน้ำและป้องกันไม่ให้ความชื้นซึมผ่านไปได้

 แผ่นหุ้มที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

 เทคโนโลยีไมโครเซลล์มีน้ำหนักเบากว่าวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ที่มีในตลาดถึง 3 เท่า แต่ก็ยังคงความยืดหยุ่นและใช้งานได้ง่ายกว่า ด้วยน้ำหนักที่เบาลงไม่ได้หมายความว่าไม่แข็งแรง อันที่จริงมันค่อนข้างตรงกันข้ามเนื่องจากความยืดหยุ่นของแผ่นหุ้ม Danpal มักเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า เพราะติดตั้งง่ายมาก เชื่อมต่อง่ายขึ้นเมื่อมีระบบการรองรับน้ำหนัก นั่นหมายความว่าไม่จำเป็นต้องมีโครงหนุนกรอบเพิ่มเติม ลูกค้าจึงพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้และยังช่วยให้ประหยัดเงินได้ แถมใช้เวลาติดตั้งน้อยลง

 ระบบกันฝนที่สามารถระบายอากาศได้ คือ ซุปเปอร์ฮีโร่ของระบบการหุ้มอาคาร

 หากกำลังมองหาระบบหุ้มที่ทำให้อาคารของคุณดูเหมือนได้รับการปกป้องโดยซูเปอร์ฮีโร่ คุณอาจต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบกันน้ำฝน VRS ของ Danpal  ด้านระบบ VRS ของเรานี้เป็นแม่แบบให้กับระบบอื่น ๆ ตามระเบียบข้อบังคับของรัฐบาลกลางที่กำหนดไว้  ด้วยวัสดุน้ำหนักเบา ติดตั้งได้รวดเร็ว และมีคุณสมบัติที่สามารถวางบนโครงสร้างได้หลากหลายแบบ เพราะเชื่อมต่อได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มสถาปนิก เพราะมีตัวเลือกสีจำนวนมาก

 ตัวคุ้มกันที่แข็งแกร่งแต่ยังคงความโดดเด่น ที่อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ Danpal สัมผัสได้จากการเป็นตัวช่วยป้องกันให้กับอาคารของคุณ

 ปรึกษาแนวทางติดตั้งระบบหุ้มอาคาร ติดต่อเราวันนี้!

 

อาคารเขียวคือเป้าหมายของการก่อสร้างในอนาคต

ในยุคสังคมปัจจุบันที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ยุคที่สีเขียวไม่ได้เป็นเพียงแค่สี แต่ยังเป็นข้อความและความมุ่งมั่น หลายบริษัทต่างภูมิใจที่ได้อวดแนวทางปฏิบัติเชิงนิเวศวิทยาของตนเอง เหล่านักการเมืองรวมประเด็นเรื่องสภาพภูมิอากาศไว้ในข้อความหาเสียงของตัวเอง และหลายคนต่างพูดถึงประเด็นถกเถียงเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสิ่งที่สังคมอุตสาหกรรมต้องทำเพื่อลดมลพิษทางอากาศ คนดังใช้ชื่อเสียงของตัวเองเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติที่ยั่งยืน เด็กนักเรียนถูกปลูกฝังให้รักษ์โลก เราทุกคนตระหนักดีว่าดิน น้ำ และอากาศ ล้วนเป็นส่วนแบ่งที่เปราะบางในวงจรชีวิตที่เชื่อมโยงถึงกัน โลกของเราต้องเผชิญกับมลภาวะอย่างยาวนาน แต่ด้วยความตระหนักของผู้คนจากทุกสาขาอาชีพในยุคปัจจุบัน ที่ต่างมุ่งมั่นที่จะระลึกถึงคุณของแผ่นดินโลก ดังที่เราทุกคนต่างให้คำมั่นสัญญาที่จะ “อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม”

ในแง่ของผลิตภัณฑ์ Danpal มักจะใส่ใจในความยั่งยืน และด้วยไลฟ์สไตล์ของคนเราก็ควรเป็นสิ่งที่ยั่งยืนเช่นกัน ทางด้าน Danpal เองไม่ได้มองข้ามความจริงที่ว่า แรงงานเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย เช่นเดียวกับที่นักช็อปได้รับการกระตุ้นให้ “ซื้อสินค้าท้องถิ่น” เพื่อจะได้ซื้อสินค้าโดยใช้เวลาเดินทางน้อยลง ดังนั้น ฟาซาด ฝ้าเพดาน สกายไลท์ หลังคาและที่บังแดด ที่ Danpal ผลิตขึ้นมา จึงมีความสะดวกพร้อมติดตั้งเมื่อมาถึงไซต์งาน

คำมั่นสัญญานั้นขยายไปถึงวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างด้วย เมื่อจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น โลกการค้าก็ย่อมตระหนักดีว่าเรามีส่วนสำคัญในการร่วมเดินทางครั้งนี้ ดังนั้นสโลแกนการดำเนินการของ Danpal ที่ว่า Global Mission, Local Focus จึงใช้ได้มาโดยตลอด เพราะการใส่ใจกับแนวทางปฏิบัติแบบองค์รวมเพื่อช่วยโลกจึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเรา และยึดมั่นที่จะสร้างอาคารสีเขียวต่อไป

ทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบอาคารสีเขียว

การใช้วัสดุธรรมชาติและวัสดุหมุนเวียน เป็นวิธีที่เราปฏิบัติด้านการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เราควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ที่ตกแต่งใหม่หรือนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ เพื่อคงความมีประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากร ด้านบรรจุภัณฑ์ถือเป็นส่วนสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่บรรจุภัณฑ์สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ จะช่วยทำให้ไลฟ์สไตล์ของเราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกที่ดียิ่งขึ้น

ในการที่จะสร้างอาคารสีเขียวอย่างแท้จริงนั้นจะต้องเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจทุกกระบวนการก่อสร้าง และวัสดุที่ใช้ นั่นหมายความว่าการสกัด การผลิต การแปรรูป การขนส่ง การติดตั้ง การรีไซเคิล การใช้ซ้ำ และการกำจัดวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจะต้องสอดคล้องกับหลักความจริงของความยั่งยืน

การกำหนดอาคารสีเขียว

หนึ่งวิธีในการตรวจสอบว่าอาคารเป็นสีเขียวหรือไม่ คือการพิจารณาคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) และจะต้องเป็นอาคารที่ไม่ใช้หรือแทบจะไม่ใช้วัสดุที่ปล่อยสารก่อมะเร็งหรือสารเคมีเลย หรือใช้วัสดุที่ไม่เป็นพิษและทนต่อความชื้น และเป็นวัสดุที่ใช้สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) ในการติดตั้งน้อยที่สุด ดังนั้นเรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) จึงเป็นหลักการใช้วัดและกำหนดอาคารสีเขียว

น้ำเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่มีส่วนในกระบวนการกำหนดอาคารสีเขียว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดการใช้น้ำ จะช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่เราทุกคนยังต้องพึ่งพา แต่เริ่มขาดแคลนในหลายพื้นที่โลกไปมากแล้ว

เศรษฐกิจโลกยังถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดอาคารสีเขียว วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสีเขียวควรมีราคาไม่แพงเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้โดยทั่วกัน

Danpal ผู้มีส่วนร่วมแรงกล้าในสงครามครูเสดนี้ด้านการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เราปฏิบัติตามกฎระเบียบของรัฐบาลกลางและข้อบังคับการออกแบบอาคารที่กำหนดใช้กับตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Danpal มีมุมมองว่าโลกคือเพื่อนบ้านของเรา และขณะที่เราดูแลชุมชนอยู่นั้น เราต้องทำสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมของเรา อาคารสีเขียวเป็นหนทางหนึ่งที่เราสามารถส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืนในทุก ๆ วัน และเป็นการสร้างความสัมพันธ์แบบองค์รวมระหว่างตัวเรากับธรรมชาติ

อาคารสีเขียวเป็นวิธีที่ทำให้โลกมีชีวิตได้ในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญต่อสังคมของเรา ด้าน Danpal จึงทุ่มเทอย่างมากในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างโลกธรรมชาติกับโลกที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกแนวทางการใช้วิธีการประเมินผลแสงธรรมชาติ หรือการรวมแสงธรรมชาติเข้าในอาคารของเรา ระบบของเราจึงได้รับการยกย่องสูงสุดในด้านคุณสมบัติของฉนวนและความต้านทานเชิงกลที่มีประสิทธิภาพ

ในฐานะบริษัทระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในหลาย ๆ ทวีป เราเข้าใจลักษณะการเชื่อมต่อภูมิภาคต่าง ๆ ได้ดีกว่าบริษัทอื่น ๆ ที่มีตลาดที่จำกัด การพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่สนับสนุนอาคารสีเขียวและการรักษามาตรฐานความเป็นเลิศของ Danpal สะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์เกี่ยวกับสภาพอากาศและรูปแบบสภาพอากาศในภูมิภาคต่าง ๆ

ทุกการออกแบบของเราจะคำนึงถึงอนาคต เพื่อให้โครงสร้างของเรายังคงยืนหยัดเพื่อคนรุ่นต่อไป การสร้างผลิตภัณฑ์ในวันนี้ จะพาเราไปสู่อนาคตได้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ และนั่นคือแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ชาญฉลาดที่ตอกย้ำเป็นคติประจำใจที่ว่า Global Vision, Local Focus

เมื่อโลกดีกับเรา อาคารสีเขียวจึงเป็นวิธีสำคัญที่สามารถตอบแทนความดีนั้นได้

เวลาและแรงงานเป็นปัญหายืนยาว

การลดชั่วโมงทำงานช่วยลูกค้าประหยัดเวลาได้อย่างมาก และยังเหมาะสำหรับไซต์งานก่อสร้างที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเปิด หรือภายใต้สภาวะที่อาจเป็นปัญหาได้

ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เป็นคติประจำใจ แต่เป็นวิถีชีวิต

การใช้ชีวิตในอาคารสีเขียวจะช่วยเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานของเราไปอย่างสิ้นเชิง เราเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรที่ไม่สามารถใช้หมุนเวียนได้ หลักการนี้ส่งเสริมให้เราทุกคนลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่มาพร้อมกับการแยกสสาร การขนส่ง การแปรรูปโลหะ การดำเนินการ การติดตั้ง และการกำจัดวัสดุก่อสร้าง เมื่อมีการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิล ย่อมเป็นการสร้างนิสัยที่ทำให้เราเป็นผู้พิทักษ์โลกอย่างมีความรับผิดชอบ

สถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน จึงเป็นความพยายามร่วมกันของคนในวงการงานก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นในทรัพยากรธรรมชาติของเรา การเลือกใช้ วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ระบบหุ้มอาคารที่ทันสมัย ความสมดุลของประสิทธิภาพพลังงานแสงอาทิตย์และความร้อน และการนำแสงธรรมชาติเข้าในอาคาร ล้วนเป็นประเด็นหลักที่ต้องแก้ไข ซึ่งทาง Danpal ได้เตรียมแนวทางแก้ไขเฉพาะนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ยินดีต้อนรับสู่โลกใหม่ที่กล้าหาญ หรือที่เรียกว่าสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน

ปรึกษา Danpal เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน ให้กับงานก่อสร้างต่อไปของคุณในอนาคต

 

อะไรที่ทำให้งานหุ้มผนังภายนอก VRS ของ Danpal เหนือกว่าใคร

งานหุ้มผนังภายนอก เป็นทางเลือกที่ดีถ้าคิดจะปรับปรุงหรืออัพเกรดอาคารที่มีอยู่ของคุณ การอัพเกรดอาคารนั้นมีหลายสาเหตุตามช่วงเวลาที่ควรปรับปรุง หลายครั้งที่โครงสร้างอาคารได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศที่รุนแรง ทำให้อาคารไม่น่ามองเหมือนเดิม ด้านหน้าอาคารอาจดูเก่า ๆ เนื่องจากการออกแบบที่ล้าสมัยไปแล้ว หรืออาจมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้อาคารมีความแตกต่างไปจากเดิม

จึงต้องมีโซลูชันของ การหุ้มผนังภายนอก เข้ามาเป็นตัวเลือกในการปรับปรุงและปรับรูปลักษณ์โดยรวมของอาคาร แต่ตัวเลือกในตลาดนั้นมีมากมายที่สามารถแก้ไขปัญหาอาคารให้ได้อย่างเหมาะสม แล้วเราจะแยกความแตกต่างระหว่างวัสดุและระบบการหุ้มเหล่านี้ได้อย่างไรเพื่อที่จะเลือกได้อย่างถูกต้อง ทาง Danpal ได้ตระหนักในคำถามนี้ในระหว่างการพัฒนา โซลูชันการหุ้ม VRS Danpal โดยจุดประสงค์เบื้องหลังโซลูชันการหุ้ม VRS นี้ไม่ใช่แค่การสร้างตัวเลือกการหุ้มที่สวยงามเท่านั้น แต่เป็นการเสนอแนวคิดใหม่โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความสวยงามของวัสดุหุ้มที่ตั้งใจไว้อย่างทั่วถึงกัน

หนึ่งตัวแปรสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ ผลกระทบของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการหุ้มผนังภายนอกแบบใหม่ที่จะพอดีกับโครงสร้างที่มีอยู่ ทาง Danpal ตระหนักดีถึงผลประทบนี้ ซึ่งเป็นโอกาสในการพัฒนาระบบให้ช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์ ผลที่ได้คือการผสานรวมแผงมัลติเซลล์ Danpalon น้ำหนักเบาเข้ากับระบบหุ้ม การพัฒนานี้สร้างโซลูชันที่แข็งแกร่ง ทนทาน แต่น้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อ อยากรู้ว่าเบาแค่ไหน? บอกได้ว่าเบากว่าวัสดุหุ้มอื่น ๆ ทั่วไปที่ใช้ในอุตสาหกรรมถึง 10 เท่า และจากมุมมองงานวิศวกรรมโครงสร้าง จึงจัดให้โซลูชันการหุ้ม VRS Danpal เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เพิ่มน้ำหนักส่วนเกินให้กับอาคาร

โดยปกติในท้องตลาดมีตัวเลือกการหุ้มผนังที่ทำให้อาคารดูดีด้านความสวยงามเป็นหลัก แต่ปรับเรื่องประสิทธิภาพในการระบายความร้อนหรือการป้องกันสภาพอากาศเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสภาพเมืองในยุคนี้ต้องเผชิญกับมลภาวะและสภาพอากาศที่เลวร้าย ภายนอกอาคารจึงได้รับผลกระทบในทุกวัน ทางแก้ไขคือการติดตั้งระบบหุ้มผนังภายนอกที่ทนต่อทุกสภาพอากาศ ซึ่งสามารถปกป้องและยืดอายุการใช้งานด้านนอกอาคารได้ คำตอบของ Danpal คือระบบที่ให้การผนึกเชิงกลแบบแห้งกับองค์ประกอบต่าง ๆ และยึดกับผนังภายนอกได้ดีซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้เกิดช่องว่างอากาศ

โซลูชันการหุ้มผนัง VRS Danpal

โซลูชันการหุ้ม VRS Danpal ของเราได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้มีอากาศหมุนเวียนได้ตามธรรมชาติผ่านกระแสลมที่สร้างขึ้นระหว่างผนังกับวัสดุหุ้ม Danpalon ของเรา การเคลื่อนที่ของอากาศอย่างอิสระนี้ ควบคู่ไปกับการใช้แผง Danpalon แบบหลายเซลล์ของเรา เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเป็นฉนวนความร้อนของอาคาร ระบบการหุ้มผนังภายนอก VRS ของเราจะช่วยปรับอุณหภูมิของโครงสร้างได้โดยเฉพาะ ทำให้ลดค่าดำเนินการรายเดือนของระบบ HVAC ที่มีอยู่

นอกจากนี้ Danpal ยังมองเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างระบบกรอบอาคารให้สะดุดตาและดึงดูดสายตา ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาของการพัฒนา Danpal ได้ผลิตแผงโพลีคาร์บอเนตไมโครเซลล์ Danpalon ออกมาหลายแบบทั้งรูปแบบสีและการใช้งานให้เลือกอย่างที่ไม่มีผู้ผลิตเปลือกหุ้มผนังเจ้าไหนทำ แผงที่มีพื้นผิวโลหะที่เราพัฒนาขึ้นมาทั้งหมดเป็นสีทึบแสงและโปร่งแสงในระดับที่แตกต่างกัน โซลูชันของDanpal มอบเอฟเฟกต์แสงหลายแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกับความสวยงามของรูปลักษณ์เปลือกหุ้มที่ไม่เหมือนใคร จนกลายมาเป็นโซลูชันการหุ้ม VRS ที่มาพร้อมองค์ประกอบอันสุนทรีที่ช่วยอัพเกรดการหุ้มผนังของคุณไปสู่อีกระดับ

ระบบการหุ้มผนังภายนอก ต้องรับประกันคุณภาพทั้งในด้านการผลิตและประสิทธิภาพ ซึ่งทาง Danpal เป็นหนึ่งในผู้ให้การรับประกัน คุณจึงสามารถไว้วางใจในเรื่องโรงงานผลิตเพราะผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 และ 14001 เราผลิตระบบกรอบอาคารภายในทั้งหมด จึงสามารถควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดที่สุดได้ ในขั้นตอนการผลิตเราจะประทับหมายเลขซีเรียลที่ไม่ซ้ำกันบนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดหรือบนแผง Danpalon ทำให้เราสามารถติดตามประสิทธิภาพของแผงที่ใช้ได้ทั่วโลก และช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเมื่อติดตั้งวัสดุหุ้มผนังภายนอก VRS Danpal บนอาคารแล้ว คุณจะได้รับการรับประกัน 10 ปีทั่วโลกครอบคลุมถึงพื้นที่คุณ

อะไรที่ทำให้โซลูชัน VRS ของ Danpal แตกต่างจากระบบหุ้มทั่วไปในตลาด เราได้คิดค้นระบบป้องกันสภาพอากาศแบบเคลือบแห้งโดยใช้แผงไมโครเซลล์ Danpalon ที่ทนทานและน้ำหนักเบาที่ผ่านการทดลองและทดสอบแล้ว ระบบหุ้มของเรามีให้เลือกหลายสีและมีพื้นผิวคุณภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ในตลาด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ีไม่มีใครเหมือน โซลูชัน VRS มอบการผสมผสานระหว่างคุณค่าด้านสุนทรียภาพอันน่าทึ่งและประสิทธิภาพที่โดดเด่นพร้อมกับการรับประกันระดับสากลที่เชื่อถือได้ และด้วยเหตุนี้จึงไม่มีตัวเลือกการหุ้มผนังภายนอกอื่นใดที่สามารถรองรับโซลูชันการหุ้มผนังภายนอก VRS อย่างที่เป็นนวัตกรรมของเราได้

ปรึกษา Danpal เกี่ยวกับโซลูชันการหุ้มผนังภายนอก ให้กับโครงการก่อสร้างต่อไปของคุณในอนาคต

 

หลักการและแนวคิดเพื่อสร้างสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน

สถาปัตยกรรมที่ยั่งยืนคืออะไร จุดประสงค์คืออะไร และเหตุใดจึงมีความจำเป็นต่อสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แนวคิดของสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืนสามารถกำหนดได้ว่าเป็น “สถาปัตยกรรมที่พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากอาคารสมัยใหม่ โดยใช้วัสดุและระบบพลังงานที่ทันสมัย” ด้วยวิธีนี้ เราสามารถออกแบบและสร้างอาคารที่จะไม่ปิดกั้นโอกาสของคนรุ่นต่อไปในอนาคต

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานตลอดวงจรชีวิตของอาคารคือเป้าหมายสูงสุดของสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน ซึ่งทีมนักออกแบบจะได้รับโอกาสในการวางแผนและออกแบบอาคารโดยใช้หลักการต่าง ๆ ภายใต้ ‘อาคารสีเขียว’ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

การใช้ระบบ Danpal มีหลายวิธีที่สามารถช่วยเรื่องการใช้พลังงานอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ และการทำเช่นนี้จะช่วยสานฝันของคุณให้เป็นจริงด้านสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน

ระบบกรอบอาคาร Danpal

การใช้ระบบกรอบอาคาร Danpal สิ่งแรกที่ได้คือผลดีต่ออาคารของคุณ ซึ่งเกิดจากการเลือกวัสดุแผง Danpalon ที่เราผลิตทั้งหมด แผงไมโครเซลล์ Danpalon ทั้งหมดถูกอัดขึ้นรูปจากโพลีคาร์บอเนตคุณภาพสูง ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทานแต่น้ำหนักเบาและสามารถรีไซเคิลได้ 100% กระบวนการผลิตแผง Danpalon ของเราไม่จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิสูงตลอดการผลิตโซลูชันการเคลือบแบบเดิม ผลที่ได้คือแผง Danpalon ของเรามีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับวัสดุหุ้มอาคารทั่วไปเช่น แก้ว โดยทางเรามีข้อเสนอแรกที่ให้คุณได้บรรลุสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน

ต่อไปคือการพิจารณาและทำความเข้าใจเรื่องค่าประสิทธิภาพของแผงกระจกที่เลือกคืออะไร แผง Danpalon สามารถอัดรีดร่วมกับผิวเคลือบ Low-e ขั้นสูงได้ ซึ่งช่วยลดความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ผลลัพธ์โดยตรงคือการเพิ่มความร้อนที่ไม่ต้องการที่มีประวิทธิภาพเหนือกว่า และนักออกแบบอาคารสามารถออกแบบช่วยให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น

เมื่อแสงธรรมชาติเข้าสู่อาคารมากขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบแสงประดิษฐ์ตลอดทั้งวัน เมื่อใช้ไฟเพียงอย่างเดียว ดังนั้นการประหยัดพลังงานเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จูงใจให้ใช้โซลูชัน Danpal ซึ่งสามารถกำหนดให้เป็นเหมือนระบบอาคารสีเขียว การนำแสงธรรมชาติมาใช้ทำให้เกิดข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากเป็นการสร้างพื้นที่ภายในที่มีคุณภาพสูงหรือ H.Q.E (สิ่งแวดล้อมคุณภาพสูง) จากการศึกษาพบว่าแสงธรรมชาติมีผลในเชิงบวกอย่างมากต่อสุขภาพและจิตใจของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่นั้นทั้งหมด

ประสิทธิภาพของการระบายความร้อนอาคาร

แง่มุมต่อไปของการออกแบบอาคารที่เราต้องพิจารณาคือ ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนโดยรวม ในชิ้นงานแผงไมโครเซลล์ Danpalon เราได้กำหนดไว้แล้วว่าสามารถลดความร้อนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกระจกแบบเดิม อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการควบคุมการสูญเสียความร้อนก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ความสมดุลของปัจจัยด้านประสิทธิภาพหลักสองประการนี้ ท้ายที่สุดคือสิ่งที่กำหนด HVAC (การทำความร้อน การระบายอากาศ และความเย็น) สำหรับอาคาร ค่าใช้จ่ายในการจัดหาและติดตั้งระบบที่ตอบสนองความต้องการของอาคารสมัยใหม่นั้นอาจสูงเกินไป ต่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบำรุงรักษาระบบ HVAC ที่ติดตั้ง ที่อาจกลายเป็นภาระรายเดือนที่ไม่จำเป็น

การเลือกระบบ Danpal ให้กับโครงการก่อสร้างของคุณหมายความว่า คุณกำลังตัดสินใจที่จะยึดตามแนวทางของสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน แผง Danpalon ที่เราผลิตขึ้น ใช้เทคโนโลยีการอัดรีดขั้นสูงซึ่งสามารถสร้าง “โครงสร้างแผงไมโครเซลล์ภายใน” ได้ ระยะห่างแคบ ๆ ระหว่างเซลล์เหล่านี้ทำให้แผง Danpalon มีคุณสมบัติที่จะช่วยลดอัตราการถ่ายเทความร้อนได้อย่างมาก การลดการไหลของความร้อนจากพื้นที่ภายในสู่ภายนอกอาคารช่วยให้มีสภาพแวดล้อมที่คงที่ และลดความตึงเครียดให้กับระบบ HVAC สำหรับอาคารใหม่ใด ๆ ที่กำลังจะก่อสร้างเร็ว ๆ นี้ ทีมสถาปัตยกรรมมีโอกาสได้ปรึกษากับวิศวกร HVAC และลดต้นทุนเริ่มต้นของโซลูชัน HVAC ที่จำเป็น ผ่านการรวมระบบกรอบอาคาร Danpal ได้อย่างง่ายดาย

ด้วยการผลิตพลังงานประมาณ 40% ของโลกที่นำไปใช้ในการบำรุงรักษาอาคารในเรื่อง HVAC และจุดประสงค์ด้านแสงประดิษฐ์ การประหยัดพลังงานจึงกลายเป็นคำศัพท์ใหม่ไปทั่วโลก และด้วยธุรกิจที่มีทั่วโลก เราเห็นการออกกฎหมายเพื่อใช้เป็นมาตรการในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น ในแอฟริกาใต้ โครงการก่อสร้างใหม่ทั้งหมดต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของ SANS 208 และ 10400-XA

สถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน

สถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน จึงเป็นความพยายามร่วมกันของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นในทรัพยากรธรรมชาติ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ระบบห่อหุ้มอาคารที่ทันสมัย ความสมดุลของประสิทธิภาพพลังงานแสงอาทิตย์และความร้อน และการนำแสงธรรมชาติเข้ามาสู่อาคาร ทั้งหมดล้วนเป็นประเด็นหลักที่ต้องแก้ไข ซึ่งทาง Danpal ได้เตรียมโซลูชั่นไว้ให้คุณมากมาย ยินดีต้อนรับสู่โลกใหม่ที่แข็งแกร่งหรือสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน

ปรึกษา Danpal เกี่ยวกับโครงการสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน ให้กับงานก่อสร้างต่อไปของคุณในอนาคต

 

หลังคาใสคืออะไร

หลังคาใสคืออะไร และข้อดีของมันคือ

ไม่มีสิ่งไหนจะพิชิตแก่นแท้ของแสงธรรมชาติได้ เพราะเป็นแสงที่ทำให้บ้านดูสว่างและสวยงามขึ้น แต่เป็นที่น่าเสียดายที่บางการออกแบบปิดกั้นไม่ให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้าไปในบ้าน แสงที่ผู้อาศัยต้องการมากกว่าการเปิดไฟ ดังนั้นทางแก้ไขคือ การติดตั้งหลังคาใส การสร้างบ้านส่วนใหญ่นิยมใช้หลังคาคอนกรีต แต่ปัจจุบันมีตัวเลือกอื่น ๆ อีกมากมายให้เลือก เช่น หลังคาโพลีคาร์บอเนตหรือหลังคาใส ที่จะช่วยให้ภายในบ้านได้รับแสงจากธรรมชาติ นอกจากช่วยเรื่องแสง ยังช่วยให้คุณได้เห็นความสวยงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนและมองเห็นดวงดาวที่ส่องแสงได้จากที่บ้านของคุณเอง

ยังมีข้อดีอีกมากของหลังคาใส แต่หลายคนสงสัยว่า มันจะเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยหรือไม่ หากพูดถึงประเทศในแถบยุโรป แสงแดดเป็นสิ่งที่ขาดแคลน และสำหรับพวกเขาแล้ว หลังคาใสเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก แต่ในประเทศไทยมีสภาพภูมิอากาศที่ตรงกันข้ามถึงขั้นสุด โดยเฉพาะในฤดูร้อน ดังนั้นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ การเลือกชนิดของวัสดุที่เหมาะสำหรับหลังคาใส

ในที่นี้ เราจะพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการติดตั้งหลังคาโปร่งแสง และจะให้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับราคาของหลังคาโปร่งแสงซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้

ข้อดีของหลังคาใส

ข้อแรกและสำคัญที่สุด คือ ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในอาคาร ซึ่งในทางกลับกัน จะเป็นการช่วยเพิ่มการระบายอากาศ

  • หลังคาใสจะช่วยประหยัดการใช้ไฟในบ้าน
  • จะช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • ทำให้บ้านสว่างขึ้นและทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น

ข้อด้อย

  • การเพิ่มการระบายอากาศได้ดี แต่ไม่สามารถควบคุมปริมาณแสงที่จะส่องเข้ามาได้
  • หากเลือกใช้วัสดุไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้บ้านร้อนมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน
  • การติดตั้งต้องทำโดยผู้ชำนาญ ถ้าไม่เช่นนั้นอาจจะรั่วและน้ำฝนเทลงมาในบ้านได้
  • ต้องทำความสะอาดช่องรับแสงเป็นประจำเพื่อไม่ให้ฝุ่นเกาะ

ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งหลังคาใส

เมื่อติดตั้งหลังคาใสแล้ว สิ่งที่ควบคุมไม่ได้คือ ปริมาณแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามาในบ้าน ทางแก้คือคุณต้องเลือกใช้แผ่นกระจกซึ่งจะมีค่าการแผ่รังสีที่ต่ำ หรือเลือกใช้กระจกเงาเพื่อช่วยให้แสงแดดสะท้อนได้ แต่อาจให้ประโยชน์ได้เฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้นเพราะช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ออกไป หากเป็นช่วงฤดูหนาวแล้ว มันจะไม่ช่วยเท่าไหร่และจะทำให้ภายในบ้านเย็น

ทางแก้อีกอย่างคือการติดตั้งม่านบังแดดที่เป็นผ้าและมีขนาดพดีกับหลังคากระจกใส เพื่อช่วยเรื่องการควบคุมปริมาณแสงไม่ให้เข้ามาในบ้านมากเกินไป

ถ้าเป็นไปได้ ควรออกแบบหลังคาใสแบบเปิดได้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทความร้อนภายในออกไปและจะช่วยให้ภายในห้องเย็นลง

ประเภทวัสดุที่ใช้มุงหลังคาใส

หลังคากระจกใส

หลังคาใสที่เป็นกระจกมี 2 แบบ แบบแรกคือกระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์ และอีกแบบคือกระจกลามิเนต กระจกนิรภัยทำมาจากวัสดุเสริมความร้อน แต่ข้อด้อยคือ ถ้ามันแตกไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม มันจะแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ในทางกลับกัน แผ่นกระจกลามิเนตมีชั้นเคลือบพลาสติกอยู่ด้านล่างและจึงจะไม่แตกละเอียดเหมือนกระจกเทมเปอร์ นอกจากนี้ยังช่วยบล็อกรังสี UVA และ UVB ที่เป็นอันตราย ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน สื่งที่ควรตรวจสอบให้แน่ใจคือเรื่องคุณสมบัติการแผ่รังสีต่ำ 

หลังคาโพลีคาร์บอเนต

หลังคากระจกใช้งบประมาณเยอะที่สุด แต่ถ้าต้องการประหยัดงบลงมาหน่อย คุณสามารถมองหา ตัวเลือกที่เป็นหลังคาโพลีคาร์บอเนตได้ หลังคาชนิดนี้มีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่ายและไม่โปร่งใสหรือทึบแสง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โซลูชันของ Danpalvault

โครงสร้างสกายไลท์ทรงโค้ง

โครงสร้างสกายไลท์ทรงโค้ง Danpavault ผสมผสานข้อดีทั้งหมดของ Danpalon® เข้ากับช่องรับแสงที่มีสามารถยาวได้ไม่จำกัด ให้การผสานเข้ากับหลังคาประเภทต่าง ๆ ได้ง่าย รวมถึงแบบโลหะและคอนกรีต โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของ Danpavault จะช่วยกระจายแสงธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังให้ความทนทานที่เหนือกว่า มีฉนวนกันความร้อนและการป้องกันรังสี UV เพื่อยืดอายุการใช้งาน ระบบโครงสร้าง Danpavault สามารถติดตั้งทำเป็นช่องรับแสงแบบรองรับตัวเองหรือบนโครงสร้างโลหะที่ครอบคลุมรัศมีและช่วงกว้าง สามารถติดตั้งได้ทั้งช่วงขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่โดยการเพิ่มตัวเลือกโครงอะลูมิเนียม เช่น ตัวเว้นระยะ ราวหลังคา หรือคอนเนคเตอร์

ความยาวไม่จำกัด ติดตั้งง่ายเข้ากับหลังคาเกือบทุกชนิด

ระบบโครงสร้างสกายไลท์ Danpavault รองรับช่องรับแสงที่มีความยาวไม่จำกัด ใช้ได้กับหลังคาประเภทต่าง ๆ ได้ง่าย รวมทั้งโลหะและคอนกรีต

ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง ทั้งแบบรองรับตัวเองหรือออกแบบให้พอดีกับโครงสร้างที่ต้องการ

ระบบโครงสร้าง Danpavault สามารถติดตั้งเป็นช่องรับแสงแบบพยุงตัวเองหรือติดตั้งบนโครงโลหะที่ครอบคลุมรัศมีและช่วงกว้าง สามารถติดตั้งได้ทั้งช่วงขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่โดยการเพิ่มตัวเลือกโครงอะลูมิเนียม เช่น ตัวเว้นระยะ ราวหลังคา หรือคอนเนคเตอร์

ช่วยเรื่องการกระจายแสง

โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของ Danpavault ช่วยกระจายแสงธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ พร้อมความทนทานที่เหนือกว่า มีฉนวนกันความร้อนและการป้องกันรังสี UV เพื่อยืดอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

เทคโนโลยีไมโครเซลล์ คุณสมบัติหลักของ Danpavault 

เนื่องจากความแน่นระหว่างส่วนรองรับแนวตั้ง Danpalon® Microcell จึงมีความทนทานสูงสุดต่อการกระแทกและพายุลูกเห็บ เซลล์ที่มีความเข้มข้นสูงทำให้ Danpalon® Microcell มีคุณสมบัติทางกลและความแข็งแกร่งที่ดียิ่งขึ้น

หลังคาอะคริลิคใส

อีกทางเลือกหนึ่งที่ดีของการติดตั้งหลังคาใส คือ การติดตั้งด้วยอะครีลิคใส หลังกระจกใสนิยมใช้วัสดุที่เป็นอะคริลิกหรือที่เรียกว่า Lucite, Perspex และ Vitroflex ทั้งหมดล้วนเป็นวัสดุเดียวกัน ความแตกต่างระหว่างหลังคาโพลีคาร์บอเนตและอะคริลิกใส คือในแง่ของความทนทานและความโปร่งใส หากคุณต้องการทัศนียภาพที่ชัดเจนกว่า ให้เลือกหลังคาอะครีลิค แต่ถ้าต้องการเน้นที่ความคงทนและทนทานต่อแรงกระแทกได้ดีกว่า คุณควรเลือกหลังคาโพลีคาร์บอเนต

อยากได้คำแนะนำในการเลือกหลังคาใสที่ดีและเหมาะกับโครงการงานก่อสร้างของคุณ ติดต่อเราได้เลยวันนี้ที่ https://www.danpal.in.th/contact-us/

 

อาคารสีเขียว เป้าหมายของการก่อสร้างในอนาคต

ในสังคมที่คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน สีเขียวไม่ได้เป็นเพียงสีแต่เป็นเจตนาและความมุ่งมั่น บริษัทต่าง ๆ ล้วนภูมิใจที่ได้เผยแนวทางปฏิบัติทางนิเวศวิทยาของตนเอง นักการเมืองต่างเน้นประเด็นเรื่องสภาพภูมิอากาศไว้ในคำมั่นสัญญาช่วงการหาคะแนนเสียง และอีกหลาย ๆ คนได้มีการจัดการกับหัวข้อที่มีการโต้เถียงกันเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสิ่งที่สังคมอุตสาหกรรมต้องทำเพื่อลดมลพิษในอากาศ คนดังต่างใช้ชื่อเสียงของตัวเองเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติที่ยั่งยืน เด็กในโรงเรียนได้รับการสอนให้รักและดูแลโลก เราตระหนักดีว่าดิน น้ำและอากาศ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในวงจรชีวิตที่ไม่ยั่งยืนและทำให้เราทุกคนเชื่อมถึงกัน โลกเราต้องเผชิญกับมลภาวะมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยความตระหนักรู้ในยุคปัจจุบัน ผู้คนจากทุกสาขาอาชีพต่างมุ่งมั่นที่หวนคิดถึงความรับผิดชอบต่อดาวเคราะห์โลก เราทุกคนได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะรักษา “ความเป็นสีเขียว”

คำมั่นสัญญานั้นขยายวงกล้างไปถึงอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เมื่อมีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น โลกการค้าย่อมตระหนักดีว่าพวกเขาเองมีส่วนสำคัญในการร่วมทุนครั้งนี้ Danpal ดำเนินการภายใต้สโลแกน Global Mission, Local Focus มาโดยตลอด ดังนั้นการให้ความสนใจกับแนวทางปฏิบัติแบบองค์รวมที่เป็นการช่วยโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเรา และอาคารสีเขียวเป็นแนวทางการก่อสร้างเดียวที่จะช่วยโลกได้

 

ประสิทธิภาพของทรัพยากรเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบอาคารสีเขียว

การใช้วัสดุธรรมชาติ วัสดุหมุนเวียน เป็นวิธีที่เราฝึกเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เราควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในท้องถิ่น ของที่นำมาตกแต่งใหม่ หรือการบูรณะ เพื่อให้ทรัพยากรของเรามีประสิทธิภาพสูงสุด บรรจุภัณฑ์เป็นส่วนสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ แสดงให้เห็นไลฟ์สไตล์ของเราว่าเป็นหนึ่งในการดูแลโลกที่ดียิ่งขึ้น

การสร้างอาคารให้เป็นแบบสีเขียวอย่างแท้จริงได้นั้น จะต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในทุกส่วนของกระบวนการก่อสร้างและประเภทวัสดุที่ใช้ นั่นหมายความว่าการรื้อถอน การผลิต การแปรรูป การขนส่ง การติดตั้ง การรีไซเคิล การใช้ซ้ำ และการกำหนดวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง จะต้องสนับสนุนปรัชญาของความยั่งยืน

การบ่งบอกความเป็นอาคารสีเขียว

วิธีหนึ่งในการระบุว่าอาคารเป็นสีเขียวหรือไม่ คือการพิจารณาคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ด้วยการใช้วัสดุที่ปล่อยสารก่อมะเร็งหรือสารเคมีเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยหรือไม่เป็นพิษและทนต่อความชื้น และสามารถติดตั้งได้ด้วยสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) น้อยที่สุด รวมถึงได้รับการสนับสนุนจาก IAQ ซึ่งเป็นอีกตัวช่วยในการระบุความเป็นอาคารสีเขียว

น้ำเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการระบุความเป็นอาคารสีเขียว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดการใช้น้ำ ช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่เราทุกคนยังต้องพึ่งพา แต่ยังคงขาดแคลนในหลายส่วนของโลกใบนี้อีกมาก

เศรษฐกิจโลกถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดอาคารสีเขียว วัสดุที่ใช้ใน ระบบฟาซาดอาคาร และในการก่อสร้างอาคารสีเขียวนั้นควรมีราคาไม่แพงเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ในระดับสากล

Danpal หนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมในความกระตือรือร้นในสมัยสงครามครูเสดนี้ เพื่อเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เราปฏิบัติการออกแบบตามกฎระเบียบของรัฐบาลและข้อบังคับอาคาร เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

5 วิธีประหยัดพลังงานด้วย 1 โซลูชั่นที่ปลอดภัย

ลดการใช้พลังงานด้วยโซลูชั่นประหยัดพลังงาน

การประหยัดต้นทุนเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจมักมองหา ความต้องการพลังงานของประเทศไทยสูงมากและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานก็สูงเช่นกัน ด้วยวิธีแก้ปัญหาเพียงไม่กี่วิธีจะช่วยให้เราสามารถประหยัดพลังงานได้ การประหยัดพลังงานมากมายที่ช่วยลดการใช้พลังงาน โดยมีอย่างน้อย 5 วิธีในการช่วยประหยัดพลังงาน

‘ลดการใช้พลังงาน’ ความท้าทายที่สถาปนิกต้องคิดให้ดี

อุปกรณ์ให้แสงสว่าง เครื่องทำความร้อนและความเย็น จะปล่อยความร้อนออกมาเมื่อเปิดใช้งาน อย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่าเมื่อเปิดเครื่องแล้ว อุปกรณ์เหล่านี้ยังใช้พลังงานอีกด้วย ซึ่งอาจใช้พลังงานมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศภายนอก

แสงกลางวัน!

สถาปนิกเคยทำการทดสอบวิธีหนึ่งในการลดการใช้พลังงาน ด้วยโซลูชันแสงกลางวันสามารถใช้ได้กับ:

  • โรงงานอุตสาหกรรมและอาคารต่าง ๆ
  • ศูนย์รวมการค้า เช่น ศูนย์การค้า สำนักงาน โรงพยาบาล และสถานที่ทำงาน
  • CBDs และพื้นที่ภายนอก
  • อาคารสันทนาการ
  • บ้าน ห้องใต้หลังคา สตูดิโอ และอพาร์ตเมนต์

ผสานรวมโซลูชันปรับแสงเข้ากับการออกแบบอาคารตั้งแต่เริ่มต้น โดยควบคุมแสงสะท้อนและความร้อน ให้ทุกโอกาสที่เป็นไปได้แก่ผู้อยู่อาศัยในอนาคตเพื่อลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายได้ถึง 75% ง่าย ๆ เพียงใช้โซลูชันการปรับแสงตามฤดูกาล นอกจากนี้ ผู้อาศัยจะเพลิดเพลินไปกับการควบคุมอุณหภูมิและความสะดวกสบายที่มีมากขึ้น

การออกแบบให้มีแสงธรรมชาติสามารถทำได้ทั่วไปเหมือนกับที่คุณอยากติดตั้งประตูหน้าบ้าน

  1. เริ่มต้นด้วยการรวมโซลูชันการประหยัดพลังงานเข้ากับการออกแบบอาคาร
  • อะไรที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนด้านแสงสว่าง ความร้อนและความเย็นได้อย่างมาก?
  • อะไรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและหาได้ง่ายทั่วทั้งทวีป?
  • อะไรทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ง่าย ๆ โดยไม่เสียเงิน?
  • อะไรที่ไม่ต้องการการรื้อถอน การขนส่ง การประดิษฐ์ หรือการผลิตโดยเด็ดขาด?
  1. ปิดไฟ เครื่องทำความร้อน เครื่องระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศ (HVAC)

เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงานในอาคารที่สร้างแล้ว ให้สำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี เมื่อใดที่อุปกรณ์แสงสว่างและ HVAC กำลังทำงาน สิ่งเหล่านี้จะปล่อยความร้อนออกมา และหากเปิดเครื่องปรับอากาศ พื้นที่หนึ่งอาจเย็นลงแต่ก็ทำให้อีกพื้นที่หนึ่งร้อนขึ้นด้วย รวมถึงเวลาที่เปิดไฟ ความร้อนจะถูกปล่อยออกมา

  1. เปลี่ยนเป็นการควบคุมอุณหภูมิแบบพาสซีฟ
  • การควบคุมอุณหภูมิแบบพาสซีฟสามารถช่วยจัดการอุณหภูมิภายในได้ และใช้ Daylighting ในการให้แสงสว่างภายในอาคาร
  • ใช้การบังแดดภายนอกอาคาร เน้นที่ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดโดยที่ดวงอาทิตย์ปล่อยความร้อนมากที่สุดในระหว่างวันก่อน
  • อาคารในประเทศไทยต้องการการปกป้องจากแสงแดดยามบ่ายที่ร้อนระอุฝั่งทิศตะวันตก สามารถปลูกต้นไม้หรือติดตั้งซุ้มหรือบานเกล็ดได้
  1. ฉนวนกันความร้อน
  • ปรับปรุงฉนวนกันความร้อนในผนัง หลังคา และด้านหน้าอาคาร
  • มองหาวัสดุที่มีฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยมและมีค่า U ต่ำและ R สูง
  1. เปิดรับแสงธรรมชาติ
  • เปลี่ยนวัสดุดูดซับต่ำด้วยวัสดุดูดซับแรงสูง (เช่น อิฐ กระเบื้อง หรือคอนกรีต)
  • เปลี่ยนหน้าต่างและฟาซาดที่ไม่เคลือบด้วยวัสดุเคลือบที่มีคุณภาพ
  • เปลี่ยนฟาซาดอิฐเป็นฟาซาดแบบใส อาคารโปร่งใสที่มีคุณภาพจะทำให้การกระจายแสงมีความสบายและความเป็นส่วนตัว
  • ติดตั้งสกายไลท์

 

ระบบ Danpal:

  • มีชื่อเสียงเรื่องฉนวนกันความร้อนที่ยอดเยี่ยม
  • ป้องกันแสงสะท้อน
  • กระจายแสงอย่างสม่ำเสมอ
  • มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความต้านทานทางกลสูง
  • ได้รับการทดสอบและรับรองว่ามีค่า U ต่ำและ R สูง
  • ระบบพร้อมติดตั้ง ช่วยลดเวลาแรงงานนอกสถานที่
  • ติดตั้งง่ายผ่านระบบคาสเซ็ท
  • ต้องการการบำรุงรักษาน้อยที่สุด

วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดบางครั้งก็มักอยู่ใกล้ ๆ ตัว แสงแดดเป็นสิ่งที่มองข้ามได้ แต่เมื่อรวมแสงกลางวันอย่างถูกต้อง จะช่วยเสนอโซลูชันการประหยัดพลังงานแบบไดนามิกและสถาปัตยกรรมแบบไดนามิกให้แก่ลูกค้าได้

ติดต่อเราคลิกที่นี่ เพื่อขอคำแนะนำที่ดีและเหมาะกับโครงการก่อสร้างอาคารสีเขียวของคุณตอไปในประเทศไทย

 

แผงมัลติเซลล์ Danpalon vs แผ่นโพลีคาร์บอเนต

เนื้อหานี้ เราจะพูดถึงความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ ระหว่างแผ่นโพลีคาร์บอเนตมาตรฐานซึ่งส่วนใหญ่มักใช้สำหรับงานบังแดดและงานมุงหลังคา และแผงมัลติเซลล์ Danpalon

รูปแบบแผงมัลติประสิทธิภาพสูงที่ได้จาก Danpal เป็นออกแบบมาเพื่อใช้ในแผงโซลูชันสำหรับเปลือกอาคารทั้งหมด การพัฒนาแผงมัลติ Danpalon ก่อเกิดเป็นระบบ Danpal ที่มีชื่อเสียง เพราะแต่ละชิ้นส่วนได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานด้านสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย

แผ่นโพลีคาร์บอเนต

แผ่นโพลีคาร์บอเนต โดยทั่วไปมักเป็นที่นิยมใช้ในโครงการก่อสร้างที่เน้นวัสดุน้ำหนักเบา โปร่งแสง คุ้มราคา แต่มีความทนทานสูง การติดตั้งเพื่อจุดประสงค์นี้ในสมัยก่อน จะใช้เพียงแผ่นผนังลูกฟูกธรรมดาหรือผนังคู่ แต่คงไม่ใช่วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดอีกต่อไป เพราะมีการพิสูจน์คุณภาพแผ่นงานเหล่านี้แล้วพบว่าไม่สามารถทนต่อแสง UV ที่ตกกระทบรุนแรงระยะยาวได้

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป และโครงการก่อสร้างปัจจุบันต้องการวัสดุที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิมทุกด้าน โชคดีที่มีแผ่นโพลีคาร์บอเนต Danpalon Multicell ที่ถูกการพัฒนาขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทั้งยังช่วยให้กลุ่มอุตสาหกรรมมีระบบแผงมาตรฐานที่สูงขึ้นเกินข้อกำหนดทั้งหมดในตลาดปัจจุบัน

 

Danpal และ Danpalon Panel

กว่า 30 ปีที่ Danpal มีประสบการณ์ด้านผลิตแผง Danpalon แบบ Multicell แบบตะเข็บยืนที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นรายแรกของโลก นับว่าเป็นการเปลี่ยนเกมทางการตลาดเพราะแผงชนิดนี้สร้างประโยชน์แทนที่แผ่นโพลีคาร์บอเนตแบบเดิมทั้งหมด และยังให้ประโยชน์เพิ่มเติมในเรื่องระบบปิดผนึกด้วยกลไกแบบแห้งและทนต่อสภาพอากาศ

วิวัฒนาการจากแผ่นโพลีคาร์บอเนตหินธรรมดาไปจนถึงแผง Danpalon ที่ได้จดสิทธิบัตร ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในคุณลักษณะหลักหลายประการ ซึ่งเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพของกระจกใสน้ำหนักเบาที่พบได้ตามโครงการก่อสร้างในปัจจุบัน คุณสมบัติหลักสำคัญที่ว่า หมายถึงอายุการใช้งานที่ยาวนาน ความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ความแข็งแรง ความจำเพาะ และความสวยงาม

คำว่า ‘multicell’ มาจากจำนวนร่องหลายชั้นที่ประกอบเป็นโครงสร้างของแผงเอง ร่องขนาด 3.5 มม. ช่วยทำให้แผง Danpalon มีความแข็งแรงและความแข็งแกร่งมหาศาล ซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้กับแผ่นลูกฟูกมาตรฐานหรือแผงผนังคู่มาตรฐานในงานอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัตินี้จึงทำให้มั่นใจได้ว่าแผง Danpalon ของเราให้ค่า U ที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลือกกระจกสองหรือสามชั้นที่มีราคาแพงกว่ามาก

แผงผนัง Danpal มีสีให้เลือกจำนวนมาก หรือสามารถเลือกกำหนดสีให้เข้ากับแต่ละโครงการได้ตามชอบ ด้วยความสามารถในการผลิตของ Danpal จึงสามารถจัดเตรียมแผงที่มีพื้นผิวเฉพาะทางด้านสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบที่ตั้งใจไว้แต่แรกได้ คุณลักษณะสำคัญที่มีส่วนช่วยให้บรรลุสุนทรียภาพโดยรวมตามจินตนาการของสถาปนิกผู้ออกแบบ

แผงมัลติเซลล์ Danpalon แต่ละชิ้นถูกผลิตโดยเน้นประสิทธิภาพของการระบายความร้อน ซึ่งหมายความว่าเราสามารถจัดหาแผงที่มีการอัดรีดร่วมได้หลากหลาย เช่น Low-E, SoftLite หรือแบบสะท้อนแสง ตัวเลือกด้านประสิทธิภาพเหล่านี้ช่วยลดความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นปัญหาที่มักเกี่ยวข้องกับโซลูชันแผงกระจกโปร่งใสอื่น ๆ ที่พบในท้องตลาด

 

ความแตกต่างระหว่างแผ่นโพลีคาร์บอเนตมาตรฐานกับแผง Danpalon ของเรา

The difference between standard polycarbonate sheets and our Danpalon Panel system does not end there. Danpal not only pioneered the original dry-glazed standing seam system but has since gone on to produce solution-specific systems for the architectural marketplace. This range of systems provides solutions for cladding, facades, skylights, shading, interiors, and roofing.

ความแตกต่างระหว่างแผ่นโพลีคาร์บอเนตมาตรฐานและ ระบบแผง Danpalon ของเรา มีได้ไม่สิ้นได้ เพราะ Danpal ไม่เพียงแต่เป็นผู้บุกเบิก ระบบตะเข็บยืนเคลือบแห้ง แบบเดิมเท่านั้น แต่ยังผลิตระบบเฉพาะโซลูชันสำหรับตลาดสถาปัตยกรรมอีกด้วย ระบบบริการโซลูชั่นดังกล่าวเหมาะสำหรับงานหุ้ม งานฟาซาดอาคาร สกายไลท์ งานแรเงา งานภายใน และงานหลังคา

การผสานรวมแผง Danpalon สร้างความสำเร็จที่มาพร้อมความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ซึ่งให้อิสระแก่สถาปนิกในการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ โดยในอุตสาหกรรมยังคงถือว่าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการหลังคาใสรูปทรงออร์แกนิกหรือฉนวนความร้อนทึบในอาคาร อย่างไรแล้วโซลูชันของ Danpal นั้นตอบโจทย์ได้มาก

Danpal เน้นย้ำเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพของระบบอย่างจริงจัง จึงผ่านการรองรับระบบ ISO 9001 และ ISO 14001 โรงงานผลิตของเราถูกใช้เป็นสถานที่ผลิตแผงมัลติ Danpalon ทั้งหมด และบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการควบคุมการผลิตเอง การควบคุมคุณภาพโดยรวมนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ Danpal  นอกจากนี้ แผง Danpalon แต่ละแผงจะถูกประทับรหัสประจำตัวที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งช่วยให้เราสามารถตรวจสอบการผลิตแต่ละครั้งและสามารถติดตามแต่ละโครงการได้ เมื่อเวลาผ่านไป

การเปรียบเทียบระหว่างแผ่นโพลีคาร์บอเนตมาตรฐานกับแผง Danpalon Multicell ทำให้เห็นถึงความแตกต่างอยู่มาก ระหว่างสิ่งที่เคยเป็นและสิ่งที่เป็นอยู่ ในโลกที่ให้ความสำคัญเหนือกว่าในประสิทธิภาพของอาคารสีเขียวและกฎระเบียบด้านความปลอดภัย จึงเห็นได้ชัดว่าแผงมัลติ Danpalon เป็นอนาคตของระบบที่ใช้แผงโปร่งแสงน้ำหนักเบา เราจึงมักเรียกสิ่งนี้ว่า ‘สถาปัตยกรรมแสง’ ที่เน้นการออกแบบและสร้างโดยคำนึงถึงแสงธรรมชาติเป็นหลัก

ติดต่อ Danpal Thailand เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผ่นโพลีคาร์บอเนต Danpalon ของเราให้กับโครงการสถาปัตยกรรมของคุณในอนาคต

 

ประโยชน์ของการใช้ฟาซาดใส

พูดถึงฟาซาดอาคารนั้นมีตัวเลือกอยู่มาก และแต่ละตัวเลือกจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปตามแต่ละการใช้งาน

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของฟาซาดคือ ความแข็งแกร่งและทนทานต่อความเสียหายที่มาจากภายนอก คงไม่มีใครอยากได้ฟาซาดที่ร้าว ถลอก และแตกหักหลังจากติดตั้งไปแล้วไม่นาน ดังนั้นฟาซาดที่เหมาะสมควรมีอายุการใช้งานที่นานหลายสิบปี รวมถึงต้องไม่ซีดจางและทรุดโทรมหลังเวลาผ่านไปไม่กี่ปี

ฟังดูสมเหตุสมผลเมื่อรู้สึกอยากติดตั้งฟาซาด

หากต้องการวัสดุที่ทนทานและแข็งแรงสูง อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคือความยืดหยุ่น เพื่อช่วยให้คุณมีอิสระในระดับหนึ่งที่จะกำหนดสเปคการออกแบบ

หากความสวยงามคือเป้าหมายของโปรเจ็กต์นี้ คุณอาจต้องเลือกเน้นที่ความแตกต่างกัน เนื่องจากบางระบบอาจจะดีกว่าระบบอื่น และมีความสวยงามมากกว่าด้วย ระบบการติดตั้งที่คุณสามารถเลือกเป็นแบบใส หรือพื้นผิวอื่น ๆ ได้ตามความชอบ

 

Danpal และระบบฟาซาดใส

ระบบฟาซาดใส Danpal หนึ่งในระบบที่ดีที่สุดในธุรกิจ

เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่นๆ ในตลาดปัจจุบัน ฟาซาด Danpal มีการกระจายแสงได้ดีกว่า ซึ่งหมายความว่าแสงธรรมชาติจะกระจายอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการออกแบบเฉพาะทางจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานช่วงกลางวันและดูสวยงามด้วยซี่โครงที่เว้นระยะห่างถี่ ๆ

เนื่องจากมีความยืดหยุ่นมากในการออกแบบ จึงติดตั้งง่ายและปรับแต่งตามความต้องการของคุณได้ ข้อต่อเชื่อมสามารถบิดและเลี้ยวได้ตามต้องการและผู้ทำงานด้านการออกแบบอาคารก็จะสามารถควบคุมปริมาณแสงที่ลอดผ่านเข้ามาได้ ช่วยสร้างคอนทราสต์ของภาพที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้งช่วยปิดบังส่วนที่ไม่น่ามองอื่น ๆ ของอาคารด้วย

ลักษณะที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของฟาซาดคือ ช่วยป้องกันองค์ประกอบภายนอกไม่ให้กระทบตัวอาคาร เช่น สภาพอากาศ ข้อควรคำนึงที่ควรเอาไว้หลังสุดคือเรื่องความสวยงาม เพราะหากเน้นที่ความสวยงามก่อน แต่เมื่อมีลมฝนเทลงมา คุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหาทุกประเภทอยู่ก็ได้

ฟาซาดใส Danpal มีการควบคุมอากาศและป้องกันน้ำรั่วซึมสูง ซึ่งต้องยกนิ้วให้กับการเชื่อมต่อแบบ snap-lock ที่ทำให้มั่นใจว่าอากาศหรือน้ำจะไม่สามารถเข้าไปในอาคารได้เมื่อไม่ต้องการ

พูดถึงการเพิ่มการตกแต่งให้กับอาคารใหม่หรือแม้กระทั่งเพิ่มสีสันให้กับอาคารเก่า คุณสามารถเลือกฟาซาดที่พื้นผิว สีสัน อุปกรณ์ตกแต่ง และเอฟเฟกต์แสงที่แตกต่างกันมากมาย เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจและสร้างแรงบันดาลใจตามที่ต้องการได้

คุณยังสามารถเลือกปรับแต่งตามความชอบให้เข้ากับรูปแบบที่ต้องการช่วงกลางวันและกลางคืนได้

และที่ขาดไม่ได้คือการรักษาความปลอดภัยด้วยตะเข็บล็อคแบบดับเบิ้ลคลิกเช่นเดียวกับระบบทั้งหมดจาก Danpal  ทั้งยังสามารถปกป้องผิวฟาซาดจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายได้ เนื่องจากระบบทั้งหมดมีการป้องกันรังสียูวีคุณภาพสูงในตัว 

มาพูดถึงฟาซาดกระจกซึ่งปัจจุบันจะพบเห็นได้ทั่วไปตามอาคารหลายแห่ง ความคิดแวบแรกของคุณอาจคิดว่ามันช่างดึงดูดสายตาเหลือเกิน อย่างไรก็ตามฟาซาดกระจกไม่ได้มีไว้แค่โชว์ความสวยเท่านั้น แต่มันยังมีข้อได้เปรียบในทางปฏิบัติหลายอย่างซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ยากต่อการออกแบบสำหรับนักออกแบบและสถาปนิก

  1. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

ทุกโครงการให้ความสำคัญเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับฟาซาดใสจะช่วยให้แสงธรรมชาติส่องจะเข้าสู่ตัวอาคาร ทำให้ใช้แหล่งกำเนิดแสงประดิษฐ์น้อยลง ด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีของฟาซาดใสส่งผลให้กระจกสามารถควบคุมความร้อนและความเย็นในอาคารได้ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ทั้งในแง่ของการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานและการประหยัดเงิน

  1. ลดค่าใช้จ่าย

นอกจากการประหยัดต้นทุนอันเป็นผลจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่ฟาซาดใสมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการผลิต เนื่องจากสามารถทำเป็นชุดเดียวกันได้จากโรงงาน ต้นทุนโดยรวมจึงลดลง

  1. สามารถปรับได้

ยกตัวอย่าง ฟาซาดอาคารที่ปรับได้ด้วยความโปร่งใสหรือโปร่งแสง อาคารโดยทั่วไปจะทำฟาซาดหน้าตึกเป็นกระจกใส ส่วนแบบและรูปทรงของมัน คุณสามารถเลือกและให้สถาปนิกช่วยสร้างสรรค์งานออกแบบได้

  1. ความแข็งแรง

เมื่อติดตั้งฟาซาดอาคาร คุณสามารถวางใจเรื่องโครงสร้างที่แข็งแรงและสามารถทนต่อองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าอาคารจะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศหนาวจัดหรืออาคารที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งปี ฟาซาดกระจกใสจะคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์และรูปลักษณ์ที่มีอายุนานกว่าวัสดุก่อสร้างแบบเดิม นอกจากนี้ข้อดีหลักของกระจกคือไม่ต้านลมหรือขึ้นสนิม ดังนั้นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะไม่ส่งผลกระทบต่อฟาซาดอาคารของคุณแน่นอน

  1. ความสวยงามโดดเด่น

ความสวยงามคือลักษณะที่ชัดเจน เพราะรูปลักษณ์ของฟาซาดใสเป็นส่วนสำคัญของความโดดเด่น และสามารถแปลงโฉมอาคารได้หลากหลายประเภท ทำให้มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และนำเสนอรูปแบบที่โฉบเฉี่ยวและมีเสน่ห์

ฟาซาดใสช่วยสร้างความสมดุลระหว่างความสวยงามและการใช้งาน จึงไม่น่าแปลกใจที่ Danpal Thailand เรามีประสบการณ์สูงในด้านนี้ และได้สร้างฟาซาดกระจกใสสำหรับลูกค้าจำนวนมาก

หากคุณคิดจะผสมผสานฟาซาดกระจกใสคุณภาพสูง ติดต่อเรา เพื่อขอทราบรายละเอียดตัวเลือกฟาซาดทั้งหมดที่มี

 

ประโยชน์ของหลังคาแบบไร้รอยต่อ

หลังคาแบบไร้รอยต่อหมายถึง

ความรู้เรื่องระบบหลังคานั้นมีหลายขั้นตอน คุณเองอาจจะอยากรู้ว่า “หลังคาไร้รอยต่อหน้าตาเป็นอย่างไร” ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ดังนั้นหลังคาแบบไร้รอยต่อหมายถึง ระบบฉีดพ่นหรือทาสีหลังคาซึ่งวางแผ่นสังเคราะห์ทับบนโครงสร้างหลังคาทั้งหมด การติดตั้งแผ่นหลังคาใสเป็นงานที่ไม่มีรอยต่อใด ๆ เลย จึงเป็นที่มาของชื่อหลังคาประเภทนี้ หรือเรียกอีกอย่างว่า “โมโนลิธิค” ซึ่งหมายความว่ารวมทั้งหมดอยู่ในชิ้นเดียวกัน

ระบบหลังคาไร้รอยต่อค่อนข้างเป็นที่นิยมทั้งในเชิงพาณิชย์และบ้านพักอาศัย แนวคิดระบบหลังคาเหล่านี้มีมานานกว่า 50 ปีและเป็นที่ยอมรับมาโดยตลอด แต่ระบบหลังคานี้ไม่ได้เหมาะกับทุกงานหลังคา โดยทั่วไปแล้วระบบหลังคาไร้รอยต่อเหมาะกับโครงสร้างหลังคาลาดต่ำหรือหลังคาเรียบมากที่สุด

ระบบหลังคาไร้รอยต่อสามารถใช้ได้กับระบบที่มีอยู่ได้ทุกรูปแบบ (ขึ้นอยู่กับวัสดุ) ดังนี้:

ชิงเกิ้ล

เมทัล

BUR

ยางมะตอย

PVC

TPO

แผ่นยาง EPDM

ชนวนชนิดพ่น



ประโยชน์ของระบบหลังคาไร้รอยต่อ

ระบบหลังคาไร้รอยต่อมีประโยชน์มากมายอย่างเห็นได้ชัด และอีกหลายอย่างที่ทำให้แปลกใจ เช่น

  • ไม่มีรอยต่อ เรื่องนี้ชัดเจนที่สุดและเป็นหนึ่งในหลายสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะรอยต่อทำให้ระบบมุงหลังคาพบปัญหาบ่อยที่สุด ดังนั้นการแก้ปัญหาที่รอยต่อเพื่อลดความเสี่ยงนั้นจะช่วยลดโอกาสที่ความชื้นจะซึมเข้าไป และทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบและโครงสร้างพื้นฐานของหลังคาได้
  • ทนทาน ระบบหลังคาแบบไร้รอยต่อมีความทนทานสูง ซึ่งบางระบบมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 20 ปี โดยมีการบำรุงรักษาที่เหมาะสมและขึ้นอยู่กับสถานที่นั้นด้วย
  • แข็งแรง ระบบหลังคาแบบไร้รอยต่อได้รับการออกแบบให้มีความทนทานต่อแรงกระแทกจากลูกเห็บและลมแรง ตลอดจนให้การปกป้องจากความร้อนรังสียูวี มลภาวะ และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ นอกจากนี้บางระบบยังได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำและเชื้อราด้วย
  • ประสิทธิภาพด้านพลังงาน ที่มีการสะท้อนแสงในตัวช่วยให้สะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์จากหลังคาได้ถึง 85% ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารและส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับค่าทำความเย็นได้ 30% – 50% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของอาคารด้วย
  • หมดปัญหาการรั่วซึม หากระบบหลังคาปัจจุบันของคุณมีจุดที่น้ำรั่ว การติดตั้งระบบหลังคาไร้รอยต่อจะช่วยป้องกันพื้นที่ที่น้ำรั่วได้ เพื่อเสริมระบบหลังคาและขจัดปัญหาการรั่วซึมที่มีอยู่
  • ยืดหยุ่น ด้วยลักษณะการเคลือบช่วยให้สามารถขยายและหดตัวได้ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ร้อนแรง ความยืดหยุ่นนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมความทนทานของระบบหลังคาได้

    ประเภทของระบบหลังคาไร้รอยต่อ

หลังคาแบบไร้รอยต่อมี 2 ประเภทหลัก ๆ อย่างแรกคือการเคลือบ และแบบที่สองคือการพ่นโฟม แต่ละประเภทต่างให้ประโยชน์ดังนี้

  • แบบเคลือบ การเคลือบหลังคาแบบไร้รอยต่อที่มีฐานโครงสร้างเป็นอะคริลิกหรือซิลิโคน หรือขึ้นอยู่กับประเภทของระบบติดตั้งที่เลือก การเคลือบสามารถทำได้โดยวิธีทาสีหรือฉีดพ่นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุนั้น ๆ ทุกส่วนของโครงสร้างหลังคารวมทั้งไฟกระพริบและส่วนที่ยื่นออกมา (บริเวณใต้เครื่องปรับอากาศ ช่องระบายอากาศ ฯลฯ) จะถูกเคลือบทั้งหมด พื้นที่รอยต่อบนหลังคาปัจจุบันของคุณอาจได้รับการปกปิดด้วยผ้าสักกะหลาดเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับพื้นที่ก่อนที่จะใช้วิธีเคลือบ
  • การพ่นโฟม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า SPF ซึ่งเป็นโฟมโพลียูรีเทนที่ใช้ฉีดพ่น ฟังดูแล้วอาจจะนึกภาพถึงโฟมสีขาว ๆ โครงสร้างโฟมที่ลักษณะหลายแบบซึ่งอาจมีมากกว่าที่คุณอยากรู้ในตอนนี้ โดยทั่วไปแล้วโฟมจะถูกฉีดทับบนระบบหลังคาของคุณและเมื่อโฟมขยายตัว มันจะผนึกกับโครงสร้างที่มีอยู่โดยให้การปกป้องเพียงชั้นเดียวเหมือนกับการเคลือบที่ทุกส่วนหลังคาถูกปกคลุมไว้ ส่วนรอยต่อหลังคาอาจมีการซ่อมบำรุงไว้ก่อนแล้วตามความเหมาะสม

หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบหลังคาไร้รอยต่อ สามารถโทรติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการมุงหลังคาแบบไร้รอยต่อได้เลยที่ Danpal Thailand

ระบบหลังคาไร้รอยต่อ Danpal Seamless Roof เป็นโซลูชันที่ใช้คานขนาดใหญ่ในการติดตั้งผกผันแผ่นโพลีคาร์บอเนตใส Danpalon® เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่เรียบและไร้รอยต่อส่วนด้านบน ส่วนด้านใต้แผงหลังคาจะมีคอนเนคเตอร์อะลูมิเนียม ทำให้โครงจันทันดูมีเอกลักษณ์ ระบบนี้ติดตั้งง่ายด้วยข้อต่อที่ยืดหยุ่นซึ่งช่วยให้แผงโพลีคาร์บอเนตเคลื่อนที่ด้านข้างได้ ทำให้ได้โครงจันทันที่โดดเด่น

การเชื่อมต่อผกผัน

ระบบหลังคา Danpal Seamless Roof มีช่วงกว้างลอดผ่านขั้วต่ออะลูมิเนียมพิเศษเพื่อรองรับน้ำหนักของมันเองซึ่งอยู่ใต้แผงหลังคา หลังคาใส Danpal ติดตั้งโดยให้แผ่นครอบหลังคาคว่ำลงทำให้เกิดพื้นผิวภายนอกที่เรียบ

โดยถูกออกแบบมาเพื่อยึดกับอาคารหรือบนเฟรมย่อยขนาดเล็ก การวางแนวของระบบหลังคาชีมเลส ช่วยยืดอายุการใช้งานและมีรูปลักษณ์ที่ดูสะอาดตา

ทนต่อแรงกระแทกและมีความแข็งแรงสูง

ตัวเชื่อมต่อที่แข็งแรงและตะเข็บล็อคแบบ “คลิก” สองครั้งบนระบบหลังคาชีมเลสหรือไร้รอยต่อ มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูงสุดและป้องกันความเสียหายจากลูกเห็บหล่นลงมา ด้วยตัวเชื่อมต่ออะลูมิเนียมที่ทำหน้าที่เหมือนจันทัน ทั้งยังติดตั้งง่าย ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก

พร้อมทุกสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวี

ผลิตภัณฑ์ Danpal ถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงพอที่จะทนทานต่อรังสี UV ที่ร้อนรุนแรง ฝน ลูกเห็บ ลม และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งทำให้มีอายุการใช้งานของระบบที่ยาวนานขึ้น

หลังคาโพลีคาร์บอเนตแบบเรียบไร้รอยต่อ

ระบบหลังคาไร้รอยต่อมีเทคโนโลยี Danpal ที่เชื่อถือได้ทั้งฝีมือการผลิตและความสมบูรณ์ของโครงสร้าง แผงโปร่งใส Danpalon® แบบเคลือบแห้งจะหนีบเข้ากับขั้วต่ออะลูมิเนียมที่เป็นเอกสิทธิ์ได้อย่างง่ายดาย ทำให้มีขอบที่เป็นเอกลักษณ์


เราพร้อมให้คำปรึกษาและอธิบายถึงประโยชน์ที่คุณจะได้จากหลังคาไร้รอยต่อเพื่อที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์

ระบบหลังคาแบบรองรับน้ำหนักตัวเอง

ประโยชน์ ข้อดีและข้อเสีย

ระบบหลังคาแบบไร้โครงหรือที่เรียกว่า ระบบหลังคาแบบรองรับน้ำหนักตัวเอง เป็นระบบทางเลือกที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครสำหรับอาคาร โรงอุตสาหกรรม ฯลฯ โดยสถาปนิกมักจะแนะนำระบบหลังคาประเภทนี้เพราะจะสามารถออกแบบและถ่ายทอดสุนทรียภาพที่เป็นนวัตกรรมใหม่

ก่อนจะเลือกติดตั้งระบบหลังคาแบบรับน้ำหนักตัวเอง เราได้อธิบายข้อดีและข้อเสียเบื้องต้นของระบบหลังคาแบบรองรับน้ำหนักตัวเอง ดังนี้:

ข้อดี:

  • หลังคาประเภทนี้ต้องการการบำรุงรักษาน้อยและมีอายุการใช้งานยาวนาน
  • มีการติดตั้งแผ่นหลังคาที่ง่ายและรวดเร็ว
  • แผ่นหลังคาถูกปิดผนึกด้วยกลไก ปราศจากรู น็อต สลักเกลียว การทับซ้อนกัน หรือสารเคลือบหลุมร่องฟัน จึงไม่ทำให้เกิดการรั่วซึม
  • หลังคาแบบไม่มีโครงทนต่อการติดไฟลุกลาม มีความต้านทานแรงดึงมากกว่า ทำให้ป้องกันอุบัติเหตุ เช่น ไฟไหม้ และทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง แม้แต่สัตว์ เช่น ลิง ก็ไม่สามารถทำลายมันได้
  • รูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีสีให้เลือกหลากหลาย ส่งผลให้มีความสวยงามน่ามอง
  • หลังคาประกอบด้วยพัดลมระบายอากาศแบบเทอร์โบที่หมุนได้เอง และติดตั้งไว้ที่ด้านบนของหลังคา โดยพัดลมระบายอากาศแบบเทอร์โบชนิดนี้จะระบายอากาศร้อนออก ทำให้ภายในอาคารมีอากาศถ่ายเทอย่างเต็มที่
  • หมดปัญหาเรื่องนกมาทำรังใต้หลังคา เนื่องจากไม่มีโครงยึดเกาะสำหรับรังของมัน ดังนั้นจึงช่วยให้สภาพแวดล้อมในอาคารสะอาดและถูกสุขลักษณะ
  • สามารถติดตั้งแผ่นโพลีคาร์บอเนตโปร่งแสงหนา 1 มม. ถึง 2 มม. ตามความยาวและระยะห่างที่ออกแบบได้เพื่อรับแสงธรรมชาติได้ดีขึ้น
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับระบบหลังคาทั่วไปที่มีโครงและแผ่นรอง
  • ช่วยให้เคลื่อนย้ายสินค้าได้สะดวกและจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความยืดหยุ่นสูงในการใช้พื้นที่

ข้อเสีย:

  • ใช้รับน้ำหนักแบบหนักหน่วงไม่ได้
  • ต้องใช้ผู้ติดตั้งที่มีทักษะสูง
  • การติดตั้งหลังคาแบบไม่มีโครงนั้นต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ในการติดตั้ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากเมื่อไซต์ตั้งอยู่ในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน
  • มีอุปกรณ์และเครื่องจักรหลายประเภทที่ใช้ระหว่างการติดตั้งซึ่งหายากในบางพื้นที่

    จันทันผสมผสานกับแผง Danpalon®
  • ระบบหลังคารองรับตัวมันเองของ Danpal เป็นโซลูชันที่ใช้คานขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยโครงสร้างจันทันที่พิเศษใต้แนวต่อของแผงโพลีคาร์บอเนต Danpalon® สร้างพื้นผิวที่สะอาดอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเงากรอบ ความพิเศษของระบบหลังคาที่ได้รับการรับรองจาก CodeMark นี้หมายถึงความยืดหยุ่นที่มากขึ้นเมื่อออกแบบสำหรับลูกค้าของคุณ
  • จันทันได้รับการรับรองอย่างเต็มที่ในเรื่องความชำนาญ (ตรง) และการออกแบบให้มีส่วนโค้งที่ติดตั้งง่าย

  • จันทันถูกออกแบบมาพิเศษ

  • ระบบหลังคารองรับตัวมันเอง แสดงถึงเทคโนโลยี Danpal ที่เชื่อถือได้ ทั้งฝีมือการผลิต และความสมบูรณ์ของโครงสร้าง โดยตัวเชื่อมต่อโพลีคาร์บอเนตแบบเคลือบแห้งจะหนีบไว้บนจันทันอะลูมิเนียมที่มีลักษณะพิเศษอย่างง่ายดาย ทำให้ได้ขอบที่เป็นเอกลักษณ์

แท่งจันทันลักษณะพิเศษ

ระบบหลังคารองรับตัวมันเอง Danpal ประกอบด้วยราวจับอะลูมิเนียมแบบรองรับตัวเอง ซึ่งล็อคแผงโพลีคาร์บอเนต Danpalon® จากด้านล่าง และยึดไว้ด้วยตัวเชื่อมโพลีคาร์บอเนตจากด้านบน สามารถใช้ได้กับแบบและคานทุกรูปแบบ ส่วนตัวจันทันแบบ freespan มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบและมีความสวยงาม รวมถึงพัดลมแขวนและไฟส่องสว่าง

โดยถูกออกแบบมาเพื่อยึดกับอาคารหรือบนเฟรมย่อยขนาดเล็ก ซึ่งกรอบจันทัน freespan นั้นสอดคล้องกับรอยต่อของแผงโพลีคาร์บอเนต Danpalon® สร้างรูปลักษณ์ที่สะอาดและ “ไม่เกะกะ” พร้อมการลดเงาของโครงสร้างด้วย

ทนต่อแรงกระแทกและมีความแข็งแรงสูง

จันทันแบบ Free Span ของ Danpal ทำให้การติดตั้งสะดวกและเรียบง่าย คานและตัวเชื่อมที่แข็งแรงทำงานร่วมกับตะเข็บล็อคของแผงหลังคาโพลีคาร์บอเนตเพื่อให้ทนทานต่อแรงกระแทกและป้องกันความเสียหายจากลูกเห็บได้สูงสุด

พร้อมทุกสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวี

ผลิตภัณฑ์ Danpal ถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงพอที่จะทนทานต่อรังสี UV ที่ร้อนรุนแรง ฝน ลูกเห็บ ลม และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งทำให้มีอายุการใช้งานของระบบที่ยาวนานขึ้น ระบบเชื่อมต่อจันทัน Freespan ยังช่วยป้องกันการรั่วซึมได้ 100%

ติดต่อเรา

หากมีคำถามสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเรา หรือต้องการแก้ปัญหาหลังคาบ้านคุณ หรือต้องการความช่วยเหลือด้านการออกแบบและด้านเทคนิคต่าง ๆ  เราพร้อมและยินดีให้ความช่วยเหลือ


กรุณาส่งข้อความถึงเรา แล้วเราจะรีบติดต่อกลับคุณโดยเร็ว

บานเกล็ดบังแดด

บานเกล็ดผนังอาคารเพื่อรับแสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์

บานเกล็ดผนังเป็นการออกแบบที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในตัวอาคารได้รับแสงธรรมชาติแม้จะอยู่ในที่ร่ม

ทำไมเราจึงต้องถูกจำกัดช่วงเวลาของการทำกิจกรรมนอกบ้านเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติ? เมื่ออยู่ในบ้าน แสงแดดจ้าอาจส่องผ่านประตูหน้าต่างเข้ามาอย่างจังได้ ตัวบานเกล็ดที่ติดตั้งไว้อาจระบายแสงเข้าสู่ภายในจนอาจมีปัญหาเรื่องปริมาณแสงที่สาดส่องอย่างรุนแรง และเกิดแสงสะท้อนที่ไปกระทบการมองเห็นได้

แต่เจ้าบานเกล็ดก็สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ สำหรับเรื่องแสะงสะท้อน บานเกล็ดบังแดดจะช่วยกันแสงและเงาสะท้อนได้ดี โดยที่คุณสามารถกำหนดได้ว่าต้องการรับปริมาณแสงมากน้อยเพียงใด

( อานเพิ่มเติม บานเกล็ดบังแดด )

การทำงานของบานเกล็ดบังแดดในแต่ละช่วงฤดูกาล

ความต้องการสัมผัสธรรมชาติของคนเรานั้นแตกต่างกัน แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ ทุกคนต้องการแสงแดด แล้วปริมาณแสงแค่ไหนที่เรียกว่าดพียงพอ? ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบานเกล็ดบังแสงที่จะช่วยปรับความสมดุลให้แก่ผู้อาศัย ไม่ว่าจะแสงส่องโดยตรงเพื่อช่วยเพิ่มอุณหภูมิในช่วงฤดูหนาว หรือการปรับแสงสำหรับช่วงฤดูร้อยในขณะที่กำลังเปิดแอร์ ทั้งหมดที่กล่าวมา บานเกล็ดบังแดดจะช่วยกันแสงแดดไม่ให้ส่องเข้ามาตรง ๆ ได้

มั่นใจได้ว่า การใช้พลังงานภายในอาคารจะลดลงอย่างจริงจังตลอดอายุของตัวอาคาร

บานเกล็ดบังแดดช่วยให้ได้สภาพแวดล้อมที่ดีอย่างไร

เชื่อหรือไม่ว่าการระบายอากาศภายในอาคารจะมีผลต่อระบบนิเวศน์ เรื่องจริงก็คือ บานเกล็ดบังแดดสามารถทำงานในบริเวณพื้นที่หน้าต่างได้เป็นอย่างดี บานเกล็ดสามารถกันแสงแดดจ้าไม่ให้ส่องกระทบเข้าไปข้างในอาคารมากเกินไป ทำให้อุณหภูมิในภายห้องเย็นลงได้โดยไม่ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา เนื่องจากการระบายอากาศดังกล่าวจะช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดงบประมาณได้มากยิ่งขึ้น


การมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืนนั้นให้ประโยชน์อย่างมากมาย รวมทั้งมีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งบบานเกล็ดบังแดดสามารถช่วยคงความยั่งยืนนั้นได้อย่างชาญฉลาด

ระบบบานเกล็ด Danpal มีความพิเศษในเรื่องของการบังแดด

นอกจากเรื่องคุณสมบัติการบังแดดแล้ว บานเกล็ดยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับตัวอาคาร ที่ Danpal มีตัวเลือกในเรื่องสีและการตกแต่งที่หลากหลายให้คุณได้เลือกตามต้องการ และให้เข้ากับการออกแบบอาคารได้ดีที่สุด คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้แบบผิวมันหรือผิวด้าน รวมถึงการผสมสีให้ตรงตามความชอบของคณเอง แล้วจะพบว่าบานเกล็ดมีส่วนช่วยให้อาคารบ้านเรือนของคุณดูดีอย่างน่าทึ่ง ทั้งรูปลักษณ์ที่ปรับได้และมีตัวเลือกตกแต่งที่หลากหลายให้คุณเลือก

คุณสมบัติที่โดดเด่นของระบบบานเกล็ดบังแดด Danpal คือการเลือกระดับแสงและเงาได้ตามความต้องการ คุณสามารถปรับการรับแสงเองได้ เช่น เปิดกว้าง เปิดครึ่งเดียว หรือปิดสนิท ตามสภาพอากาศในแต่ละวันและตามความชอบของคุณเอง

แน่นอนว่าความพึงพอใจของลูกค้าต้องมาก่อนเสมอและ Danpal ก็ยึดมั่นในเรื่องนี้มาโดยตลอด ด้วยเทคโนโลยี Microcell ทำให้บานเกล็ดสามารถทนต่อแรงกระแทกสูงได้ ติดตั้งง่ายและราคาย่อมเยาว์ ทั้งยังสามารถช่วยป้องกันแสงยูวีที่ทำให้ยืดอายุการใช้งานของบานเกล็ดได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ขึ้นชื่อของ Danpal ที่ส่งมอบความพึงพอใจให้กับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาโดยตลอด

Archiexpo

บานเกล็ดช่วยสร้างกระแสลมรอบ ๆ บริเวณที่เข้าถึงยาก

ด้วยระบบบานเกล็ดแบบ passive ที่ยอดเยี่ยมจึงให้ประโยชน์ระยะยาว ใบพัดบานเกล็ดถูกออกแบบโดยเฉพาะเพื่อช่วยทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และยังช่วยป้องกันสิ่งตกค้างอื่น ๆ เช่น น้ำขัง ฝุ่น เศษซาก รวมไปถึงซากสัตว์ และช่วยบังสายตาจากผู้คนได้

ความร้อนภายในที่เพิ่มมากขึ้นมักเป็นปัญหาต่ออาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ถ้าความร้อนภายในอาคารที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวกำหนดความต้องการการระบายความร้อน จึงไม่ใช่แค่เรื่องของอุณหภูมิภายนอกเท่านั้น แต่ยังช่วยระบายอากาศให้ด้วย

การใช้ประโยชน์จากกระแสลมที่เกิดจากบานเกล็ด ช่วยให้มีที่ว่างสำหรับการถ่ายเทอากาศในขณะที่ยังคงช่วยป้องกันสิ่งตกค้างและสร้างความเป็นส่วนตัว ปัจจัยที่เกิดจากสภาพอากาศที่บานเกล็ดสามารถป้องกันไม่ให้ผ่านเข้าภายในอาคารได้ เช่น พายุฝน เป็นต้น 

การติดตั้งบานเกล็ดทั้งหมดจะเป็นการยึดใบพัดบานเกล็ดและโครงเข้ากับพื้นที่ว่าง ความห่างของบานเกล็ดทั่วไปอยู่ที่ตั้งแต่ 35-60 เปอร์เซ็นต์ของช่องผนัง ส่วนที่เหลือประมาณ 65-40 เปอร์เซ็นต์จะยังคงถูกบังด้วยบานเกล็ด แนะนำให้เว้นพื้นที่ว่างด้วยเปอร์เซ็นต์สูง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มการถ่ายเทอากาศได้มากที่สุด แต่ในเรื่องการป้องกันฝนสาดหรือเศษซากตกค้างที่จะปลิวเข้ามา อาจจะต้องเน้นให้บานเกล็ดบังช่องผนังมากขึ้น 

รูปทรงของโคงสร้างและใบพัดบานเกล็ดมีผลต่อการต้านกระแสลม มุมใบพัดที่ต่ำกว่าทำให้เกิดแรงต้านน้อยลง ส่วนมุมที่สูงขึ้นทำให้เกิดแรงต้านมากขึ้น ไม่ว่าจะติดตั้งบานเกล็ดกับพัดลม ในพื้นที่โล่ง ในเขตพายุเฮอริเคน ในพื้นที่ลมฝนกันโชกแรง ฯลฯ ปัจจัยทั้งหมดล้วนต้องกำหนดว่าต้องการให้มีการต้านกระแสลมมากน้อยเพียงใด

วัตถุประสงค์การทำให้เกิดกระแสลมภายในอาคารพาณิชย์เพื่อช่วยให้อาคารประหยัดการใช้พลังงานสูงสุด เพราะการไหลของอากาศใต้หลังคาอาคารสามารถลดการสะสมความร้อนและลดจำนวนเครื่องปรับอากาศ เมื่อภายในอาคารมีการระบายอากาศที่เพียงพออย่างสม่ำเสมอ ก็อาจมีโอกาสลดการกำหนดค่าระบบปรับสภาวะอากาศ (HVAC) ถ้าติดตั้งบานเกล็ดเป็นช่องรับอากาศสำหรับเครื่องจักร เช่นระบบปรับสภาวะอากาศหรือระบบระบายความร้อนภายนอก จะต้องคำนวณขนาดบานเกล็ดให้แม่นและพอดีเพื่อทำให้เครื่องจักรยังคงอยู่ในอุณหภูมิที่ต้องการ

ปรึกษา Danpal เกี่ยวกับงานบานเกล็ดบังแดด ให้กับโครงการก่อสร้างของคุณในอนาคต

ฟาซาดบังแดด

ติดตั้งฟาซาดบังแดดเพื่อช่วยประหยัดพลังงานและการปกป้องโดยมี:

  • การให้ร่มเงาที่เย็นสบายเพื่อหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการลดอุณหภูมิของห้องและอาคารที่มีความร้อนสูงเกินไป
  • การลดปริมาณพลังงานที่จำเป็นต่อการให้แสงสว่าง โดยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งผ่านแสงธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน
  • การเพิ่มความสบายภายในอาคารและกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพการทำงาน
  • การปกป้องรังสียูวีจากดวงอาทิตย์

การเปลี่ยนแปลงพื้นที่

เคยสังเกตเห็นนวัตกรรมอันโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมหรือไม่? อาคารเขียวเป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบผสมผสานความสร้างสรรค์ของนักออกแบบเข้ากับความต้องการสร้างในลักษณะที่เป็นการปกป้องโลกของเรามากกว่าการทำลาย บ้านเรือนเล็ก ๆ และบ้านต้นไม้จำนวนมากได้แสดงถึงจินตนาการของเจ้าของบ้านที่มองหาสิ่งแปลกใหม่ นักออกแบบยังคงสร้างด้วยความเอาใจใส่ต่อองค์ประกอบต่าง ๆ เช่นเดียวกับงานสถาปัตยกรรมที่นำการออกแบบใหม่เหล่านี้มาใช้ ทั้งนี้หิมะ ฝน ลูกเห็บและลม ล้วนเป็นภัยคุกคามที่อาจสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่ออาคารได้ และแม้แต่แสงแดดที่มนุษย์ต้องการก็ต้องควบคุมให้พอดี ดังนั้นฟาซาดบังแดดอาคารจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการออกแบบอาคารเพื่อช่วยรักษาความสมดุลระหว่างแสงแดดและร่มเงา

ฟาซาดบังแดด Danpal ช่วยควบคุมแสงในที่ร่ม

ระบบบานเกล็ดบังแดด Danpal เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในด้านความสามารถในการปรับการรับแสงแดดให้เหมาะสมตามความต้องการของผู้อาศัยในอาคาร เราทุกคนแตกต่างกันและเรามีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นปริมาณแสงที่ส่องไปในห้องหรือพื้นที่จะถูกควบคุมด้วยแผงกระจกโปร่งแสงของ Danpal และบานเกล็ดแบบหมุนได้โดยตัวคุณเอง คุณอาจเลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงหรือเลือกระดับแสงที่เหมาะสมยิ่งขึ้นก็ได้ ตามความชอบที่คุณเป็นคนกำหนด

การลดแสงสะท้อน

  • แสงสว่างจ้ามักเกิดจากแสงแดดที่ส่องถึงวัตถุภายในบ้านหรือที่ทำงาน และเมื่อใช้จอคอมพิวเตอร์อาจมีแสงสะท้อนเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นความสว่างของแสงสะท้อนจากสภาพแวดล้อมที่อาจสูงกว่าความสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการแรเงาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยลดอัตราส่วนความสว่างได้อย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างของความสว่างระหว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์กับสภาพแวดล้อมที่ทำให้ความรู้สึกไม่สบายตาและลดประสิทธิภาพการทำงานลง

  • การใช้แสงแดดให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่เกิดแสงสะท้อน จะทำให้ได้ประสิทธิภาพของงานเฉลี่ย 3.75%

  • ข้อร้องเรียนด้านสุขภาพ ส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยจะต่ำกว่า 20% ถึง 25% สำหรับผู้อยู่อาศัยใกล้กับหน้าต่างด้านนอก เมื่อเทียบกับผู้ที่ทำงานในตัวกลางอาคารที่ไม่มีวิวและแสงแดด
     
  • การนั่งใกล้หน้าต่างและรับแสงแดด ส่งผลให้การขาดงานลดลง 15%

  • การมีแสงแดดส่องตรงเข้ามาในห้องเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านหน้าต่างที่ไม่มีร่มเงาซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศใต้ สัมพันธ์กับผลการปฏิบัติงานของนักเรียนในเชิงลบ

  • นักเรียนในห้องเรียนที่ได้รับแสงธรรมชาติเพียงพอ มีความคืบหน้าเร็วขึ้น 20% ในการทดสอบคณิตศาสตร์ และ 26% ในการทดสอบการอ่าน ในช่วงหนึ่งปี

การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน สิ่งแวดล้อมที่ดี ความเป็นส่วนตัว

ในที่พักอาศัยหรือที่ทำงาน ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีซึ่งมีปัจจัยหลายประการ ดังนี้:

คุณภาพอากาศภายในอาคาร: สามารถระบุได้ด้วยค่าความเข้มข้นของ CO2 และสารมลพิษที่ต่ำ และค่าอัตราการระบายอากาศที่สูง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน 8-11% ไม่ใช่เรื่องแปลกซึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น

ความสบายผ่านการระบายความร้อน: สิ่งนี้เกี่ยวข้องอย่างมากต่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร งานวิจัยเกี่ยวกับสำนักงานระบุว่าประสิทธิภาพการทำงานลดลง 10% ที่อุณหภูมิ 30°C และ 15°C ส่วนงานวิจัยอื่นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมระบุว่าประสิทธิภาพการทำงานลดลง 4% ที่อุณหภูมิเย็นกว่า และลดลง 6% ที่อุณหภูมิที่อุ่นกว่า

แสงแดดและแสงสว่าง: งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการรับแสงแดดที่ดีอันเป็นผลมาจากการนั่งใกล้กับหน้าต่าง มองเห็นวิวด้านนอก (และควรเป็นพื้นที่สีเขียวหรือธรรมชาติ) มีผลดีในแง่ของความพึงพอใจโดยรวมและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ดังนั้นงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า คุณภาพวิวธรรมชาติและแสงแดดมีผลต่อการลาป่วย 6.5% 

นักประสาทวิทยาแนะนำให้พนักงานออฟฟิศทำงานใกล้หน้าต่างที่เปิดรับแสงสีขาวเพิ่มขึ้น 173% และควรนอนหลับตอนกลางคืนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 46 นาที มีรายงานด้านปัญหาทางกายภาพและความมีชีวิตชีวาที่ลดลง ปัญหาด้านการนอนหลับ ประสิทธิภาพการนอน การรบกวนการนอนหลับ และความผิดปกติในเวลากลางวันของคนที่ทำงานในพื้นที่ที่ไม่มีหน้าต่าง

ลดระดับรังสี UV : ความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังกำลังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการที่เรากำลังทำกิจกรรมนอกบ้านมากกว่าแต่ก่อน การป้องกันตัวเองจากอันตรายของรังสียูวีจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่ใช้เวลาอยู่กลางแจ้ง ดังนั้นการติดตั้งที่บังแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อาศัยจะไม่โดนแสงแดดส่องโดยตรง แต่ยังสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างเพลิดเพลิน

ลด CO2 ให้ความเย็นอย่างเป็นธรรมชาติ

ความกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภาวะโลกร้อนหมายถึงการลดการปล่อย CO2 ซึ่งมีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน การใช้ที่บังแดดสามารถลดความจำเป็นในการใช้เครื่องปรับอากาศ แถมยังจะช่วยลดการปล่อย CO2 อีกด้วย

Concordia St Johns Campus, Highgate: ฟาซาดบังแดดที่ทำงาน (ออสเตรเลีย)

อาคารที่อยู่ในเขตที่ดวงอาทิตย์มีความร้อนสูงแบบเดียวกับที่มีในประเทศไทยหรือออสเตรเลีย จำเป็นต้องควบคุมความจ้าของแสงมากกว่าปล่อยให้ผู้อาศัยภายในอาคารต้องต่อสู้กับแสงสะท้อนตลอดทั้งวัน

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฟาซาดบังแดดอาคารของ Danpal มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่มีแสงแดดส่องถึงแต่ต้องการที่ร่ม

ปรึกษา Danpal เกี่ยวกับฟาซาดบังแดด ให้กับโครงการก่อสร้างของคุณในอนาคต

ครีบบังแดด

การควบคุมปริมาณแสงแดดที่เข้าสู่อาคารเกิดจากเหตุผลหลายประการ ในสภาพอากาศที่อบอุ่น การได้รับแสงอาทิตย์ที่มากเกินไปอาจส่งผลให้มีการใช้พลังงานในการทำความเย็นสูง ส่วนสภาพอากาศที่หนาวเย็นและแสงแดดในฤดูหนาวที่ส่องผ่านหน้าต่างที่หันไปทางทิศใต้ สามารถส่งผลเชิงบวกต่อการทำความร้อนจากแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟ และในเกือบทุกสภาพอากาศที่มีการควบคุมและกระจายแสงธรรมชาติ จะช่วยปรับการรับแสงแดดให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้

อุปกรณ์ควบคุมแสงและบังแดดที่ออกแบบมาอย่างดีสามารถลดความร้อนสูงสุดและความต้องการในการระบายความร้อนของอาคารได้อย่างมาก และยังปรับปรุงคุณภาพแสงธรรมชาติจากการตกแต่งภายในอาคาร จากรายงานพบว่ามีการลดการใช้พลังงานทำความเย็นประจำปีลง 5% ถึง 15% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและตำแหน่งของการเจาะช่องหน้าต่าง อุปกรณ์ควบคุมแสงและบังแดดยังสามารถถนอมสายตาของคนทำงานด้วยการควบคุมแสงสะท้อนและลดอัตราส่วนคอนทราสต์ เป็นผลให้เกิดความพึงพอใจและมีประสิทธิผลของงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อุปกรณ์บังแดดยังช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างส่วนหน้าอาคารกับอีกอาคารหนึ่ง ซึ่งสร้างความน่าสนใจและค่าเฉลี่ยมูลฐานของขนาดสัดส่วนของมนุษย์กับการออกแบบทั่วไปที่ไม่มีความแตกต่าง

ร่มอย่างมีสไตล์

โซลูชันระบบแรเงาโปร่งแสงใหม่ของเราได้รับการออกแบบมาสำหรับทุกโครงการที่มีสภาพแวดล้อมคุณภาพสูง (HQE)

การออกแบบที่ชาญฉลาดเป็นพิเศษนี้มาแทนที่ระบบบานเกล็ดแบบกลที่มีราคาแพงกว่า

โครงสร้างภายใน Z-Frame ถูกออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ด้วยรูปแบบซิกแซกที่จำกัดแสงสะท้อนและรังสีดวงอาทิตย์ ในขณะที่ยังคงให้แสงธรรมชาติเพียงพอ

DanpaShade Aura ยังเปลี่ยนเฉดสีที่หมองคล้ำให้เป็นเฉดสีที่สว่างสดใส

และเนื่องจากบานเกล็ดของเราถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ คุณจึงสามารถกำหนดสีและความทึบของเฉดสีที่ส่องสว่างได้

การควบคุมอุณหภูมิ

รักษาความเย็นในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาวโดยลดการใช้ระบบ HVAC ลง ด้วยระบบประหยัดพลังงานของ Aura ช่วยให้อาคารของคุณลดรังสีดวงอาทิตย์และสะท้อนด้วยโซลูชันการแรเงาเดียวในแบบที่คุณเลือก

แรเงากับช่วงเวลา

โครงสร้างน้ำหนักเบาของระบบ Aura สามารถติดตั้งเพิ่มเติมกับอาคารเกือบทุกหลังได้อย่างสวยงามโดยไม่ทำให้ส่วนหน้าของอาคารเสียหาย และหากคุณต้องการเปลี่ยนสไตล์ เพียงแค่เปลี่ยนบานเกล็ดออกและติดตั้งใหม่ตามความชื่นชอบ

แรเงาที่ส่งผลกระทบ

เลือกมาสองสีใดก็ได้ที่คุณชอบ

กล่าวถึงการปฏิวัติโซลูชันการแรเงาของ Aura แผงครีบบังแดดที่มีสีและพื้นผิวสลับกันสองสีตามตัวเลือกในบบของคุณ

สัมผัสเอฟเฟกต์การเปลี่ยนสีที่ทำให้อาคารดูมีชีวิตชีวา และเมื่อมุมมองของคุณเปลี่ยนไป สามารถเปลี่ยนสีและเผยให้เห็นความใหม่ของโครงสร้างบังแดดของคุณได้ตลอด

ปรับแสงกลางวันให้เหมาะสม

ปรับเปลี่ยน ฟาซาดบังแดด อาคารของคุณและดื่มด่ำกับบรรยากาศแสงที่ปรับปรุงใหม่ การปรับสภาพแวดล้อมให้คุณภาพสูงจะเกิดขึ้นได้เมื่อแสงแดดถูกกรองผ่านโครงสร้างแผงภายใน Z-Frame ขั้นสูงของเรา แสงแดดจ้าส่วนใหญ่ถูกครีบทึบแสงบังที่ทำมุม ขณะที่แสงส่องผ่านครีบโปร่งแสงแนวตั้งสลับกันเข้ามาได้น้อย เมื่อมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา คุณภาพของแสงจะถูกเปลี่ยนและควบคุมเป็นเฉดสีที่กระจายตัว

แรเงาในแบบของคุณ

แนวนอนหรือแนวตั้ง

การจัดรูปแบบอาคารนั้นมีมากกว่าหนึ่งวิธี ด้วยระบบออร่าของ DanpaShade สามารถติดตั้งได้ทั้งแนวนอน แนวตั้ง หรือทั้งสองอย่างในอาคารเดียวกัน อุปกรณ์ยึดอะลูมิเนียมของ Aura ช่วยให้สามารถติดตั้งครีบแต่ละอันได้ในมุมที่แยกจากกัน 3 มุม 90°, 45° และ 22.5°เพื่อเพิ่มสัมผัสพิเศษ

ร่มเงาด้วยความห่วงใย

อาคารเขียวอย่างมีสไตล์อยู่เสมอ

DanpaShade Aura ช่วยลดความร้อนของอาคารในขณะที่ยังได้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ จึงช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศและไฟฟ้าเพิ่มแสงสว่าง เราจะช่วยให้คุณบรรลุมาตรฐานล่าสุดด้านอาคารสีเขียวหรือกฎระเบียบด้านประสิทธิภาพของอาคารแห่งรัฐ และช่วยปูพื้นฐานสู่การมีอาคาร Net-Zero ให้คุณ

การใช้อุปกรณ์ควบคุมแสงและบังแดดเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การออกแบบอาคารที่ประหยัดพลังงานหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่ใช้ระบบทำความร้อนด้วยแสงอาทิตย์หรือแสงแดดแบบพาสซีฟ มักต้องอาศัยอุปกรณ์ควบคุมแสงแดดและอุปกรณ์บังแดดที่ออกแบบการใช้งานมาอย่างดี

ในช่วงฤดูหนาว การบังแสงหน้าต่างด้านนอกเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ไม่ต้องการเข้าสู่พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ การแรเงาแสงสามารถทำได้โดยการจัดสวนตามธรรมชาติหรือโดยองค์ประกอบต่างๆ ของอาคาร เช่น กันสาด ส่วนที่ยื่นออกมา และโครงสร้างช่องบังตา อุปกรณ์บังแดดบางชนิดสามารถใช้เป็นแผ่นสะท้อนแสงได้หรือที่เรียกว่าหิ้งสะท้อนแสง ซึ่งจะช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติเพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาภายในอาคารได้

การออกแบบอุปกรณ์บังแดดให้มีประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับการวางแนวแสงอาทิตย์ของส่วนหน้าอาคารโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น ส่วนยื่นแบบยึดติดตรงหน้าต่างแบบธรรมดาจะช่วยบังแดดหน้าต่างที่หันไปทางทิศใต้ในฤดูร้อนที่มีมุมของดวงอาทิตย์สูง อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์แนวนอนแบบเดียวกันนี้ใช้ไม่ได้ผลในการบังแดดยามบ่ายที่ตกต่ำไม่ให้เข้าไปในหน้าต่างที่หันไปทางทิศตะวันตกในช่วงที่มีความร้อนสูงสุดในฤดูร้อน

อุปกรณ์บังแดดมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับฟาซาดกระจกใส อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีกระจกประสิทธิภาพสูงพร้อมค่าสัมประสิทธิ์การบังแสง (SC) ที่ต่ำอยู่มาก เมื่อมีการกำหนดสเปค ผลิตภัณฑ์กระจกพวกนี้จะช่วยลดความจำเป็นในการใช้อุปกรณ์บังแดดภายนอกลง

ปรึกษา Danpal เกี่ยวกับโซลูชันครีบบังแดดที่ดีที่สุด ให้กับโครงการของคุณในอนาคต

ฟาซาดโพลีคาร์บอเนตโปร่งแสงคืออะไร?

เปลือกอาคารหรือฟาซาดโปร่งแสง เป็นแผงกระจกใสที่ใช้กับภายนอกอาคาร ซึ่งจะช่วยปกป้องโครงสร้างไม่ให้เกิดความเสียหายจากสภาพอากาศ ความชื้น และการกัดเซาะ ด้วยองค์ประกอบของไมโครเซลล์โพลีคาร์บอเนตจึงช่วยปรับแสงให้นุ่มนวลและกระจายสี ความสว่าง และความทึบได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ

การติดตั้งแผงพร้อมปิดรอยต่อเอาไว้ จะช่วยปิดซ่อนองค์ประกอบอาคารที่ไม่น่ามองและช่วยปกป้องรังสียูวีที่เป็นอันตรายแก่ผู้อาศัย ในขณะเดียวกันก็มีการนำความร้อนมาใช้ประโยชน์สูงสุดด้วย ผู้ใช้งานจะสังเกตเห็นค่าพลังงานที่ลดลงเนื่องจากแผงความร้อนที่ติดตั้งจะมีการนำแสงธรรมชาติของดวงอาทิตย์มาใช้งาน เพื่อให้ความร้อนและส่องสว่างภายในอาคาร ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่น่าอยู่มากขึ้นในแต่ละการใช้สอยพื้นที่

ประโยชน์ด้านอื่น ๆ มีอะไรบ้าง?

ความหนาแน่นของอากาศและน้ำ

อาคารโปร่งแสงให้ความสมดุลที่เหมาะสมของพลวัตของแสงอาทิตย์และความร้อน ที่จะช่วยปกป้องอาคารจากการรั่วไหล ความชื้น และความเสียหายจากสภาพอากาศ ลักษณะนี้เกิดจากระบบเชื่อมต่อแผงความร้อนแบบ snap-lock ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าอากาศและน้ำจะไม่สามารถทะลุเข้าไปในอาคารได้ อีกทั้งยังสร้างความทนทาน ให้สามารถทนต่อแรงกระแทกจากลูกเห็บและองค์ประกอบอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยการออกแบบให้แผงความร้อนขยายและหดตัวได้เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นและลดลง จึงช่วยให้แผงความร้อนไม่เสียหายหรือแตกหักได้ เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง

แผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตโปร่งแสง และแผ่นฟาซาด คือผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของ Danpal Thailand!

ระบบฟาซาดโปร่งแสงบางชนิดจะมีช่องอากาศที่ช่วยระบายอากาศตามธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติชนิดนี้ช่วยให้ฉนวนแห้งอยู่ตลอด อาคารจึงปราศจากความชื้น และแผ่นโพลีคาร์บอเนตยังช่วยปกป้องโครงสร้างจากสภาพอากาศด้านนอกอีกด้วย

ความโปร่งใสสูงสุด

เพื่อให้แสงส่องเข้าได้มากที่สุด จึงไม่มีกรอบรองรับใด ๆ เลย ซึ่งจะช่วยทำให้ฟาดไม่มีสิ่งสกปรกตกค้าง อย่างไรก็ตามการกำหนดโครงรองรับสำเร็จรูปนั้น จำเป็นต้องมีการคำนวณที่ซับซ้อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของอาคารเพียงเพราะเหตุผลด้านความสวยงามของอาคารภายนอก

การส่งผ่านแสง

เรื่องบทบาทของแสงในงานสถาปัตยกรรมเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ ตามคำกล่าวของสตีเวน ฮอลล์ สถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ยุคใหม่ แสงในสถาปัตยกรรมเป็นดั่งเช่นเสียงในดนตรี

แสงสว่างแสดงถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ แต่การให้แสงสว่างอย่างต่อเนื่องบางครั้งอาจต้องลดหย่อนด้านความปลอดภัย แต่ด้วยประโยชน์ของาซาดโพลีคาร์บอเนต คุณไม่จำเป็นต้องเลือกอีกต่อไป

แผ่นโพลีคาร์บอเนตสามารถส่งผ่านแสงได้เหมือนแผ่นกระจก เนื่องจากการออกแบบมาเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสียูวี นอกจากนี้ยังมีสารเคลือบพิเศษที่ช่วยสะท้อนรังสี UV ออกสู่ภายนอก และยังช่วยกรองแสงอาทิตย์ แต่แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านได้

ฟาซาดที่สามารถเคลื่อนไหวได้

ด้วยการตกแต่งภายในที่มีแสงสว่างส่องเข้ามาอย่างนุ่มนวลและสม่ำเสมอระหว่างวัน และการสร้างเอฟเฟกต์ ‘อาคารโคมไฟ’ ในช่วงเวลากลางคืน พื้นผิวฟาซาดจะถูกตั้งโปรแกรมและแปลงให้เป็นการโฆษณาและการฉายภาพออกภายนอกโดยฝีมือเจ้าของโครงการ

แผงโพลีคาร์บอเนต standing seam ทำงานอย่างไร?

ระบบแผงโพลีคาร์บอเนต standing seam ของ Danpal ประกอบด้วยแผงโปร่งแสงแบบอัดรีดและตะเข็บแนวตั้งที่ปลายแต่ละด้านของแผง เชื่อมต่อแผงเข้าด้วยกันแบบ snap-on และใช้คลิปยึดสแตนเลสแบบซ่อน เมื่อประกอบเสร็จเรียบร้อย แผงที่ติดตั้งจะสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้โดยแต่ละส่วนประกอบสามารถขยายหรือหดตัวได้ตามอัตราของมันเอง

เนื่องจากแต่ละส่วนประกอบของแผงระบบสามารถขยายและหดตัวเองได้ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการแกว่งและการโก่งตัว โดยที่คุณสมบัติโครงสร้างของวัสดุจะยังคงสภาพเดิมอยู่

แผงโพลีคาร์บอเนตมีน้ำหนักเบากว่าแผ่นบังแดดแบบเดิมถึง 3 เท่า จึงติดตั้งง่ายและสะดวกรวดเร็ว 

เนื่องจากความสวยงาม จึงนิยมใช้โพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุในการสร้างเรือนกระจกและการมุงหลังคา และในฐานะวัสดุที่ทันสมัยจึงนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยทั่วไปพบเห็นได้จากหน้าต่าง สกายไลท์ แผ่นผนัง โดมบนหลังคา และองค์ประกอบภายนอกเพื่อติดตั้งไฟ LED การเสริมความปลอดภัย และความสวยงามอย่างมีสไตล์

ในการใช้งานฟาซาดโพลีคาร์บอเนตสามารถให้ประโยชน์หลายอย่าง อีกทั้งยังมีความทนทานสูงและน้ำหนักเบา มีความเงาใสอย่างมากและมีความต้านทานต่อความร้อนสูง

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติทนต่อการติดไฟได้ดีเยี่ยม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยมากสำหรับการใช้งานแทบทุกประเภท

ความหนาของแผ่นฟาซาดโพลีคาร์บอเนตมีหลายแบบ เช่น 30 มม. 40 มม. และ 50 มม. ซึ่งทั้งสามแบบนี้มีลักษณะที่แตกต่างกัน ฟาซาดโดยทั่วไปมีแบบโปร่งแสง แบบฝ้า หรือแบบทึบ

พื้นผิวภายนอกเคลือบด้วย UV ฟิลเตอร์เพื่อการปกป้องสูงสุด ดังนั้นคุณอาจจะเคยเห็นการใช้งานฟาซาดโพลีคาร์บอเนตกับโกดังสินค้า อาคารการผลิต หรืออาคารสาธารณูปการของรัฐต่าง ๆ

ด้วยรูปทรงและขนาดต่าง ๆ ของฟาซาด จึงมีความยาวให้เลือกใช้หลากหลาย ทำให้สถาปนิกสามารถเลือกใช้ประโยชน์ได้ตามความต้องการมากยิ่งขึ้น

ติดต่อ Danpal Thailand เพื่อปรึกษาเรื่องการใช้แสงธรรมชาติจากระบบฟาซาดโปร่งใสให้กับโครงการของคุณ

ฟาซาด Danpal ช่วยให้ฉนวนทำงานได้ดีขึ้น

หากมองหาแผงระบายความร้อนที่มีคุณสมบัติมาตรฐานทั้งหมดตามที่ Danpal มีให้ และยังมองหาฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยมด้วย มั่นใจได้เลยว่า Danpal ช่วยคุณในเรื่องระบบผนัง Danpatherm ได้ เพราะเป็นระบบผนังที่สามารถต้านแรงลมได้ดี สามารถส่งผ่านแสงได้ในระดับต่าง ๆ และมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นโดยที่มองไม่เห็นอะลูมิเนียม อย่างหาที่ไหนไม่ได้ นอกจากนี้ระบบผนัง Danpatherm ยังมีคุณสมบัติบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างที่แผงระบายความร้อนสามารถตอบสนองทุกความต้องการด้านประสิทธิภาพและรูปลักษณ์ที่โดนใจคุณ

แน่นอนว่าที่ Danpal มีทุกอย่างให้คุณเลือก

ระบบผนัง Danpatherm ยกระดับการติดตั้งฟาซาดกันความร้อนอย่างไร?

Danpatherm ซึ่งเป็นระบบแผงคาสเซ็ตต์ถูกผลิตขึ้นสำเร็จรูปจากโรงงาน และจัดส่งไปยังไซต์งานก่อสร้าง รวมถึงพร้อมที่จะติดตั้งเมื่อการจัดส่งมาถึงพื้นที่ การติดตั้งทำได้รวดเร็ว ลดต้นทุนแรงงาน และประหยัดเวลาในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น องค์ประกอบของระบบผนัง Danpatherm ช่วยป้องกันการแทรกซึมของสิ่งสกปรกและความชื้นระหว่างแผงฉนวน ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่สามารถส่งผ่านแสงที่ดีเยี่ยม และมีการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า

ความทนทานของฟาซาดต่อสภาพอากาศร้อน

ระบบผนังฟาซาด Danpal ช่วยยกระดับความมีประสิทธิภาพของตัวอาคารได้อย่างมาก แต่จะสามารถทำงานได้ก็ต่อเมื่อติดตั้งบนองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ เจ้าแผงระบายความร้อน Danpatherm มีความทนทานต่อแรงลมได้ดีอย่างไม่มีใครเทียบได้

นอกจากนี้ระบบผนังกันความร้อน Danpatherm ยังสามารถขยายได้มากกว่า 3 เมตรโดยไม่ต้องใช้คานรองรับ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการวางโครงเหล็กสำรองได้อย่างมาก หากจำเป็นต้องถอดแผงภายนอก สามารถทำได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อตัวอาคาร มีะบบการงานทำงานหลายส่วนที่ดำเนินอยู่ใต้แผงระบายความร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าฉนวนสามารถทำงานได้ดีตามที่ควรจะเป็น

ข้อดีของฟาซาดระบายความร้อน

  • ให้การปกป้องที่สมบูรณ์แบบจากทุกสภาพอากาศ
  • เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยม ช่วยลดต้นทุนการทำความร้อนและการปรับอากาศ รวมถึงการป้องกันการควบแน่นและเชื้อรา
  • ใช้ประโยชน์จากความจุความร้อนที่ผนังได้
  • ช่วยปรับความสวยงามให้กับตัวบ้าน
  • เพิ่มความอบอุ่นความสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย
  • มีการถ่ายโอนจุดควบแน่นและน้ำค้างหรือน้ำแข็งจากผนังไปยังชั้นฉนวนกันความร้อน

องค์ประกอบหลักของฉนวนกันความร้อนภายนอก / แผงระบายความร้อนคือ:

  1. ฉนวนกันความร้อน

ส่วนสำคัญที่สุดและเป็นศูนย์กลางของระบบกันความร้อน ซึ่งมีเม็ดพลายสติกที่ทนต่อแรงกระแทก (EPS) และการผลิตแผงกันความร้อนด้วยขบวนการอัดรีดทำให้มีเซลล์ที่ละเอียด (XPS) Greece โดยส่วนใหญ่จะใช้ตามมาตรฐานที่เหมาะสม

2.เสริมแรงชั้นฐาน

ส่วนประกอบหลักของชั้นนี้ คือ ใยแก้วอัลคาไลน์

  1. ชั้นนอกมีการตกแต่งให้สวยงาม

มีตัวเลือกลวดลาย พื้นผิว และสีหลากหลายแบบ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของสถาปนิก แนวโน้มในปัจจุบันคือ การใช้สีทาอะคริลิกในรูปแบบเพสท์

ค่าใช้จ่ายการติดตั้งฟาซาดระบายความร้อนขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละโครงการ โดยหมายรวมถึงขนาดของผนังบ้าน และความหนาของวัสดุฉนวนที่เลือกใช้

ฉนวนกันความร้อนภายใน

ประโยชน์หลักจากการติดตั้งระบบฉนวนความร้อนที่เหมาะสมในตัวอาคาร คือการช่วยลดการแลกเปลี่ยนความร้อนระหว่างสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก จึงทำให้มีความต้านทานที่จำเป็นต่อการไหลเวียนและการถ่ายเทความร้อน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการทำความร้อนและยกระดับสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นแก่ผู้อยู่อาศัย

ฉนวนกันความร้อนทำได้โดยการติดตั้งวัสดุฉนวน เช่น แผ่นโพลีคาร์บอเนตคุณภาพสูง ตรงด้านในของผนัง และการป้องกันด้วยวัสดุโครงสร้างที่แข็งแรง (เช่น แผ่นยิปซัม) ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารเคลือบภายใน

การติดตั้งฉนวนภายในอาคารเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างประหยัด ซึ่งสามารถติดตั้งให้เสร็จสิ้นในระยะเวลาสั้น ๆ พร้อมมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการติดตั้งฉนวนภายนอกเนื่องจากวัสดุมีความทนทานต่อจากสภาพอากาศ จึงเสียหายได้ยาก อย่างไรก็ตามฉนวนภายในยังคงไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดสำหรับฉนวนกันความร้อนตัวบ้าน

ค่าการถ่ายเทความร้อนบ่งบอกถึงอะไรของฟาซาดกันความร้อน

การจะรู้ว่าวัสดุที่ทำหน้าที่เป็นฉนวนกกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใดนั้น ต้องวัดจากค่า U หรือค่าการถ่ายเทความร้อน โดยนำอัตราการถ่ายเทความร้อนผ่านโครงสร้าง หารด้วยค่าความแตกต่างของอุณหภูมิทั่วทั้งโครงสร้าง ซึ่งหน่วยวัดที่ใช้ในการประเมินจำนวนนี้คือ W/m²K

เมื่อค่า U ต่ำ แสดงว่าวัสดุนั้นเป็นฉนวนมากขึ้นและสูญเสียความร้อนน้อยลง ตัวอย่างเช่น ความร้อนจะลอดผ่านช่องหน้าต่างมากกว่าการถ่ายเทออกจากผนังบริเวณเดียวกัน การรู้ค่า U จะทำให้สามารถคาดเดาประสิทธิภาพโดยรวมขององค์ประกอบทั้งหมดได้ง่ายขึ้น เมื่อติดตั้งวัสดุฉนวนโปร่งแสงเข้าไปในโพรง ฉนวนระบายความร้อนของ Danpal มีค่า U ที่ต่ำเพียง 0.52 W/m²K ในวัสดุรุ่น Danpatherm K12 และค่า 0.72 W/m²K ในวัสดุรุ่น Danpatherm K7 

แสงและฟาซาดกันความร้อน

เรากำลังพูดถึงฉนวนและความร้อนอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกคนรู้ดีว่า Danpal และเรื่องของแสง เป็นอะไรที่เข้าขากันได้ดี นั่นเป็นเพราะแสงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของฟาซาด Danpal  วัสดุ Danpatherm Softlite เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของ Danpal ที่ติดตั้งในแผง เพื่อให้แสงส่งผ่านได้สม่ำเสมอและช่วยลดแสงสะท้อน ภายในอาคารหรือตัวบ้านจึงได้รับแสงสว่างสม่ำเสมอด้วยแสงกระจายที่นุ่มนวลและอ่อนโยน

เมื่อติดตั้งระบบไฟ LED ครบวงจรเข้าด้วยกัน ผลที่ได้คือผนังสว่างสดใสในช่วงเวลากลางวันและการฉายไฟที่โดดเด่นในช่วงเวลากลางคืน

ติดต่อ Danpal Thailand เพื่อปรึกษาการใช้พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ให้กับโครงการของคุณ

ฟาซาดโพลีคาร์บอเนต สิ่งก่อสร้างที่มีสไตล์ในประเทศไทย

สิ่งที่เหมือนกันระหว่างหอศิลป์ผนังเรืองแสงในซานเปาโล และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยของรัสเซีย คืออะไร

สิ่งที่เหมือนกันคือ แผ่นฟาซาดโพลีคาร์บอเนต! ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องยากที่จะบรรยายถึงประสิทธิภาพของฟาซาดโพลีคาร์บอเนตที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรม

ฟาซาดโพลีคาร์บอเนตเป็น แผ่นเทอร์โมพลาสติกที่มีประสิทธิภาพสูงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายกับตัวอาคารและโครงการก่อสร้าง

คุณอาจเคยเห็นตึกและหอคอยสูงเหล่านั้นมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุว่า ทำคุณถึงควรใช้หรือไม่ควรใช้แผ่นฟาซาดกับงานก่อสร้าง?

 

ทำไมต้องเลือกใช้ฟาซาดโพลีคาร์บอเนตสำหรับอาคารคุณภาพในประเทศไทย?

แผ่นโพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุที่นิยมใช้สร้างเรือนกระจกและหลังคา เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความสวยงามและทันสมัย จึงมีการใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนตกันอย่างแพร่หลาย โดยคุณจะสังเกตุเห็นได้จากหน้าต่าง สกายไลท์ แผ่นผนัง โดมบนหลังคา และส่วนประกอบภายนอกอาคารเพื่อติดตั้งไฟ LED การเสริมความปลอดภัย และความสวยงามอย่างมีสไตล์

ฟาซาดโพลีคาร์บอเนตมีให้เลือกใช้ประโยชน์ได้หลายแบบ คุณสมบัติที่โดดเด่นคือ ความทนทานสูงและน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังมีความเงาใสอย่างมากและทนความร้อนสูงได้

รวมถึงคุณสมบัติป้องกันการติดไฟได้ดีเยี่ยม ทำให้แผ่นฟาซาดโพลีคาร์บอเนตเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสูงสำหรับการใช้งานแทบทุกประเภท

ความหนาของแผ่นฟาซาดโพลีคาร์บอเนตมีหลายแบบ เช่น 30 มม. 40 มม. และ 50 มม. ซึ่งทั้งสามแบบนี้มีลักษณะที่แตกต่างกัน ฟาซาดโดยทั่วไปมีแบบโปร่งแสง แบบฝ้า หรือแบบทึบ

 

พื้นผิวภายนอกเคลือบด้วย UV ฟิลเตอร์เพื่อการปกป้องสูงสุด ดังนั้นคุณอาจจะเคยเห็นการใช้งานฟาซาดโพลีคาร์บอเนตกับโกดังสินค้า อาคารการผลิต หรืออาคารสาธารณูปการของรัฐต่าง ๆ

ด้วยรูปทรงและขนาดต่าง ๆ ของฟาซาด จึงมีความยาวให้เลือกใช้หลากหลาย ทำให้สถาปนิกสามารถเลือกใช้ประโยชน์ได้ตามความต้องการมากยิ่งขึ้น

 

ประโยชน์ของการใช้ฟาซาดโพลีคาร์บอเนตในอาคาร

คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประโยชน์ของฟาซาดโพลีคาร์บอเนตหรือไม่? 

อันที่จริงแล้ว ไม่น่าจะมี!

เพราะในตอนนี้ เรากำลังจะอธิบายถึงประโยชน์อันยอดเยี่ยมของฟาซาดโพลีคาร์บอเนต เพียงอ่านต่ออีกสักนิด แล้วคุณจะหลงรักแผ่นฟาซาดโพลีคาร์บอเนตตัวนี้

หากพูดถึงปัญหาจากแผ่นฟาซาด ต้องบอกเลยว่าแทบไม่มี ทีนี้มาดูกันว่าประโยชน์ของฟาซาดโพลีคาร์บอเนตนั้นมีอะไรบ้าง

 

การส่งผ่านแสง

เรื่องบทบาทของแสงในงานสถาปัตยกรรมเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ ตามคำกล่าวของสตีเวน ฮอลล์ สถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ยุคใหม่ แสงในสถาปัตยกรรมเป็นดั่งเช่นเสียงในดนตรี

แสงแสดงถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ แต่การให้แสงสว่างอย่างต่อเนื่อง บางครั้งอาจต้องลดหย่อนด้านความปลอดภัย แต่ด้วยประโยชน์ของาซาดโพลีคาร์บอเนต คุณไม่จำเป็นต้องเลือกอีกต่อไป

แผ่นโพลีคาร์บอเนตสามารถส่งผ่านแสงได้เหมือนแผ่นกระจก เนื่องจากการออกแบบมาเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสียูวี นอกจากนี้ยังมีสารเคลือบพิเศษที่ช่วยสะท้อนรังสี UV ออกสู่ภายนอก และยังช่วยกรองแสงอาทิตย์ แต่แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านได้

 

ทนต่อแรงกระแทกและการแตกหัก

แผ่นโพลีคาร์บอเนตถูกออกแบบให้ทนต่อแรงกระแทกสูงกว่ากระจก จึงทนทานต่อพายุลูกเห็บ กิ่งไม้ที่ร่วงหล่น กันขโมย และวัตถุอื่น ๆ ได้ดีกว่ากระจก

ด้วยองค์ประกอบที่ทนต่อแรงกระแทกและการแตกหัก จึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่มีราคาแพง

ฟังดูแล้วมันคุ้มมากใช่ไหม? แผ่นโพลีคาร์บอเนตไม่เปราะบางเมื่อใช้ไปนาน ๆ แถมยังขนย้ายหรือจัดการง่ายเพราะมีความแข็งแรงทนทาน

บางทีคุณอาจจะอยากรู้เกี่ยวกับเต็นท์พองลมใสที่ทำจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนตขึ้นมาทันที

 

ฉนวนกันความร้อนที่ดี

แผ่นหลังคาโปร่งแสง การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างวัสดุมุงหลังคาและแสงธรรมชาติ

แผ่นโพลีคาร์บอเนตได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากคุณสมบัติด้านฉนวนกันความร้อน โดยมีการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนรอบ ๆ ตัวอาคารผ่านช่องอากาศที่เพิ่มเข้ามา

คุณมักจะสังเกตเห็นว่า แผ่นโพลีคาร์บอเนตจะถูกใช้เป็นฉนวนกันเสียงตามท้องถนน ทางรถไฟ หรือสถานที่ก่อสร้าง รวมถึงใช้ในสำนักงานหรือร้านค้าเพื่อใช้เป็นระบบตัดเสียงที่ดี


ดัดงอได้ง่าย

คุณสามารถดัดแผ่นโพลีคาร์บอเนตได้ตามต้องการ สามารถสร้างรูปทรงและขนาดต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถดัดโค้งเย็นเพื่อสร้างพื้นผิวโค้งได้

เนื่องจากโพลีคาร์บอเนตเป็นเทอร์โมพลาสติก จึงสามารถทำให้ร้อน ระบายความร้อน และอุ่นซ้ำได้อีกครั้งโดยไม่ลดทอนคุณภาพใด ๆ โพลีคาร์บอเนตจึงสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100%


น้ำหนักเบากว่ากระจก

เพราะมวลน้ำหนักของแผ่นโพลีคาร์บอเนตที่เบากว่ากระจก จึงช่วยลดน้ำหนักของตัวอาคาร กระจกมีความหนาแน่น 2800 กก./ลบ.ม. ในขณะที่โพลีคาร์บอเนตมีความหนาแน่นที่ 1200 กก./ลบ.ม.

ด้วยน้ำหนักที่เบากว่ากระจก หมายความว่ามีสารบนหลังคาน้อยลงและมีแรงตึงในส่วนอื่น ๆ ของอาคารน้อยลงด้วย

ดังนั้นหลังคาโพลีคาร์บอเนตจึงสามารถลดต้นทุนโครงสร้างอาคารได้ เนื่องจากหลังคามีน้ำหนักเบา

นอกจากนี้ยังช่วยให้ประหยัดพลังงานและต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะแผ่นโพลีคาร์บอเนตมีน้ำหนักเบาจึงขนย้ายหรือยกง่ายขึ้น และข้อดีที่สุดคือโพลีคาร์บอเนตสามารถทนได้เกือบทุกสภาพอากาศตั้งแต่อากาศร้อนจนถึงอากาศเย็นจัด

 

ทำไมโพลีคาร์บอเนตจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับอาคารและงานก่อสร้างในประเทศไทย?

เมื่อกล่าวถึงวัสดุมุงหลังคา กระจกแก้วยังเป็นวัสดุที่นิยมมากกว่า จากนั้นแผ่นโพลีคาร์บอเนตจึงเริ่มเข้ามาแทนที่ เพราะนอกจากความแข็งแรงที่มีมากกว่ากระจกแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานได้กว่ามากอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาวัสดุที่มีความทนทาน แข็งแรง น้ำหนักเบา มีรูปแบบสวยงาม และมีการระบายอากาศที่ดีที่สุด แผ่นโพลีคาร์บอเนตคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีคุณสมบัติให้แสงสามารถส่องเข้ามาในตัวอาคารในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งแตกต่างจากแผ่นกระจกและวัสดุอื่น ๆ ที่มีใช้กันทั่วไป

โพลีคาร์บอเนตมีความแข็งแรงที่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงไม่แปลกใจที่โพลีคาร์บอเนตกลายเป็นวัสดุที่นิยมใช้กับตัวอาคารและงานก่อสร้างมากที่สุด


บทสรุป

เมื่ออ่านบทความนี้ทั้งหมดแล้ว คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติที่สำคัญของฟาซาดโพลีคาร์บอเนต

หากมีคำถามใด ๆ สามารถแจ้งได้ทันที เรายินดีตอบทุกคำถาม

Danpal Thailand ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านระบบฟาซาดโพลีคาร์บอเนต หากต้องการซื้อฟาซาดที่แข็งแรงทนทานและใช้งานได้ยาวนาน สามารถติต่อเราได้ทันที เรามีฟาซาดโพลีคาร์บอเนตคุณภาพสูงที่สุดในตลาดให้คุณได้เลือกหา!

สกายไลท์สองชั้น

gหลังคาสกายไลท์สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ดีแค่ไหน?

คุณอาจชอบรูปลักษณ์ของหลังคาสกายไลท์ แต่ก็อาจกังวลว่าหลังคาสกายไลท์จะทนต่อสภาพอากาศได้ดีเพียงใด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีลมแรงและฝนตกหนักซึ่งในประเทศไทยมีฤดูฝนที่ตกหนักอยู่บางช่วง

ผลิตภัณฑ์ Danpal Thailand ถูกผลิตขึ้นเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศเมื่อมีพายุและลมพัดแรง และหลังคา Skylight Solution ของเราสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับท่านได้

ระบบหลังคา Danpatherm RK 7 เสริมกระจกสองชั้นของเรามีความแข็งแกร่งและทนทาน ยิ่งคุณมีข้อมูลมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นว่าสกายไลท์หนาสองชั้นคือทางเลือกที่เหมาะสม ทั้งยังมีฉนวนกันความร้อนที่เหนือกว่า ประหยัดพลังงานแสงจากหลอดไฟ เสริมการปกป้องจากสภาพอากาศ ทั้งหมดล้วนทำให้เกิดความพึงพอใจในการที่มีแสงสว่างภายใต้หลังคาบ้านของคุณ

ประโยชน์ของหลังคาสกายไลท์สองชั้น

หลังคา Danpatherm RK7 มีข้อดีที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศได้ เพราะมีโครงสร้างเหล็กที่คอยช่วยต้านทานแรงลมและหิมะได้อย่างไม่มีใครเหมือน และเนื่องจากเป็นผนังกระจกสองชั้น จึงช่วยลดเสียงจากฝนตกกระทบได้ ลักษณะของหลังคาสกายไลท์สองชั้นมีความพิเศษตรงที่มีเสากระจกถูกซ่อนเอาไว้เพื่อไม่ให้บดบังช่องว่างกระจก มีฉนวนกันความร้อนชนิดพิเศษและติดตั้งง่าย ซึ่งอาจเป็นเพราะมีโครงสีเหลี่ยมสำเร็จจากโรงงาน

วิวจากสกายไลท์สองชั้น

สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ในฝรั่งเศสแห่งนี้เลือกใช้แผ่นกระจกสองชั้น Danpatherm RK7 และให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ในระหว่างวันจะมีแสงกระจายเข้าสู่สปอร์ตคอมเพล็กซ์เพื่อให้สามารถลดปริมาณแสงจากหลอดไฟลงได้ อาคารจะไม่ร้อนแม้ไม่ได้เปิดแอร์หรือปิดทำการเพราะมีระบบฉนวนกันความร้อน และเมื่อสถานที่แห่งนี้เปิดให้บริการ อุณหภูมิภายในอาคารประมาณ 15 องศาซึ่งถือว่ากำลังดี แต่หากอุณหภูมิอุ่นเกินไป อากาศก็จะถูกดึงออกโดยระบบระบายอากาศตามธรรมชาติบนหลังคา การใช้ระบบสกายไลท์สองชั้นช่วยประหยัดต้นทุนการใช้พลังงานของคุณได้อย่างน่าพอใจ



สภาพอากาศและหลังคาสกายไลท์ทำหน้าที่ร่วมกัน

แนวคิดเรื่องบ้านต้นไม้ยังคงใช้ไม่ได้ผล ดังนั้นก่อนที่คุณจะเริ่มวัดความสูงของกิ่งไม้บริเวณที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงาน ให้หยุดก่อนแล้วลองพิจารณาใช้หลังคาสกายไลท์แทน สภาพอากาศเป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่ในชีวิตเราทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือ 365 วันต่อปี แสงแดดอันแรงกล้าในช่วงฤดูร้อนทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวมืดเร็ว วันที่อากาศร้อนและมีแดดจะแบ่งเวลาเท่ากันตามฤดูกาลกับวันที่อากาศหนาวจัด คุณอาจอยากออกจากรถเพื่อเดินไปที่ทำงานในวันที่อากาศสดใส แต่เมื่อฝนโปรยลงมาคุณจะต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อเข้าไปหลบฝนในที่ร่ม หลังคาสกายไลท์ช่วยให้สภาพอากาศทำหน้าที่ทางธรรมชาติโดยที่ไม่กระทบตัวคุณเมื่อกำลังยื่นหลบฝนอยู่ในอาคาร และยิ่งเป็นหลังคาสกายไลท์ยังทำให้คุณได้สัมผัสเห็นวิธีที่แสงเปลี่ยนมาส่องสว่างในพื้นที่ทำงานและที่อยู่อาศัย คุณจะไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อสภาพอากาศแปรปรวนเพราะคุณอยู่ข้างใน

หลังคาสกายไลท์ช่วยให้สภาพอากาศสมดุลได้อย่างไร

เป็นหนึ่งนวัตกรรมที่ Danpal ได้พัฒนาวิธีการเพื่อตอบสนองตามความต้องการของทุกคน หลังคาสกายไลท์ช่วยให้แสงแดดส่องเข้ามาในอาคารได้ แต่จะป้องกันหิมะ ฝน ลมและลูกเห็บไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่ นั่นเป็นเพราะเทคโนโลยีไมโครเซลล์ที่ได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อให้สามารถป้องกันน้ำได้ 100% จากสภาพอากาศที่เปียกชื้น คุณรับรู้ว่าข้างนอกฝนตกหรือมีหิมะตก แต่ก็ไม่รบกวนกิจกรรมของคุณ นอกจากนี้คุณยังจะได้รับประโยชน์จากสภาพอากาศ เช่น การได้รับแสงแดดมากขึ้นจะช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีในร่างกายโดยไม่ต้องทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวไหม้ คุณจะมองเห็นได้ดีขึ้นเพราะแสงธรรมชาติมีประโยชน์ต่อการมองเห็นอย่างมาก แถมยังสามารถเดินไปยังที่ที่คุ้นเคยภายในที่ทำงานและพื้นที่ใช้สอยได้สะดวกเพราะทางสว่าง ส่วนโครงแผ่นกระจกหลังคามีระยะห่างกันที่พอดีเพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์ของแสงที่ส่องเข้ามา


การติดตั้งหลังคาสกายไลท์เป็นเรื่องง่าย

อีกประการหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของหลังคาสกายไลท์คือ ความสะดวกในการติดตั้ง

Danpal มอบหลังคาที่มีความยาวและขนาดที่แตกต่างกัน ทั้งหมดนี้สามารถเสียบเข้าไปในจุดที่กำหนดได้อย่างง่ายดายและไม่ยุ่งยากต่อการใช้งาน ดังนั้นนอกจากคุณจะรู้สึกพอใจกับหลังคาสกายไลท์ ทีมงานที่ติดตั้งก็ยังมีความสุขไปด้วย

หากต้องสัมผัสสภาพอากาศที่ดีที่สุดโดยไม่มีผลกระทบ หลังคาสกายไลท์คือทางสำหรับคุณ

ปรึกษาเรา เกี่ยวกับหลังคาสกายไลท์ระดับพรีเมี่ยม!

เกล็ดผนัง ทางเลือกที่คุณจะชื่นชอบ

การเพิ่มเกล็ดผนังให้กับตัวอาคาร นอกจากประโยชน์ที่มีแล้วยังได้ในเรื่องรูปลักษณ์ของอาคารด้วย เพราะเกล็ดผนังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยระบายอากาศทำให้อากาศถ่ายเทได้อย่างลงตัวโดยที่อากาศภายนอกไม่เข้ามารบกวน ระบบถ่ายเททำงานโดยให้อากาศผ่านเข้ามาทางเกล็ดผนัง ช่วยทำให้มีอากาศบริสุทธิ์หมุนเวียนในห้อง นับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่บาางทีก็ไม่มีใครอยากรับมือกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ เช่น ฝนตก นอกจากนี้เกล็ดผนังยังสามารถป้องกันไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าไปด้านในได้อีกด้วย และนี่คือประโยชน์ของเกล็ดผนังและภาพลักษณ์ภายนอกของตัวอาคาร

ประโยชน์ของการระบายอากาศในอาคาร

ส่วนใหญ่คนเราจะใช้เวลาทั้งกลางวันและกลางคืนอยู่ภายในที่ร่ม ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้รับอากาศบริสุทธิ์มากนัก หลังจากใช้เวลาอยู่ในห้องที่อากาศเหม็นอับมาทั้งวันจนรู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นอับนิด ๆ แต่ก็ไม่มีใครบอกว่าอากาศภายนอกบริสุทธิ์เสมอไป มลภาวะเป็นปัจจัยหนึ่งที่เราทุกคนต้องรับมือ แต่อากาศภายในหากไม่มีการระบายที่ดีเพื่อนำอากาศบริสุทธิ์เข้ามาและเคลื่อนย้ายอากาศที่เหม็นอับออกไป อาจทำให้มีแบคทีเรีย เชื้อราและมลพิษ นั่นคือเหตุผลที่เกล็ดผนังสามารถช่วยให้พื้นที่ทำงานและพื้นที่ใช้สอยมีการระบายอากาศที่ดีเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกยิ่งขึ้น

การใช้ฉนวนป้องกันเพื่อประโยชน์ต่อตัวอาคารเองนั้นมาจากการระบายอากาศตามธรรมชาติ ที่ผ่านเข้ามาจากช่องอากาศบนแผ่นเกล็ดซึ่งทำจากโพลีคาร์บอเนต

2 ประโยชน์หลักจากการระบายอากาศภายในอาคาร

คุณคิดถึงอากาศในอาคารของคุณบ่อยแค่ไหน? คนส่วนใหญ่มักจะตอบว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน โดยไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ เมื่อเปิดใช้ระบบ HVAC ของอาคาร อากาศอุ่นหรือเย็นจะถูกสูบผ่านอาคารและทุกคนในนั้นจะรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ด้วยอากาศที่ถ่ายเข้ามานั้น แน่นอนว่ามักจะมีมลพิษทางอากาศภายในอาคาร เช่น โรคลีเจียนแนร์ เชื้อรา ฝุ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์

หากมลภาวะทั้งหมดก่อตัวขึ้นในปริมาณที่มากพอในบริเวณภายในอาคารแห่งหนึ่ง ย่อมมีกลุ่มอาการป่วยเหตุอาคารเกิดขึ้น (sick building syndrome)  ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่สังเกตได้จาก เช่น อาการปวดหัวและอาการภูมิแพ้ในร่มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าอากาศในอาคารมีสุขภาพดี จึงต้องมีระบบระบายอากาศเชิงกลเพื่อดูดและกระจายอากาศภายนอกในลักษณะที่มีการควบคุมจากภายในอาคาร

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการระบายอากาศแรงกลและธรรมชาติ

เมื่อพูดถึงการระบายอากาศเชิงกลนั่นหมายถึงระบบพัดลม ซึ่งเป็นตัวลดแรงกระแทกและท่ออากาศที่ช่วยส่งอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่อาคาร และขับอากาศที่อับออกจากอาคาร หากไม่มีส่วนระบายอากาศ (V) ด้วยระบบ HVAC อากาศภายในอาคารจะหมุนเวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนอากาศภายนอกจะเข้าสู่อาคารก็ต่อเมื่อมีการเปิดประตูหรือหน้าต่างเท่านั้น สถานการณ์ลักษณะนี้จะปล่อยให้ละอองเกสร ฝุ่น สิ่งสกปรก ความเครียดและเชื้อโรคสะสมอยู่ภายในอาคาร ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มระดับมลพิษทางอากาศภายในอาคารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีกลิ่นและความชื้นเพิ่มมากขึ้น

การระบายอากาศตามธรรมชาติของอาคารคือ การเปิดประตูหรือหน้าต่าง เมื่อประตูหรือหน้าต่างถูกเปิด อากาศภายในจะถ่ายออกและอากาศภายนอกจะเข้ามาภายใน จนมีการประดิษฐ์เครื่องปรับอากาศและเตาเผาไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น โดยทั้งหมดนี้คือการระบายอากาศของอาคาร หากสภาพภายในห้องไม่พึงประสงค์ ให้ลองเปิดหน้าต่างหรือประตูด้านนอกของบ้านหรืออาคาร เพื่อให้อากาศบริสุทธิ์เข้าไปข้างใน

น่าเสียดายที่การระบายอากาศตามธรรมชาตินั้นไม่สามารถควบคุมอากาศที่เข้ามาในอาคารได้ เช่น ปริมาณอากาศภายนอกเท่าใดที่ต้องการให้เข้ามา และวิธีการกระจายอากาศ ซึ่งหมายความว่ายังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ยิ่งเมื่อการขับรถที่มีมลพิษทางท่อไอเสียปล่อยออกมา ไอเสียเหล่านั้นสามารถลอยเข้าไปในอาคารได้ และนี่คือสาเหตุว่าทำไมอาคารสมัยใหม่จึงต้องมีระบบระบายอากาศเชิงกล

ประโยชน์ของการระบายอากาศเชิงกล

การระบายอากาศเชิงกลให้ประโยชน์หลักสองประการที่เหนือกว่าการระบายอากาศตามธรรมชาติ ได้แก่ การควบคุมอากาศบริสุทธิ์ภายนอกว่ามาจากไหน และวิธีการกรองและกระจายอากาศไปทั่วอาคาร

1. ความสามารถในการควบคุมแหล่งอากาศบริสุทธิ์

การรู้แหล่งที่มาของอากาศบริสุทธิ์ที่เข้าสู่อาคารเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากคุณไม่ต้องการให้มีอากาศบริสุทธิ์ที่มีลานจอดรถอยู่ข้าง ๆ ซึ่งสามารถดูดไอเสียรถยนต์เข้ามาด้วยได้ นอกจากนี้คุณคงไม่ต้องการให้ตัวระบายอากาศอยู่ติดกับช่องระบายอากาศในห้องครัวที่สามารถดูดกลิ่นปรุงอาหารได้ แต่ข่าวดีก็คือ ช่องรับอากาศบริสุทธิ์สามารถอยู่ได้เกือบทุกที่ทั้งภายนอกอาคาร รวมทั้งบนหลังคาของคุณด้วย ด้วยการจัดหาอากาศจากสถานที่ที่ดีที่สุดที่คุณจะมั่นใจได้ว่าอากาศภายนอกที่บริสุทธิ์และสะอาดจะเข้าสู่ระบบระบายอากาศเชิงกล

2. ความสามารถในการควบคุมปริมาณอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่อาคาร

วิธีที่สำคัญที่สุดต่อมาคือ ระบบระบายอากาศเชิงกลจะช่วยดึงอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในอาคารในปริมาณหนึ่งและนำอากาศภายนอกที่เข้ามากระจายไปยังตำแหน่งที่อาคารของคุณต้องการมากที่สุด แน่นอนว่าจะต้องมีกระบวนการที่จะดึงอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่อาคารของคุณและต้องมีการหมุนเวียนอย่างไร ตัวรับสัญญาณภายในอาคาร ที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์หรืออาคารอุตสาหกรรมหลายหน่วย จะคอยตรวจสอบระดับก๊าซบางชนิดเช่น CO2 และไนโตรเจน เมื่อระดับของก๊าซเหล่านี้ถึงจุดหนึ่ง สัญญาณจะจับได้ทั้งไอเสียและปริมาณอากาศที่เข้ามาในระบบ ตัวสัญญาณจะขับไอเสียที่เป็นตัวทำให้อากาศเหม็นอับออกจากอาคารและคอยระบายอากาศ ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์เข้าสู่อาคาร อากาศบริสุทธิ์ที่เข้าสู่อาคารจะถูกกรองและทำให้ร้อนหรือเย็นลง รวมทั้งหมุนเวียนผ่านท่ออากาศ HVAC ของคุณ การปล่อยอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในอาคารของคุณในปริมาณที่ควบคุมได้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยกำจัดฝุ่นละอองที่อาจลอยอยู่ในอากาศภายในอาคารได้ และปรับคุณภาพอากาศภายในอาคารให้ดีขึ้นด้วย

เลือกระบบเกล็ดผนัง Danpal® Danpashade สำหรับติดตั้งในอาคารของคุณ

Danpal มีความภูมิใจที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์การก่อสร้างที่น่าประทับใจซึ่งมีความโดดเด่นเหนือกว่าเจ้าอื่น คุณสมบัติผลิตภัณฑ์บางอย่างสามารถใช้ร่วมกันกับสินค้าทั้งหมดที่เราผลิต และมีตัวอย่างให้เห็นอยู่ทั่วไป สำหรับเกล็ดผลัง Danpal เราดำเนินธุรกิจมานานกว่าห้าสิบปีและในครึ่งศตวรรษนั้นเราได้เรียนรู้วิธีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทนทานเพียงพอที่จะทนต่อทุกสภาพอากาศ โดยยังคงเป็นไปตามข้อบังคับอาคาร เรื่องของสภาพอากาศเป็นสิ่งที่รับมือได้ยาก แต่ด้วยเทคโนโลยี Microcell ของ Danpal ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้สามารถต้านทานแรงกระแทกสูงเพื่อรองรับระบบที่มีการเชื่อมต่อล็อคแบบใหม่ double-tooth ซึ่งจะรับประกันอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นไม่ว่าลมจะพัดแรงแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้การออกแบบถูกกำหนดเพื่อการใช้งานในเวลากลางวันโดยระยะห่างระหว่างโครงบานเกล็ดผนังค่อนข้างถี่เพื่อให้ได้แสงที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานของระบบ เกิดจากการเสริมความแข็งแกร่งโดยแผ่นที่ให้การป้องกันรังสียูวีร่วมกันด้วย

แสงกลางวันให้ความสวยงามน่าดึงดูดและทาง Danpal ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกในด้านสถาปัตยกรรมการรับแสงกลางวัน ได้ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้แสงธรรมชาติเป็นคุณสมบัติที่สามารถเพิ่มเข้าไปในการออกแบบโครงสร้างได้ นอกจากนี้ Danpal ยังออกแบบให้ระบบมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เราเน้นรูปลักษณ์และฟังก์ชั่น รวมถึงระบบแรเงาของแสงจาก Danpal® Louvre ที่มีสีของเกล็ดผนังให้เลือกหลากหลายตามคาวมชอบของคุณ

อีกหนึ่งคุณลักษณะของระบบบานเกล็ดผนังของเราที่จะทำให้คุณเชื่อมั่นได้ว่า การตัดสินใจเลือกบานเกล็ดผนัง Danpal นั้นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่คุณจะได้เลือกทั้งความสวยงาม ความมีประสิทธิภาพ รวมถึงความประหยัดต้นทุน เนื่องจากการติดตั้งด้วยขั้วต่อเคลือบแห้งแบบ snap-on ช่วยให้การเชื่อมต่อเข้ากันได้ง่าย ในความง่ายนี้หมายรวมถึง ความไม่ยุ่งยาก ความสะดวกสบาย และนั่นหมายถึงความสบายกระเป๋าเงินของคุณด้วย!

วิธีใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนตร่วมกับระบบระบายน้ำฝนของ Danpal 

ระบบฝนระบายของ Danpal เป็นตัวสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทในด้านมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูสวยงาม ตัวฉนวนกันความร้อนของอาคารได้รับประโยชน์จากการระบายอากาศตามธรรมชาติที่ผ่านเข้ามาผ่านช่องอากาศบนแผ่นบานเกล็ดซึ่งทำจากโพลีคาร์บอเนต ฉนวนกันความร้อนยังคงแห้งและคงไว้ซึ่งมาตรฐานการปฏิบัติงานสำหรับอนาคต แผ่นโพลีคาร์บอเนตช่วยปกป้องอาคารจากความเสียหายจากสภาพอากาศที่อาจไปทำลายโครงสร้างภายในอาคารได้ การปกป้องฉนวนจากความเสียหายจากสภาพอากาศที่เลวร้ายและการรั่วซึม คือหนึ่งในหลาย ๆ วิธีที่แผ่นโพลีคาร์บอเนตสามารถช่วยยืดอายุของตัวอาคารได้อย่างน่าประหลาดใจ

ติดต่อบริษัท Danpal เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสำหรับโครงการก่อสร้างของคุณในอนาคต

สกายไลท์กันกระแทก

ส่วนใหญที่เรานึกถึงเรื่องปัญหาสภาพอากาศ เราจะพิจารณาปัญหาที่เกิดจากฝนตกหนักซึ่งมักจะสร้างความเสียหายจนเกิดน้ำท่วมชั้นใต้ดิน และในกรณีที่รุนแรงถึงขั้นน้ำล้นแม่น้ำจนทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงโดยมีค่าใช้จ่ายสูงมาก จากนั้นเมื่อหิมะตก จะทำให้เกิดปัญหาสภาพอากาศตามมา ลูกเห็บที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยเท่าฝนและหิมะ แต่ทุกคนรู้ว่าลูกเห็บสามารถสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ เครื่องบิน แม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงได้! อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดจากลูกเห็บตกใส่บนหลังคามักจะไม่มีใครสังเกตเห็นจนกว่าจะเกิดการรั่วของน้ำฝน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปกป้องระบบหลังคาจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพอากาศและนี่เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ด้านที่ผู้เชี่ยวชาญของ Danpal สามารถช่วยได้ สกายไลท์กันกระแทก Danpal มีความทนทานเพื่อให้สามารถต้านทานความเสียหายจากลูกเห็บที่ตกลงมาใส่ได้

สกายไลท์กันกระแทก ทนทานทุกสภาพอากาศ

ความทนทานต่อแรงกระแทกเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลายประการของคลังป้องกันสภาพอากาศ Danpal สกายไลท์กันกระแทก Danpal มีความแข็งแรงมากพอที่จะป้องกันสภาพอากาศและป้องกันลูกเห็บหล่นใส่ไม่ให้เกิดความเสียหายกับหลังคา ใช้งานง่ายและน้ำหนักเบา แต่ติดตั้งเรียบร้อยแล้วก็จะกลายเป็นป้อมปราการที่ป้องกันฝน หิมะและลูกเห็บ ด้วยเทคโนโลยี Microcell ที่ใช้ในแผ่นควบคุมได้รับการทดสอบความแข็งแรงและพิสูจน์แล้วว่าเหนือกว่าวัสดุก่อสร้างชนิดอื่น ๆ ในด้านการป้องกันสภาพอากาศ

หลังคาสกายไลท์กันกระแทกมีคุณสมบัติที่หลากหลายจนน่าทึ่ง

ความสะดวกในการติดตั้งหลังคาสกายไลท์ Danpal เป็นอีกหนึ่งเรื่องจริง เพราะเมื่อติดตั้งบนโลหะหรือคอนกรีต มันมีทั้งความคล่องตัวและความยืดหยุ่นผสมกัน นอกจากนี้การติดตั้งยังสะดวกอย่างมากเมื่อต้องการการปรับหลังคาให้มีความยาวและขนาดที่ต้องการ

ระบบสกายไลท์ Danpavault Barrel Vault สามารถวางบนโครงสร้างที่เป็นโลหะได้ โดยสามารถเลือกใช้โครงอลูมิเนียมเสริมได้ หรือให้สามารถรองรับตัวมันเองได้

สกายไลท์ไม่เหมาะกับหลังคาทุกประเภท

เนื่องจากมีการติดตั้งสกายไลท์ไว้ที่แนวใต้หุ้มหลังคาและปลอก ดังนั้นการสร้างหลังคาจึงต้องทำให้สามารถรับสกายไลท์ได้ ในขั้นแรกให้พิจารณาการจัดเฟรมซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นหนึ่งในสองประเภทดังนี้:

  • หลังคา Stick-framed ที่สร้างขึ้นโดยมีคานแยกแต่ละอัน เว้นระยะห่างกันถึงสี่ฟุต เหมาะสำหรับสกายไลท์มากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่เพียงพอที่จะตัดและปรับสกายไลท์ให้พอดีระหว่างจันทัน
  • หลังคาโครงถัก ถูกตั้งชื่อตามส่วนสามเหลี่ยมสำเร็จรูปที่สร้างขึ้นมา ไม่เหมาะสำหรับสกายไลท์อย่างยิ่ง เพราะโครงถักไม่ได้ออกแบบมาให้ตัดได้ หากทำการติดตั้งสกายไลท์ก็อาจลดทอนความสมบูรณ์ของโครงสร้างหลังคาได้

แม้ว่าช่างติดตั้งยินดีที่จะเสริมสกายไลท์ให้กับหลังคาแบบโครงถักก็ตาม คุณอาจต้องใช้สกายไลท์ขนาดเล็กที่มีความกว้างไม่เกินสองฟุตเพื่อให้พอดีกับพื้นที่ที่จำกัดระหว่างคานที่เป็นส่วนประกอบของโครงถักแต่ละอัน ค่าพื้นที่นี้อาจไม่กว้างพอตามความต้องการของคุณ เนื่องจากขนาดที่แนะนำสำหรับสกายไลท์อยู่ระหว่าง 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสของห้องจะรับแสง

ส่วนหลังคาแบบ stick-framed ก็ใช่ว่าจะสามารถติดตั้งสกายไลท์ได้ทุกโครงการ เพราะปัญหาอยู่ที่ความลาดชันของหลังคาที่อาจทำให้ติดตั้งยากขึ้น หลังคารูปทรงจั่ว ทรงปั้นหยาและเพิงนั้นเหมาะแก่การติดตั้งสกายไลท์อย่างยิ่งเพราะทุกหลังมีความลาดชันที่จะไม่ทำให้เกิดน้ำขังและเศษขยะลงมาจากช่องสกายไลท์ เพื่อป้องกันรอยเปรอะเปื้อนจากน้ำบนกระจก นอกจากนี้ หลังคาแบนถือเป็นอีกทางเลือกที่ควรเลี่ยงสำหรับสกายไลท์ด้วยเหตุผลก่อนหน้านี้

นอกจากกระจกแล้วยังสามารถติดตั้งสกายไลท์ด้วยวัสดุชนิดอื่น

สกายไลท์ประกอบด้วยโครงไม้ ไวนิลหรือโลหะที่ยึดกับชิ้นส่วนส่งผ่านแสงหรือที่เรียกว่ากระจก คุณสามารถเลือกการติดตั้งสกายไลท์พลาสติกหรือกระจกก็ได้

การติดตั้งกระจก ที่หนักกว่าสองเท่าและแพงกว่าพลาสติกตั้งแต่ 25 เปอร์เซ็นต์จนถึง 5 เท่า ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณ และถือเป็นตัวเลือกที่ชัดเจน ป้องกันรอยขีดข่วนได้และทนต่อแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทนต่อการเปลี่ยนสี ป้องกันรังสี UV ได้มากขึ้นและมีขนาดและรูปร่างที่กำหนดเองได้ซึ่งแตกต่างจากพลาสติก ดังนั้นการติดตั้งกระจกยังมีฉนวนให้เลือกสองแบบคือ:

  • การเคลือบที่มีการแผ่รังสีต่ำ (low-E) ซึ่งเป็นชั้นโลหะออกไซด์ที่มองไม่เห็นบนบานกระจกด้านใน
  • การเคลือบชั้นก๊าซอาร์กอนแทรกซึมระหว่างบานกระจกทั้งสองเพื่อช่วยกักเก็บความร้อนภายในอาคารในฤดูหนาว ป้องกันความร้อนจากภายนอกในฤดูร้อ นและป้องกันรังสียูวีได้เกือบทั้งหมด

หากคุณเลือกติดตั้งกระจก ควรเลือกเป็นกระจกนิรภัยหรือกระจกลามิเนตเพื่อป้องกันไม่ให้แตกเป็นชิ้นแหลมเมื่อเกิดการกระทบกระเทือน กระจกที่ทนทานที่สุดคือกระจกสองชั้นซึ่งประกอบด้วยกระจกนิรภัยหรือกระจกลามิเนตสองบานหรือบานกระจกด้านนอกเป็นกระจกนิรภัย ส่วนบานกระจกด้านในเป็นกระจกลามิเนต

ติดต่อ Danpal เพื่อปรึกษาเรื่องสกายไลท์กันกระแทกให้กับโครงการก่อสร้างถัดไปของคุณ

แผ่นผนังโปร่งแสงหุ้มฉนวน

แผ่นผนังฟาซาด Danpal ช่วยเสริมเปลือกอาคารให้ดูดีมีประสิทธิภาพได้เหนือความคาดหวังของลูกค้า พร้อมทั้งประสบการณ์การควบคุมระบบแสงที่โดดเด่นของ Danpal อันเป็นที่รู้จักกันดี ในอีดตเรามักจะเห็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่แบบดั้งเดิมเสริมด้วยแผ่นผนังโปร่งแสงหุ้มฉนวนซึ่งเป็นทางเลือกที่นิยมในตอนนั้น ทำให้หน้าต่างสามารถรับแสงเข้ามาในพื้นที่บ้านหรืออาคารได้ แต่ยังติดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนจากแสงธรรมชาติอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทาง Danpal จึงได้ออกแบบแผ่นผนังโปร่งแสงหุ้มฉนวนที่สามารถควบคุมแสงและป้องกันแสงสะท้อนได้ รวมทั้งให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหนือกว่าแก่อาคารหรือบ้านของคุณ

ข้อดีของแผ่นผนังโปร่งแสงหุ้มฉนวน

แผ่นโปร่งแสงถูกออกแบบมาเพื่อกระจายปริมาณแสงที่เข้าสู่พื้นที่ ซึ่งเป็นการสร้างแสงที่อ่อนลงเพื่อทำให้บรรยากาศภายในดีขึ้น เหมาะแก่การอ่าน การเขียนหรือการสนทนาแบบเงียบ ๆ เนื่องจากแสงสะท้อนที่ลดลง ช่วยให้พนักงานที่ทำงานบนโต๊ะทำงานได้รับประโยชน์จากแสงธรรมชาติโดยไม่ต้องทนนั่งร้อนจากแสงจ้าจนทำให้ระคายเคือง แผ่นโปร่งแสงที่ทาง Danpal ได้พัฒนาให้ที่มีฟังก์ชั่นการแรเงา ด้วยการตั้งค่าแผ่นควบคุมเหล่านี้ให้สามารถปรับได้เหมาะกับระดับความสะดวกสบายของลูกค้าและพนักงาน อาคารโปร่งแสงมีตัวเสริมการป้องกันรังสียูวีเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายใด ๆ จากแสงแดดและช่วยลดมวลความร้อน การทำให้แสงอ่อนลง ไม่จ้าและเลี่ยงการถูกแสงแดดแผดเผาด้วยแผ่นผนังโปร่งแสงหุ้มฉนวนของ Danpal ถือเป็นรางวัลพิเศษที่ผนังกระจกไม่สามารถทำให้ได้ การได้รับแสงธรรมชาติโดยตรงแบบไม่มีการสะท้องแสงและเงา หรือผ้าม่าน จะทำให้แสงที่ได้รับนั้นไร้ประโยชน์ และยังทำให้บรรยากาศและอารมณ์ของคนในพื้นที่ห้องหรือห้องทำงานนั้นเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง

คุณสมบัติควบคุมความร้อนของแผ่นผนังโปร่งแสงหุ้มฉนวน

Danpathern เป็นระบบฟาซาดที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยเรื่องระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมเพื่อเพิ่มการกักเก็บความร้อน ในขณะเดียวกันก็เป็นอุปสรรคต่อลมและมีสิ่งสกปรกติดอยู่ภายนอก ผลิตภัณฑ์ Danpal เป็นที่นิยมในเรื่องการควบคุมความร้อนที่เหนือกว่าและยังเอื้อต่อระบบทำความร้อนและความเย็นของอาคารด้วย

ส่วนประกอบของแผ่นหุ้มฉนวน: ด้านนอก

เปลือกนอกของแผ่นฉนวนประกอบด้วยชั้นต่าง ๆ อยู่หลายชั้นซึ่งทำหน้าที่ปกป้องแผ่นฉนวนจากผลกระทบของสิ่งแวดล้อมเช่น รังสี UV และจากการกัดกร่อน

เนื่องจากแต่ละชั้นมีคุณสมบัติตรงตามการใช้งาน จึงจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมที่จะกระทบต่อแผ่นฉนวนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ หลังจากวิเคราะห์เรียบร้อยแล้วจึงสามารถเลือกวัสดุและสารเคลือบที่เหมาะสมได้

เนื่องจากด้านนอกและด้านในของแผ่นฉนวนมักมีสภาพที่แตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้นแลคเกอร์และวัสดุที่ใช้จึงแตกต่างกันไปตามด้านที่ติดอยู่ ตัวอย่างเช่น เปลือกภายนอกควรมีชั้นป้องกันรังสียูวีเสมอ และในพื้นที่ภายในที่อับชื้นเช่น สระว่ายน้ำ ควรใช้การป้องกันการกัดกร่อนที่ดี

ส่วนประกอบของแผ่นหุ้มฉนวน: แกนกลาง

คุณสมบัติพิเศษของแผ่นฉนวนนั้นเกิดขึ้นได้จากแกนฉนวน ซึ่งจะมีแผ่นภายนอกที่ทำจากเหล็กหรืออลูมิเนียมคอยปกป้องอยู่ แกนกลางของแผ่นฉนวนสามารถทำจากวัสดุหลายประเภทและมีความหนาต่างกัน

​การจัดส่งแผ่นฉนวน

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใช้แผ่นฉนวนเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้าง การจัดส่งจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากวางคำสั่งซื้อของคุณ สำหรับแผ่นที่มีความยาวไม่เกิน 24 เมตร อาจมีกฎสำคัญบางข้อที่คุณต้องใส่ใจเพื่อให้แน่ใจว่าแผ่นฉนวนที่ได้จะไม่เกิดความเสียหาย

แผ่นฉนวนมักจะมาในบรรจุภัณฑ์ ดังนั้นจะต้องวางห่อฉนวนทั้งหมดในแนวนอนบนแผ่นรองที่ทำจากโฟมพลาสติกหรือไม้เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่ง อย่าลืมเว้นระยะห่างให้เหมาะสม พื้นผิวที่ใช้รองควรพอดีกับรูปร่างของบรรจุภัณฑ์ หรือถ้าบรรจุภัณฑ์แบน พื้นผิวที่ใช้รองควรจะแบนด้วยเช่นกัน หากบรรจุภัณฑ์มีความโค้งพื้นผิวที่ใช้รองอยู่ก็ควรจะโค้งด้วยเช่นกัน เมื่อวางบรรจุภัณฑ์ซ้อนกัน จะต้องรองตัวเว้นระยะซ้อนระหว่างบรรจุภัณฑ์นั้นด้วย

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าหีบห่อไม่ยื่นเกินหนึ่งเมตรและมีความปลอดภัยในหน้าตัดอย่างน้อยสองส่วนโดยใช้สายรัดไม่เกิน 3 เมตร ในขั้นตอนติดสายรัด สิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือ สายรัดนั้นต้องไม่ทำให้แผ่นฉนวนเสียหาย รวมถึงพื้นผิวบรรทุกของยานพาหนะควรว่างเปล่าและกันฝนและแดดได้

ติดต่อ Danpal เพื่อปรึกษาเรื่องการควบคุมแสงธรรมชาติด้วยการใช้แผ่นผนังโปร่งแสงของเราให้กับโครงการก่อสร้างครั้งถัดไปของคุณ

อุปกรณ์ควบคุมและบังแดด

คำแนะนำ

มีหลายเหตุผลที่เรามักต้องการควบคุมระดับความร้อนที่ส่องเข้ามาในอาคาร และด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่นและมีแดดจัด การได้รับแสงอาทิตย์มากเกินไปอาจส่งผลต่อการใช้พลังงานความเย็นสูงขึ้น เพราะสภาพอากาศที่เย็นและอบอุ่น โดยมีแสงแดดช่วงฤดูหนาวส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่หันหน้าทางทิศใต้ แน่นอนว่าอาจส่งผลให้เกิดความร้อนจากแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟ (passive solar) และการควบคุมในแทบทุกสภาพอากาศ รวมถึงการส่องแสงสว่างโดยธรรมชาติจะช่วยเพิ่มการรับแสงช่วงกลางวันได้ดี

อุปกรณ์ควบคุมและบังแดดที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีสามารถลดปริมาณความร้อนและความเย็นสูงสุดของอาคารได้อย่างมาก รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพแสงธรรมชาติจากการตกแต่งภายในอาคาร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและตำแหน่งของช่องหน้าต่างด้วย ซึ่งมีรายงานว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานทำความเย็นได้ถึง 5-15% ต่อปี นอกจากนี้อุปกรณ์ควบคุมและบังแดดยังช่วยเพิ่มการมองเห็นของผู้ใช้ได้ด้วยการควบคุมแสงจ้าและลดอัตราส่วนคอนทราสต์ลง

อุปกรณ์บังแดดช่วยเสริมความโดดเด่นบริเวณส่วนหน้าอาคารหนึ่งให้มีความแตกต่างจากอีกอาคารหนึ่ง อุปกรณ์ชนิดนี้สามารถทำให้เป็นที่น่าสนใจ และยังสามารถออกแบบให้เป็นแบบธรรมดาได้ตามคุณสมบัติทางกายภาพนั้นเอง

คำอธิบาย

การใช้อุปกรณ์ควบคุมและบังแดดเป็นกลยุทธ์สำคัญของการออกแบบอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงานหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่ใช้ระบบทำความร้อนจากแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟหรือไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน มักต้องพึ่งอุปกรณ์ควบคุมและบังแดดที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม

ในช่วงฤดูหนาว การบังแดดหน้าต่างภายนอกเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์เข้าสู่พื้นที่ที่มีการปรับอากาศ ทั้งนี้สามารถสร้างร่มเงาได้โดยการจัดสวนธรรมชาติ หรือโดยส่วนประกอบของอาคาร เช่น ผ้าใบบังแดด กันสาดและระแนงบังตา อุปกรณ์บังแดดบางชนิดสามารถทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนแสงที่เรียกว่า หิ้งสะท้อนแสง ซึ่งจะช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาภายในอาคาร

การออกแบบอุปกรณ์บังแดดที่มีประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับการวางเปลือกอาคารตามแนวแสงอาทิตย์ ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงฤดูร้อนที่มุมดวงอาทิตย์อยู่สูง กันสาดที่ยึดติดอาคารจะช่วยบังแดดบริเวณหน้าต่างที่หันหน้าทางทิศใต้ อย่างไรก็ตามหากอยู่ในช่วงฤดูร้อน อุปกรณ์แนวขนานประเภทเดียวกันนี้ไม่สามารถบังแดดอ่อน ๆ ช่วงบ่ายได้ เพราะแสงแดดอยู่ต่ำและสามารถผ่านช่องหน้าต่างที่หันหน้าทางทิศตะวันตกได้

อุปกรณ์บังแดดภายนอกมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับอาคารกระจกใส อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้มีการเคลือบผิวกระจกที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์การบังแดดต่ำ (SC) หากเลือกใช้บริการเคลือบกระจกชนิดนี้จะช่วยลดความจำเป็นในการใช้อุปกรณ์บังแดดภายนอกได้

ดังนั้นการควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์และการบังแดดอาคาร สามารถทำได้หลากหลายแบบ ดังนี้ :

  • เสริมลักษณะทางภูมิทัศน์ เช่น ต้นไม้ที่โตเต็มที่หรือบานเกล็ดปรับได้
  • เสริมองค์ประกอบภายนอก เช่น กันสาดหรือครีบแนวตั้ง
  • เสริมพื้นผิวสะท้อนแนวขนานพื้นที่เรียกว่า หิ้งสะท้อนแสง
  • เคลือบกระจกที่มีค่าสัมประสิทธิ์การบังแดด (SC) และ
  • ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมแสงสะท้อนภายใน เช่น มู่ลี่หรือบานเกล็ดแบบปรับได้

อลูมิเนียมที่ออกแบบเพื่อบังแดด, แผงควบคุมแสงแดดแนวขนาน, ครีบบังแดดแนวตั้ง

อุปกรณ์บังแดดภายนอกแบบยึดติดอาคาร เช่น กันสาด ที่มักใช้งานได้จริงสำหรับอาคารพาณิชย์ขนาดย่อม ระยะกันสาดที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าต่าง และความสำคัญของการทำความร้อนและความเย็นในอาคารที่สอดคล้องกัน

ในช่วงฤดูร้อน มุมของดวงอาทิตย์จะอยู่สูงสุดซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 มิถุนายน แต่อุณหภูมิและความชื้นสูงสุดมักจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ดังนั้นจำไว้ว่า ขนาดกันสาดที่ยื่นออกมาบังแดดหน้าต่างที่หันหน้าทางทิศใต้ในเดือนสิงหาคม จะช่วยบังแดดหน้าต่างในช่วงเดือนเมษายนด้วย ซึ่งอาจเป็นช่วงที่ต้องการความร้อนจากแสงอาทิตย์ก็ได้

ขอบคุณภาพจาก SBIC และ  

การออกแบบอุปกรณ์บังแดดอย่างถูกต้องจำเป็นต้องศึกษาเรื่องตำแหน่งของดวงอาทิตย์ในช่วงฤดูหนาว เพราะตำแหน่งของดวงอาทิตย์จะปรากฏในระดับมุมสูงและมุมราบ

  • มุมสูง คือมุมของดวงอาทิตย์เหนือขอบฟ้าซึ่งจะขึ้นสูงสุดของวันในตอนเที่ยงสุริยะ
  • มุมราบหรือที่เรียกว่ามุมแบริ่ง คือมุมของการฉายแสงดวงอาทิตย์ไปตามแนวขนานพื้นดินที่สัมพันธ์กับทิศใต้
  • แหล่งข้อมูลที่สามารถเข้าดูข้อมูลของมุมดวงอาทิตย์และแผนภาพเส้นทางสุริยะ คือ Architectural Graphic Standards, 12th Edition ซึ่งหาได้จากสำนักพิมพ์ John Wiley & Sons, Inc.

มุมราบ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก pveducation.org

อุปกรณ์บังแดดช่วยเสริมภาพลักษณ์ของตัวอาคารภายนอก แต่ภาพลักษณ์นี้อาจจะดูดีขึ้นหรือดูแย่ลงก็ได้ ก่อนหน้านี้ในขั้นตอนการออกแบบอุปกรณ์บังแดดถือว่ามีแนวโน้มที่ดีและน่าดึงดูด และสามารถปรับให้เข้ากับสถาปัตยกรรมโดยรวมของโครงการได้เป็นอย่างดี

ในมาตรฐาน ANSI / ASHRAE / IES 90.1 การออกแบบอาคารใหม่อย่างมีประสิทธิภาพยกเว้นอาคารที่อยู่อาศัยแนวราบ (ซึ่งใช้มาตรฐานเทียบเท่า 10 C.F.R. § 435) ระดับการบังแดดของหน้าต่างเป็นข้อพิจารณาสำคัญที่ต้องประเมินทั้งปัจจัยการฉายแสง (PF) ในส่วนการบังแดดภายนอก และค่าสัมประสิทธิ์การบังแดด (SC) ของกระจก เมื่อใช้วิธีการออกแบบเปลือกหุ้มส่วนประกอบเสริม

ระบบการออกแบบอุปกรณ์บังแดด

ด้วยความหลากหลายของอาคารและช่วงฤดูของสภาพอากาศที่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงค่อนข้างสรุปข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการออกแบบอุปกรณ์บังแดดได้ยาก อย่างไรก็ตามคำแนะนำการออกแบบต่อไปนี้ โดยทั่วไปถือปฏิบัติได้จริง:

  1. ใช้กันสาดยึดติดเหนือกระจกที่หันหน้าไปทางทิศใต้เพื่อควบคุมลำแสงโดยตรงจากดวงอาทิตย์ การควบคุมการแผ่รังสีทางอ้อม (แบบกระจาย) สามารถทำได้โดยมาตรการอื่น ๆ เช่น การเคลือบกระจกสะท้อนแสง
  2. ให้จำกัดปริมาณกระจกทางด้านตะวันออกและตะวันตกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เนื่องจากบังแสงแดดได้ยากกว่ากระจกฝั่งทางใต้ ลองพิจารณาการปรับภูมิทัศน์ให้ช่วยบังแสงแดดทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก
  3. หมดกังวลกับการบังแดดของกระจกที่หันหน้าไปทางทิศเหนือในละติจูดของทวีปอเมริกาเนื่องจากได้รับแสงอาทิตย์โดยตรงน้อยมาก ส่วนในเขตร้อนอาจไม่ต้องสนใจกฎข้อนี้ เนื่องจากด้านทิศเหนือของอาคารจะได้รับพลังงานแสงอาทิตย์โดยตรงมากกว่า นอกจากนี้ในเขตร้อนให้พิจารณาการบังแดดหลังคาแม้ว่าจะไม่มีสกายไลท์ เนื่องจากหลังคาเป็นส่วนสำคัญของการรับแสงอาทิตย์ที่ส่งเข้ามาในอาคาร (หลังคาโพลีคาร์บอเนต ตารางเมตรละ)
  4. จำไว้ว่าการบังแดดส่งผลต่อแสงสว่างตอนกลางวัน ที่ควรพิจารณาทั้งสองอย่างพร้อมกัน ตัวอย่างเช่น หิ้งสะท้อนแสง จะช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้มากผ่านช่องหน้าต่างบานสูง ในขณะที่การบังแดดอาศัยช่องหน้าต่างที่ต่ำกว่า
  5. อย่าคาดหวังว่าอุปกรณ์บังแดดภายใน เช่น มู่ลี่หรือบานเกล็ดแนวตั้ง จะช่วยลดภาระการทำความเย็นเพราะได้รับแสงอาทิตย์เข้าสู่พื้นที่ทำงานแล้ว อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ติดตั้งภายในเหล่านี้ มีการควบคุมแสงสะท้อนและสามารถช่วยเรื่องการมองเห็นและความสบายตาในที่ทำงาน
  6. ศึกษาเรื่องมุมของดวงอาทิตย์ การที่เข้าใจเกี่ยวกับมุมของดวงอาทิตย์นั้นสำคัญต่อการออกแบบภายด้านต่าง ๆ รวมถึงการกำหนดแนวอาคารขั้นพื้นฐาน การเลือกอุปกรณ์บังแดด และการวางแผงเซลล์แสงอาทิตย์แทนวัสดุอาคาร (BIPV) หรือตัวสะสมพลังงานแสงอาทิตย์
  7. พิจารณาความทนทานของอุปกรณ์บังแดดให้ดี เมื่อเวลาผ่านไปอุปกรณ์บังแดดที่ใช้งานได้อาจต้องชำรุดได้และควรพิจารณาเรื่องการซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
  8. เมื่อเน้นใช้องค์ประกอบทางภูมิทัศน์ช่วยบังแดด ให้พิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ตามวงจรชีวิตของมัน
  9. กลยุทธ์การบังแดดที่ใช้งานได้ดีในละติจูดหนึ่ง อาจไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่อื่น ๆ ที่ละติจูดต่างกัน ดังนั้นจงระวังเมื่อใช้แนวคิดการบังแดดจากโครงการหนึ่งไปใช้กับอีกโครงการหนึ่ง

ตัวอย่างลักษณะภูมิทัศน์ด้านข้างที่ช่วยเรื่องการประหยัดพลังงาน

ดูข้อมูลเพิ่มเติม: greenglobes.com
ผนังม่านและหิ้งสะท้อนแสงในพื้นที่ห้องสมุดชั้นสอง

วัสดุและวิธีการก่อสร้าง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีอุปกรณ์บังแดดและกระจกสำหรับติดตั้งในอาคารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ผลิตภัณฑ์บังแดดที่เปลี่ยนได้ หลายแบบมีวางจำหน่ายทั่วไปตั้งแต่กันสาดผ้าใบไปจนถึงฉากกั้นแสงอาทิตย์เช่น มู่ลี่ ม้วนบานเกล็ด และบานเกล็ดตั้ง แม้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยบังแดดได้ดีแต่การนำมาใช้งานจริงมักมีข้อจำกัดในเรื่องการจัดการด้วยตนเองหรือเชิงกล นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านความคงทนและการบำรุงรักษาที่ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน

ควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน A&E ระบุชนิดกระจกทั้งหมดอย่างครบถ้วน ซึ่งควรเลือกเป็นกระจกที่มีค่าการถ่ายเทพลังงานความร้อน (U-value) , กระจกที่มีค่าสัมประสิทธิ์การบังแดดต่ำ และ กระจกที่ช่วยเรื่องการมองเห็นที่ดี รวมถึงหน้าต่างที่ถ่ายเทความร้อนสำหรับระบบช่องหน้าต่างทั้งหมด ค่าสัมประสิทธิ์การบังแดดต่ำ (SC) ของกระจกจะบ่งบอกถึงปริมาณความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่จะส่องเข้าสู่อาคารเทียบกับกระจกที่เคลือบชั้นเดียว ดังนั้นค่าสัมประสิทธิ์การบังแดดที่ต่ำกว่าจึงหมายถึงการได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์น้อยลง การส่องผ่านที่ช่วยเรื่องการมองเห็น (Tvis) ของวัสดุเคลือบ แสดงถึงเปอร์เซ็นต์ของแสงที่มีอยู่ในส่วนที่มองเห็นได้จากสเปกตรัมที่เข้าสู่อาคาร ดูเพิ่มเติมจาก WBDG Windows และ Glazing

เมื่อออกแบบอุปกรณ์บังแดด ให้ประเมินการทำงานและการบำรุงรักษา (O&M) รวมถึงผลกระทบด้านความปลอดภัยทั้งหมดอย่างรอบคอบ ในบางสถานที่อาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้ เช่น นกทำรังหรือแผ่นดินไหว ซึ่งอาจจะใช้อุปกรณ์บังแดดผสมผสานกับตัวอาคารไม่ค่อยได้ ความจำเป็นในการบำรุงรักษาและทำความสะอาดอุปกรณ์บังแดด โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้งานจะต้องพิจารณาเรื่องต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน

การใช้งาน

ในจำนวนอาคารหลัก ๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์จากการใช้อุปกรณ์บังแดด ได้แก่:

  • ค่ายทหารและโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศหนาวเย็นหรือเขตอบอุ่น
  • สำนักงานอาคารบริหารและโครงสร้างอื่น ๆ ที่ใช้แสงกลางวัน และ
  • เกือบทุกโครงสร้างในสภาพอากาศอบอุ่นและมีแดดร้อนจัด

 

รูปทรงและลักษณะหลังคา 

หลังคาทุกหลังออกแบบมาเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์เฉพาะที่สวยงามน่าดึงดูด ซึ่งอาจเป็นเพียงหนึ่งในข้อควรพิจารณาอีกมากมายที่ควรต้องคำนึงด้วย ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงลักษณะและรูปทรงหลังคาที่พบมากที่สุด เพื่อจะได้เข้าใจถึงลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน

หมายเหตุว่า รูปทรงหลังคาที่จะกล่าวต่อไปนี้ สามารถรวมหรือเชื่อมต่อกันในอาคารเดียว เพื่อสร้างเป็นหลังคาที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ โดยอาจนำไปสู่องค์ประกอบที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

ความแตกต่างระหว่างหลังคาทรงลาดสูงและทรงลาดต่ำ

หลังคาทั้งหมดสามารถแบ่งได้ว่าเป็นหลังคาทรงลาดสูงหรือทรงลาดต่ำ กรณีหลังคาทรงลาดต่ำโดยทั่วไปเรียกว่า หลังคาแบน (ดูคำอธิบายด้านล่าง) ส่วนหลังคาทรงลาดสูง 3:12 หรือสูงกว่านี้ (หมายถึงหลังคาสูงขึ้น 3 นิ้วในระยะ 12 นิ้ว) เรียกว่าหลังคาลาดชันสูง

หลังคาแบน

แม้จะมีอีกชื่อเรียก แต่หลังคาแบนก็ไม่ได้แบนไปทั้งหมด หลังคารูปทรงนี้ออกแบบเพื่อระบายน้ำฝนลงสู่พื้นดินได้อย่างเหมาะสม ระยะห่างของหลังคาเป็นตัวกำหนดวัสดุที่ใช้เช่น ความลาดชันของกระเบื้องและหินกาบสามารถอยู่ในช่วงระหว่าง 12.5 ถึง 22 องศาขึ้นอยู่กับผู้ผลิต วัสดุกันน้ำซึมของหลังคาแบน โดยทั่วไปได้แก่ น้ำมันดินโมดิฟายด์ เทอร์โมพลาสติกหรือระบบยางสังเคราะห์ อย่างไรก็ตามหลังคาแบบ Standing Seam ที่มีระยะลาดชัน 1.5 องศา สามารถใช้วัสดุเช่น สังกะสีหรือทองแดงได้

หลังคาแบน

หลังคาเพิงหมาแหงนหรือหลังคาเพิงเดียว

หลังคาเพิงหรือเพิงเดียวมีการออกแบบที่แตกต่างกันด้านความลาดชันอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งประกอบด้วยพื้นผิวเรียบเดียว บางครั้งเรียกว่า หลังคาเพิงเดียวไปจนถึงหลังคาเพิงแหงน และหลังเพิงลาด หลังคาลาดชันในมุมตั้งฉากและไม่ยึดติดกับพื้นผิวหลังคาอื่น ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคหลังคาที่นิยมใช้ในช่วงยุควิกตอเรีย ลักษณะของหลังคาเพิงเดียวมีคล้ายแบบวงกลมหรือผีเสื้อ หลังคาเพิงเดียวทรงกลมมีขอบโค้งอ่อนในขณะที่ทรงผีเสื้อเป็นแบบลาดชันไปยังจุดใดจุดหนึ่ง

หลังคาเพิงแหงน

หลังคาจั่ว

หลังคาลักษณะนี้ คือรูปแบบดั้งเดิมที่สุดแบบหนึ่ง หรือที่เรียกว่าหลังคาลาดซึ่งกำหนดด้วยรูปสามเหลี่ยมทรง “A” ตรงด้านที่ลาดเอียงมาบรรจบกันที่สัน ในขณะที่ส่วนปลายสุดบรรจบที่กำแพงสร้างโดยมีส่วนขยายรูปสามเหลี่ยมซึ่งเรียกว่าหน้าจั่ว ขนาดของด้านข้างกำหนดโดยความต้องด้านคุณสมบัติและไม่จำเป็นต้องมีขนาดเท่ากัน นอกจากนี้ มีบางครั้งที่บ้านหลังใหญ่ต้องการทำหลังคามากกว่าสองหน้าจั่วเพื่อสร้างความลึกเพิ่มเติม และเพื่อรองรับโครงสร้าง หลังคาหน้าจั่วรูปแบบอื่น ๆ ได้แก่ จั่วหักมุม จั่วโค้งและจั่วแปดมุม

หลังคาจั่ว

หลังคา A-Frame

ตามชื่อเลยว่า หลังคา A-frame มีรูปทรงเหลี่ยมตามตัวอักษร “A” ซึ่งมีด้านที่สมมาตรและทำมุม การออกแบบที่แตกต่างมักพบเห็นได้ในอาคารสไตล์ดั้งเดิม เช่น กระท่อมและกระต๊อบแบบชนบทจากนั้นจึงนำมาสร้างบ้านทรง A-frame เจ้าของบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่เย็นกว่าจะได้ประโยชน์จากการระบายน้ำตามธรรมชาติที่มีให้โดยรูปทรงหลังคา ซึ่งช่วยให้หิมะเลื่อนตกลงมาได้ ลดโอกาสที่มันจะแข็งตัวแล้วเกิดปัญหาตามมาภายหลัง

หลังคา A-Frame

หลังคาปั้นหยา

หลังคาทรงปั้นหยามีลักษณะลาดเอียงทั้งสี่ด้านที่เชื่อมต่อกันในแต่ละด้านของอาคาร การออกแบบรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอาจพบได้บ่อยที่สุด และโดยทั่วไปจะมีสี่หน้าในระยะห่างที่เท่ากันเพื่อสร้างสมมาตรหลังคาที่ไม่โดดเด่น รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นตัวเลือกยอดนิยมเช่นกันและเมื่อนำแบบนี้ไปใช้จึงมีลักษณะคล้ายพีระมิด เนื่องจากไม่มีการใช้หน้าจั่วหรือด้านแนวตั้งอื่น ๆ ในการก่อสร้าง นอกจากนี้ยังสามารถติดรางน้ำได้อย่างง่ายดายเนื่องจากตำแหน่งของแนวหลังคาที่ด้านบนของผนังสร้าง ดังนั้นหลังคาทรงปั้นหยาจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับอาคารที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มีลมพัดแรง

หลังคาปั้นหยา

หลังคาลาดสองชั้น

หลังคาลาดสองชั้น เป็นรูปแบบหนึ่งของหลังคาทรงปั้นหยาโดยแต่ละส่วนลาดเอียงแบ่งออกเป็นสองชั้น ส่วนที่ใกล้กับผนังสูงชันขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ใต้หลังคาให้มากที่สุด โดยมีระดับความลาดเอียงไปถึงตรงกลาง จากมุมมองด้านนอกให้ความรู้สึกเหมือนหลังคาแบนตรงส่วนด้านบนสุดของบ้านเนื่องจากมองเห็นเฉพาะส่วนที่ลาดชันเท่านั้น ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมในการสร้างบ้านแบบดั้งเดิมในฝรั่งเศสและเยอรมนี อันเป็นผลมาจากสถาปัตยกรรมที่ได้รับการแนะนำโดยนักออกแบบชาวฝรั่งเศส Francois Mansart ในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16

หลังคาลาดสองชั้น

หลังคาทรงจั่วหักมุม

หลังคาจั่หักมุม และหลังคาลาดสองชั้นมีความคล้ายกัน เนื่องจากการออกแบบให้มีความลาดชันสองด้าน อย่างไรก็ตามความแตกต่างระหว่างรูปแบบจะเห็นได้ชัดเมื่อตรงที่หลังคาจั่วหักมุมจะมีเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนด้านจากหลังคาลาดสองชั้น โดยหลังคาทรงจั่วหักมุมมีลักษณะลาดชันจน เกือบเป็นแนวตั้งในขณะที่ความลาดชันด้านบนมีระยะห่างที่ต่ำกว่า โดยทั่วไปหลังคาจะยื่นออกมานอกอาคารและใช้ปลายจั่วทรงตั้ง โดยปกติจะพบเห็นได้ตามอาคารต่าง ๆ เช่น บ้านสวน โรงนาและกระท่อมไม้ซุง รวมทั้งมีลักษณะย้อนยุคไปในยุคอาณานิคมจอร์เจียและดัตช์

หลังคาทรงจั่วหักมุม

หลังคาสองชั้น

ด้านหน้าจั่วตั้งอยู่ที่ปลายแต่ละด้านของหลังคาสองชั้น แต่มีรูปทรงอสมมาตรที่มีด้านหนึ่งยาวกว่าอีกด้านหนึ่ง มักพบสร้างเป็นบ้านสไตล์โคโลเนียลที่เก่าแก่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของผู้ตั้งรกรากถิ่นฐานในยุคนิวอิงแลนด์ เช่นเดียวกับภูมิภาคมิดเวสเทิร์น ในช่วงเวลานี้ เจ้าของบ้านที่มีครอบครัวขยายขึ้น สามารถเพิ่มพื้นที่ได้โดยดัดแปลงหลังคาจั่วที่มีอยู่ให้กลายเป็น saltbox เพื่อสร้างห้องเพิ่มเติมตามที่ต้องการ แถมยังประหยัดด้วยการเลือกใช้วัสดุได้หลากหลาย นอกจากนี้บางบ้านที่มีหลังคาลาดสองชั้นยังสร้างเป็นแบบเพิงลาดลงมาเช่นกัน

หลังคาสองชั้น

หลังคาบอนนิท

หลังคาบอนนิท (ฝากระโปรง) มีลักษณะที่ลาดเอียงสองชั้นทั้งสี่ด้าน ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงมองว่าเป็นการดัดแปลงหลังคาทรงจั่วหรือปั้นหยา นอกจากนี้ยังเรียกว่าหลังคาเชิงชายเตะ เนื่องจากความลาดต่ำที่ห้อยอยู่เหนือขอบบ้านที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของฝาระเบียงหรือเฉลียง โดยออกแบบส่วนบนให้มีมุมที่โดดเด่นและมีความลาดชันมากขึ้น ฝากระโปรงเชื่องต่อกันตามแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่นของฝรั่งเศสที่พบในภาคใต้ เช่นมิสซิสซิปปี และลุยเซียนา โดยยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับกระท่อมและบ้านสวนปศุสัตว์

หลังคาบอนนิท

หลังคารับแสง

หลังคารับแสงจะสร้างหลังคา “ที่สอง” ขึ้นบนส่วนที่ยกขึ้นของอาคารและขนานไปกับหลังคาหลัก องค์ประกอบการออกแบบการรับแสงหมายถึงส่วนที่สูงที่สุดของโครงสร้างส่วน “ห้องโถงใหญ่” บานเกล็ดหรือหน้าต่างโปร่งและช่องระบายอากาศที่รองรับแสงและการระบายอากาศเพิ่มเติม มักจะมีลักษณะเป็นหลังคารับแสงตามความยาวของทางเดินกลางที่ยกขึ้น รูปแบบดังกล่าวมักเห็นได้จากบ้านไร่และอาคารอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรืออาจจะพบเห็นตามบ้านในเขตชนบท ซึ่งบางครั้งก็ใช้สร้างป็นที่อยู่อาศัย

หลังคารับแสง

หลังคารูป V หรือหลังคาผีเสื้อ

สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าทำไมหลังคาประเภทนี้จึงเรียกว่าหลังคารูปผีเสื้อหรือรูปตัววี เพราะการออกแบบจึงกำหนดชื่อของมันได้อย่างชัดเจน แทนที่จะเป็นทรงลาดที่ชี้ขึ้น แต่กลับด้านเป็นลาดลงเพื่อสร้างเป็นตัว “V” ตรงกลางส่วนหลังคา โดยทั่วไปถือว่าเป็นรูปแบบที่ทันสมัย เพราะหลังคาผีเสื้อเหมาะกับอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีการวางระบบรางน้ำ ทำให้ง่ายต่อการติดตั้งและปกปิดแผงโซลาร์เซลล์ เลอกอร์บูซิเยร์สถาปนิกชาวฝรั่งเศสนำรูปแบบหลังคานี้มาใช้ในชิลี ปี 1930 ก่อนที่จะมาถึงสหรัฐอเมริกาในช่วงกลางทศวรรษที่ 1940 หลังคาทรงนี้ส่วนใหญ่พบในย่านเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในยุคปรมาณู

หลังคารูป V หรือหลังคาผีเสื้อ

หลังคาโค้ง

รูปทรงโค้งกว้างของหลังคาชนิดนี้ทำให้การออกแบบมีโปรไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง ที่สามารถรองรับตัวเองหรือรับน้ำหนักได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความกว้างและกำลังเสริมที่ใช้ในระหว่างการก่อสร้างอาคาร หลังคาโค้งบาร์เรลและหลังคาโค้งเป็นสองแบบที่พบเห็นบ่อยที่สุด ในขณะที่บางคนเรียกว่าหลังคาโค้งสีรุ้งหรือโกธิค คุณจะเห็นหลังคาโค้งตามบ้านสวน โรงนา คอกม้า โกดังและอาคารเก่าแก่ ในขณะที่รูปลักษณ์แบบมินิมอลยังใช้งานได้ดีกับคุณสมบัติที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ต้องการเพิ่มการกระจายของแสงธรรมชาติให้ได้มากที่สุด

หลังคาโค้ง

หลังคาโดม

หลังคาโดมที่มีรูปทรงครึ่งวงกลมยังคงโครงสร้างเดิมไว้ตลอดทาง โดยบางครั้งปลายยอดจะมีช่องเปิดเป็นวงกลม นี่คือประเภทหลังคาที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยโรมันและเปอร์เซีย ขณะเดียวกันก็เป็นส่วนสำคัญของประเพณีการก่อสร้างของชนพื้นเมืองอีกหลายอย่าง จำนวนการใช้รูปแบบหลังคาโดมมีความแตกต่างกันมาหลายยุคหลายสมัย เช่น โดมหัวหอม โดมประกอบ ห้องเก็บของและอื่น ๆ อีกมากมาย หลังคาประเภทนี้ไม่เพียงแต่สร้างรูปลักษณ์ที่โดดเด่น แต่ยังกันลมได้ดี รวมถึงประหยัดพลังงานได้ดีหากสร้างด้วยวัสดุที่เหมาะสม

 

ข้อดีและข้อเสียของแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนต

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนต

แผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตมีให้เลือกหลายประเภท จึงทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ยากว่าหลังคาโพลีคาร์บอเนตประเภทใดที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง หากสงสัยว่าควรพิจารณาประเภทใดบ้างและอยากเปรียบเทียบหลังคาโพลีคาร์บอเนตกับหลังคาชนิดอื่น เช่น หลังคากระจก คุณอาจไม่ต้องมองหาที่ไหนเพิ่มนอกจากที่นี่

เพราะเราจะพิจารณาที่ส่วนพื้นฐานโดยแท้ของหลังคาโพลีคาร์บอเนต และจะเจาะลึกในรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อหาข้อดีจากหลังคาประเภทนี้เมื่อเลือกใช้เป็นหลังคาของคุณ

โพลีคาร์บอเนตคืออะไร

โพลีคาร์บอเนตเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในวงกว้างมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างเพื่อความสะดวกในการขึ้นรูป การก่อร่างและความแข็งแรงของมัน ในการใช้ทำหลังคาแผ่นโพลีคาร์บอเนตมีข้อเสียน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุเช่น กระจกหรือโลหะ จึงทำให้แผ่นโพลีคาร์บอเนตเหมาะสำหรับมุงหลังคา อีกทั้งยังทนต่อความร้อน แสงแดด หิมะและฝน ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้งานได้นานหลายปี และเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับทำหลังคาบ้านและอาคารพาญิชย์ต่าง ๆ

 

ความหนาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทงานก่อสร้าง

หลังคาโพลีคาร์บอเนตที่นอกจากมีความทนทานและน้ำหนักเบาแล้ว ยังสามารถใช้เป็นแผ่นหลังคาได้หลากหลาย เนื่องจากมีการผลิตด้วยความหนาที่แตกต่างกัน จึงเหมาะสำหรับงานมุงหลังคาหลายประเภท

โพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุเทอร์โมพลาสติกที่แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี อีกทั้งมีน้ำหนักเบามากและสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงได้มากไม่ว่าจะร้อนหรือเย็น เนื่องจากคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้แผ่นโพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุมุงหลังคาที่มีประสิทธิภาพด้านการใช้งานหลากหลายประเภท

เป็นที่นิยมหรือไม่

เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะแผ่นโพลีคาร์บอเนตสามารถทนต่อแรงกระแทกและแตกยาก ส่วนมากนิยมเลือกใช้เพื่องานหลังคาดาดฟ้า งานหลังคาปลูกไม้เลื้อย งานหลังคากลางแจ้ง งานหลังคาใส และงานหลังคาเฉลียง หรือแม้กระทั่งมีคุณสมบัติที่ทนต่อกระสุน ซึ่งใช้ทำอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ เช่น โล่ตำรวจ แผ่นโพลีคาร์บอเนตมีน้ำหนักเบามาก จึงสะดวกต่อการยกเคลื่อนย้ายและติดตั้งได้ทุกที่ ด้วยความสามารถในการป้องกันแสง UV ไม่ว่าจะเป็นแผ่นโพลีคาบอร์เนตชนิด perspex แบบธรรมดาและแบบใส แผ่นหลังคาพลาสติก พีวีซีหรือแผ่นอะคริลิก ต่างก็เป็นวัสดุที่นิยมสำหรับงานกันสาด หลังคาระเบียงดาดฟ้าหรือห้องกระจก ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ของโพลีคาร์บอเนตยังนิยมใช้เป็นวัสดุสร้างห้องเรือนกระจก แผ่นโพลีคาร์บอเนตทนต่ออุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด เช่น แสงแดด หิมะ ฝนและแรงลมกระแทก ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายปีโดยไม่ซีดจางหรือเปลี่ยนสี อีกทั้งยังคงทนทานจากผลกระทบต่าง ๆ ในระยะหลายปี รวมถึงราคาไม่แพง

ทำขึ้นมาอย่างไร

ระบบหลังคาโพลีคาร์บอเนตเป็นระบบหลังคาไดนามิกที่ทำจากแผ่นโพลีที่อาจเป็นประเภทใดก็ได้ แผ่นงานที่เป็นนวัตกรรมใหม่เหล่านี้มีสี ผิวเนื้อ และประเภทให้เลือกจำนวนมาก โดยสามารถใช้กับงานหลายประเภทต่างกันเพื่อตอบสนองเฉพาะวัตถุประสงค์

มีประเภทใดให้เลือกบ้าง

โพลีคาร์บอเนตมีหลายแบบ อย่างบางแบบที่เลือกใช้ได้แก่ แผ่นโพลีคาร์บอเนตใส โพลีคาร์บอเนตสีขาว โพลีคาร์บอเนตสี แบบป้องกันแสงเลเซอร์และอื่น ๆ โดยสามารถหาซื้อได้ที่ Bunnings และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างหลายแห่ง

ทนทานมากแค่ไหน

สามารถทนได้นานถึง 20 ปีขึ้นอยู่กับรูปทรงของหลังคาโพลีคาร์บอเนตที่คุณเลือก

ต้องซ่อมบำรุงบ่อยแค่ไหน

แทบไม่ต้องบำรุงรักษาใด ๆ เลย หลังคาโพลีคาร์บอเนตมีความทนทานเป็นอย่างมาก

ต่อไปเป็นเคล็ดลับแนะนำที่ควรปฏิบัติตอนเมื่อมุงหลังคาโพลีคาร์บอเนต

  • อ่านคำแนะนำและสเปคของผู้ผลิต จากนั้นปฏิบัติตามคำอธิบาย หากคุณไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ จะมีผลต่อการรับประกันจากผู้ผลิตเอง
  • ด้วยการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตลอดทั้งวันจะทำให้แผ่นหลังคาขยายและหดตัว ดังนั้นคุณต้องคำนวณค่าเผื่อไว้สำหรับการนี้ มิฉะนั้นจะเกิดแรงต้านของหลังคาที่เกิดจากอุณหภูมิร้อน และทำให้แผ่นหลังคาของคุณหักได้
  • เมื่อทำการมุงหลังคาโพลีคาร์บอเนต ควรเจาะรูสกรูล่วงหน้าก่อนที่จะยึดแผ่นหลังคา และควรปรับขนาดเจาะรูยึดให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับการขยายและหดตัวจากอุณหภูมิที่อธิบายไว้ข้างต้น
  • นอกจากนี้ ควรเจาะที่ครอบและฝาครอบปิดไว้ล่วงหน้า เพื่อที่เมื่อถึงเวลามุงหลังคา แผ่นที่อยู่ข้างใต้จะสามารถปรับไปตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน
  • คุณสามารถใช้ตัวยึด One-Shot ซึ่งจะต้องใช้เครื่องเจาะรูเฉพาะตัวเอง การเลือกใช้ตัวยึดชนิดนี้จะช่วยเร่งงานมุงหลังคาของคุณได้ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเจาะรูล่วงหน้า
  • คุณต้องมุงหลังคาโดยให้ด้านที่ป้องกันรังสียูวีหันเข้าหาดวงอาทิตย์ มองหาสติกเกอร์ที่บอกว่าด้านไหนเป็นด้านที่กันรังสียูวี นอกจากนี้ ระวังอย่าให้แผ่นเป็นรอยในระหว่างที่มุงหลังคา เพราะจะทำให้ชั้นป้องกันรังสียูวีเสียหายได้
  • พิจารณาเรื่องทิศทางลมพัดผ่านและตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณทาบแผ่นหลังคาในแนวที่ถูกต้อง สิ่งสุดท้ายที่ควรคำนึงคือ แรงลมที่จะพัดฉีกแผ่นโพลีคาร์บอเนตของคุณได้
  • ใช้เทปสำหรับแปเพื่อใช้กับงานพื้นผิวทั้งหมด ซึ่งเป็นงานที่สัมผัสกับโครงไม้
  • อย่าใช้แผ่นหลังคาที่มีระยะห่างของแปกว้างกว่าที่แนะนำ เพราะไม่เช่นนั้นแผ่นหลังคาอาจหย่อนได้และอาจมีน้ำค้างสะสมอยู่ตรงบริเวณหลังคาที่หย่อนนั่นเอง
  • เราไม่แนะนำให้ใช้ซิลิโคนในการปิดรักษาหลังคาโพลีคาร์บอเนต เนื่องจากแผ่นโพลีคาร์บอเนตจะขยายและหดตัวได้มากกว่าซิลิโคน แต่ถ้าต้องใช้ก็ควรใช้แค่ซิลิโคนชนิดที่ไม่มีกรดเท่านั้น
  • แผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตจะมาพร้อมอุปกรณ์ใส่รูและช่องด้านหลังที่แนะนำโดยผู้ผลิต อย่าใช้อุปกรณ์ใส่รูที่ทำจากโฟมชุบยางมะตอย เพราะจะยิ่งทำให้แผ่นหลังโพลีคาร์บอเนตเสียหายได้!
  • หากแผ่นหลังคาบางแผ่นไปกดทับรางน้ำฝน ให้เจาะรู 5 มม. ลงในแอ่งขนาด 10 มม. จากขอบแผ่นหลังคาซึ่งจะเป็นตำแหน่งที่ต่ำลงมา

หากยังไม่แน่ใจว่าแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตเหมาะกับคุณหรือไม่

ด้วยความที่เราอยากให้คุณพอใจกับการซื้อจริง ๆ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าแผ่นโพลีคาร์บอเนตนั้น เป็นวัสดุที่เหมาะกับงานมุงหลังคาของคุณตามที่วางแผนไว้หรือไม่ หรือหากมีคำถามเพิ่มเติมใด ๆ เกี่ยวกับแผ่นโพลีคาร์บอเนต โปรดติดต่อเรา!

เราหวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้รับการติดต่อคุณและได้ให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้การบริการอย่างที่คาดหวังไว้

ทุกเรื่องที่ต้องการรู้เกี่ยวกับการมุงหลังคาตอนที่ 1: การมุงหลังคา 101

คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับข้อกำหนดและการออกแบบหลังคา

หลังคาบ้านคิดเป็นสัดส่วนถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของตัวบ้านภายนอก สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจตั้งแต่รูปแบบที่ทำให้ดูดีไปจนถึงความปลอดภัยในบ้าน ว่าอะไรที่ทำให้บ้านของคุณดูสวยเฉียบและ (ที่สำคัญกว่า) กันน้ำได้ดี

เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จะต้องเปลี่ยนหลังคาในบางจุด แต่หลายคนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน นั่นคือสาเหตุที่เราจึงทำสรุปข้อกำหนดและส่วนประกอบของการมุงหลังคาที่นิยมใช้กันที่สุด ก่อนจะเริ่มงานมุงหลังคาใด ๆ

หลังคาทำมาจากอะไร?

7 ส่วนประกอบพื้นฐานที่คุณควรรู้สำหรับการมุงหลังคา

ไม้มุงหลังคา (Shingle): ารมุงหลังคาสามารถใช้วัสดุหลากหลายประเภท โดยหน้าที่หลักของมันคือ เพื่อป้องกันวัสดุมุงหลังคาจากสภาพอากาศ ไม้มุงหลังคามักวัดเป็นจตุรัส ซึ่งมีขนาด 100 ตารางฟุต ดังนั้นเมื่อรู้ขนาดของหลัง เช่น ขนาด 2,500 ตารางฟุต คุณจะต้องสั่งซื้อไม้มุงหลังคาจำนวน 25 แผ่น

วัสดุมุง (Sheathing): บอร์ดหรือแผ่นวัสดุที่ติดกับจันทันพรางเพื่อช่วยป้องกันสภาพอากาศให้บ้านของคุณ ส่วนนี้เรียกอีกอย่างว่า ดาดฟ้าหลังคา

ครอบหลังคา (Trim): ติดตั้งเพื่อปกปิดรอยต่อหลังคาตามแนวตะเข้สันหรืออกไก่ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตะเข้สันหรืออกไก่ด้านล่าง)

จันทัน (Rafter): คือแผ่นไม้หรือโลหะภายในบ้านเพื่อรับน้ำหนักวัสดุและไม้มุงหลังคา จันทันถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับหลังคาของคุณ

แผ่นรองใต้หลังคา (Underlayment): ลักษณะคล้ายกระดาษกันน้ำที่ปูทับแผ่นไม้อัดเพื่อป้องกันปัญหาการรั่วซึมจากฝนและหิมะ โดยจะใช้กับแผ่นกันซึมและแผ่นป้องกันไอน้ำ ซึ่งเป็นแผ่นพลาสติกปิดกั้นอากาศและน้ำ ไม่ให้ซึมผ่านเข้ามาได้

แผ่นปิดครอบ (Flashing): แผ่นโลหะหรือวัสดุชนิดอื่น ๆ ที่ใช้ปิดรอยต่อของหลังคา เพื่อป้องกันการรั่วซึม ซึ่งสามารถปิดรอยต่อของหลังคาได้ทุกจุดที่มีการเปลี่ยนทิศทาง และใช้เพื่อช่วยปิดจุดต่าง ๆ จากองค์ประกอบต่าง ๆ ถ้ามี

รางน้ำฝน (Drainage): คุณสมบัติการออกแบบของหลังคาที่ช่วยให้สามารถระบายน้ำได้ การติดตั้งจะยึดจากค่าความลาดชันหรือระยะห่างของหลังคา ในระยะแนวนอนแต่ละฟุตจะปรับเพิ่มขึ้นเป็นนิ้ว หรือที่เรียกว่า “ทิศทางท่อ” ตัวอย่างเช่น การเพิ่ม 5 นิ้วในระยะทุก ๆ ฟุตของหลังคา ที่มีความลาดเอียง 5-in-12

องค์ประกอบพื้นฐานในการออกแบบหลังคา

เมื่อเข้าใจส่วนประกอบของหลังคาแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องระบุองค์ประกอบการออกแบบหลังคาและองค์ประกอบใดที่จะใช้กับบ้านของคุณ

  1. ผนังจั่ว (Gable Wall): ส่วนสามเหลี่ยมของบ้านที่ยื่นออกมาจากเชิงชายไปจนถึงจุดสูงสุดของหลังคา
  2. เส้นแนวกลางอกไก่ (Centerline of Ridge): มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เส้นเฉียง จากผนังถึงจันทันใต้ขอบหลังคาที่ปลายจั่ว
  3. อกไก่ (Ridge): เป็นจุดสูงสุดของหลังคา หรือเรียกอีกอย่างว่ายอดหลังคา
  4. ตะเข้ราง (Valley): แนวบรรจบของผืนหลังคาสองระนาบลงมา
  5. เชิงชาย (Eaves): ชายคาที่ห้อยลงมาติดกับผนังด้านนอกของบ้าน
  6. ตะเข้สัน (Hip): จุดสูงสุดที่หลังคาสองระนาบมาบรรจบกัน 
  7. ค้ำยัน (Abutment): โครงสร้างเสริมหลังคาตำแหน่งแนวตั้ง เช่น ผนัง หรือ ปล่องควัน
  8. หน้าต่างหลังคา (Dormers): ไม่ใช่ทุกบ้านที่จะมีหหน้าต่างหลังคา แต่การที่มีหน้าต่างยื่นออกมาก็เพื่อรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาที่ห้องใต้หลังคา หรือชั้นสามของบ้าน

ลองออกไปสำรวจและสังเกตว่าหลังคาบ้านคุณมีส่วนประกอบอะไรบ้าง โดยสังเกตว่ามีอกไก่ ตะเข้สัน ค้ำยันและจั่วจำนวนเท่าใด ถ้ากำลังคิดอยากเปลี่ยนหลังคาเร็ว ๆ นี้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจหน่วยวัดเป็นฟุตและการออกแบบโครงสร้างหลังคาเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่ควรเตรียมไว้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำการเปลี่ยนหลังคาบ้าน

  1. ติดตั้งหรือซ่อมแซมหลังคาบ้านล่าสุดเมื่อใด

บ้านคุณมีหลังคาเดิม หรือพึ่งซ่อมหลังคาไปภายในสองสามปีที่ผ่านมานี้หรือไม่ สังเกตไม้มุงหลังคาที่ใช้และจดจำอายุหลังคาของคุณหรืออาจสังเกตการรั่วซึม เพื่อจะกำหนดตารางเพื่อจะได้รู้ว่าถึงเวลาเปลี่ยนหลังคา การเปลี่ยนหลังคาต้องดูโครงสร้างหลังคาเดิมที่มี รวมถึงประเภทไม้มุงหลังคาที่ใช้ หากใช้ยางมะตอย อายุของมันประมาณ 20 ปี แต่หากใช้ไม้มุงหลังคา อายุการใช้งานราว ๆ 30 ปี   

  1. หลังคามีช่องระบายอากาศทางไหนบ้าง

การระบายอากาศที่เหมาะสม คือสิ่งสำคัญสำหรับระบบหลังคาบ้านที่ดี หากหลังคาบ้านไม่มีการถ่ายเทอากาศ สิ่งที่ตามมาอาจทำให้เกิดเชื้อราและเกิดราน้ำค้างได้ นอกจากช่องระบายอากาศใต้หลังคาแล้ว ยังมีอีกสองสามปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของอากาศผ่านเข้ามาใต้ห้องหลังคาไปสู่ตัวหลังคาได้ 

ดังนั้น รีบขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคาเพื่อเช็คสิ่งดังต่อไปนี้:

สังเกตดูฉนวนกันความร้อนว่ามีช่องโหว่หรือไม่ เพื่อช่วยความร้อนผ่านเข้ามาและการระบายความร้อน ควรติดตั้งแผงกั้นไอน้ำใต้ฉนวนและติดกับเพดานเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นเพิ่มขึ้นในห้องใต้หลังคา

การมีช่องเปิดและช่องระบายอากาศที่เพียงพอ จะทำให้อากาศหมุนเวียนเข้าและออกได้สะดวก โดยทั่วไปควรมีช่องระบายอากาศหลังคาขนาด 1 ฟุตบริเวณพื้นที่ห้องใต้หลังคาทุก ๆ 150 ตารางฟุต โดยคำนวณหาจำนวนช่องระบายอากาศหลังคาของคุณได้ที่นี่ 

ระยะห่างระหว่างฉนวนกันความร้อนและวัสดุมุงหลังคา อย่างน้อย 1 นิ้ว

  1. ควรใช้ไม้มุงหลังคาประเภทใด

วัสดุของไม้มุงหลังคามีหลายประเภท ตั้งแต่ยางมะตอยไปจนถึงไม้ หรือแม้แต่หินชนวน  วัสดุแต่ละประเภทมีอายุการใช้งานแตกต่างกันและความทนทานของวัสดุขึ้นอยู่กับขนาดหลังคาของคุณ ให้ระวังเรื่องสภาพอากาศที่รุนแรง เช่ม ลมพายุ หรือความหนาวเหน็บ ที่อาจมีส่วนทำให้ไม้มุงหลังคาบ้านแตกร้าวได้ 

  1. สมรรถนะการทนไฟของหลังคา

สมรรถนะการทนไฟ คือ ระบบจำแนกประเภทความทนไฟของวัสดุมุงหลังคาบ้าน การจำแนกประเภทนั้นมีระดับ A, B และ C วัสดุประเภท A มีความต้านทานไฟจากด้านนอกโครงหลังคา สูงที่สุด ซึ่งวัสดุประเภทนี้ได้แก่ ดินกระเบื้อง หลังคาไฟเบอร์กลาส และหลังคาเมทัล

การเข้าใจพื้นฐานโครงสร้างหลังคา จะช่วยให้คุณเข้าในระบบหลังคาปัจจุบันของคุณ และช่วยให้เข้าใจว่ามีวัสดุใดบ้างที่เหมาะกับความลาดชันของหลังคาบ้านคุณ

พร้อมเริ่มงานมุงหลังคาบ้านคุณหรือยัง เราหวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้รับการติดต่อและได้ให้ความช่วยเหลือ รวมถึงให้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของคุณได้

หลังคาที่ป้องกันอากาศภายนอก และนำแสงสว่างธรรมชาติเข้ามา

ระบบหลังคา เป็นส่วนที่มักถูกมองข้ามทั้งๆที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันอาคาร ในบรรดาเรื่องที่ต้องคำนึงถึงทั้งหมดทั้งมวล สุขภาวะในอาคารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หลังคาเป็นชั้นแรกที่โดนลมฝนภายนอก ต้องเผชิญกับหิมะ ตั้งแต่หิมะตก ทับถมกันอยู่บนหลังคา จนกระทั่งหิมะละลายจนหมด ทั้งในยามเจอกับพายุลูกเห็บที่ตกกระทบและเมื่อโดนแดดเผาผลาญโดยตรง เป็นเหตุผลที่ทำไมหลังคาจึงเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญอย่างมาก และคุณสามารถให้ความไว้วางใจกับ ระบบหลังคาของ Danpal ที่มีการค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อการป้องกันอาคารที่มีประสิทธิภาพ

ระบบหลังคาหลังคาของ Danpal มีส่วนช่วยในการป้องกันอาคารจากสภาพอากาศได้อย่างไร
อาคารไม่ใช่รถของแบตแมนที่สามารถกดปุ่มเพื่อเลือกเครื่องมือต่างๆออกมาใช้งานเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลง Danpal ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีหลังคาที่สามารถป้องกันสภาพอากาศได้ตลอดทั้งปี แผ่น Danpal มีรอยหยักที่มีลักษณะของขอบเขี้ยว และมีตัวล๊อคแผ่นที่สามารถป้องกันหลังคาได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากคุณมองออกไปด้านนอกแล้วพบว่าหิมะกำลังตก หรือคุณได้ยินเสียงลมพายุ หรือลูกเห็บตก ขอให้คุณสบายใจได้เพราะระบบหลังคาของ Danpal กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ แสงแดดที่ร้อนระอุก็มีส่วนทำให้หลังคาเสื่อมสภาพได้เช่นกัน เราจึงเสริมคุณสมบัติป้องกัน UV เพื่อให้ผลลัพธ์ในการปกป้องฉนวนกันความร้อนและอาคารทั้งยังควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลังคากับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
รักษาฉนวนอาคารของคุณให้พ้นจากความเปียกชื้นเป็นสิ่งสำคัญในผลิตภัณฑ์ของ Danpal และหลังคาทุกระบบ ตราบใดที่ฉนวนกันความร้อนแห้งอยู่เสมอ พลังงานในอาคารก็จะมีความเสถียร แต่เมื่อใดก็ตามที่ความชื้นได้เข้ามาแฝงอยู่ในฉนวนกันความร้อน ฉนวนจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ การทำความร้อนและความเย็นของอาคารจะหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่ ซึ่งมันไม่ส่งผลเฉพาะมีการใช้พลังงานส่วนเกินที่มากขึ้น แต่ยังสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการใช้พลังงานมากเกินไปด้วย

หลังคาที่สวยงามโดดเด่น
หลังคาที่ดีจะไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง คือ การปกป้องอาคารจากสภาวะอากาศภายนอก แต่หลังคา Danpal ทำได้ดีกว่าหน้าที่พื้นฐาน นั่นก็คือให้ความสวยงามกับอาคารด้วย สิ่งหนึ่งที่ Danpal ได้เข้ามทำการเปลี่ยนแปลงในวงการสถาปัตยกรรม คือการเป็นวัสดุที่ใช้ในการออกแบบให้สามารถนำแสงสว่างธรรมชาติเข้าสู่อาคารอย่างมีคุณภาพ แสงธรรมชาติช่วยให้ภายในอาคารมีชีวิตชีวาแต่ต้องเข้าในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ด้วยการติดตั้งที่ตัวแผ่นค่อนข้างติดกับโครงสร้างทำให้แสงอาทิตย์เข้ามาได้อย่างเต็มที่เหมาะสมกับการใช้งานอาคาร แสงอาทิตย์ช่วยให้เกิดความกระปรี้กระเปร่า เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และมีความสดชื่นแจ่มใส ถ้าคุณกำลังมองหาหลังคาที่มีส่วนช่วยให้คุณอารมณ์ดีเมื่ออยู่อาศัย ขอให้คุณลองพิจารณาระบบหลังคาของ Danpal ดู

ระบบหลังคาโปร่งแสง Controlite®: ความสบายและการประหยัดพลังงานที่ควบคุมได้

ลองมองขึ้นไปด้านบนดูสิ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ยังคงมีอะไรอีกมากมายให้เรามอง แต่คุณไม่สามารถมองเห็นอะไรนอกจากฝ้าเพดานนะเหรอ? นั่นก็เพราะคุณไม่ได้มีหลังคาโปร่งแสงไง ระบบหลังคาโปร่งแสงของ Danpal ใช้นวัตกรรมการส่งผ่านแสงที่มีคุณภาพและสบายตาต่อผู้ใช้อาคาร แสงอาทิตย์มีคุณประโยชน์มากมายต่อร่างกายของคนเรา หนึ่งในนั้นก็คือการกระตุ้นการผลิตวิตามินดี ที่คนในเมืองส่วนใหญ่จะขาด เนื่องจากไม่ค่อยจะมีโอกาสได้รับแสงแดดโดยตรง หลังคาโปร่งแสงที่ดีควรจะช่วยปกป้องผู้ใช้งานที่อยู่ภายในอาคารจากสภาวะอากาศและมลภาวะจากภายนอก แต่ในขณะเดียวกันยังคงต้องให้สิ่งดีดีเช่น แสงอาทิตย์ ส่องผ่านเข้ามายังอาคารได้ ถ้าคุณกำลังมองหาทางที่จะช่วยให้อาคารของคุณมีสุขภาวะที่ดีสำหรับผู้ใช้อาคารแล้วล่ะก็ ทำไมไม่ลองติดต่อเจ้าหน้าที่ของ Danpal และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลังคาโปร่งแสงดูหล่ะ ระบบหลังคาโปร่งแสง Controlite® สามารถใช้ประโยชน์จากแสงสว่างธรรมชาติอย่างเต็มที่ ในขณะที่ปกป้องภายในอาคารจากสถาพอากาศที่เลวร้ายด้านนอกได้เป็นอย่างดี

ระบบหลังคาระบบหลังคาโปร่งแสง Controlite®: รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มประสิทธิภาพ

กว่าครึ่งศตวรรษของ Danpal ที่ค้นคว้าพัฒนานวัตกรรม เพื่องานสถาปัตยกรรมที่มีคุณภาพสูงและทางเลือกใหม่ๆแก่วงการ ระบบหลังคาควบคุมปริมาณแสงเข้าอัจฉริยะนี้ ได้รวมเอาคุณสมบัติเด่นและความสามารถในการปรับองศาของแผงกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นองศาแดดต่ำๆในฤดูหนาวและองศาแดดสูงๆในฤดูร้อนก็สามารถควบคุมปริมาณแสงเข้าอาคารได้อย่างเหมาะสม และเพื่อให้รับแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผงกันแดดจึงมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ระบบหลังคานี้เป็นระบบที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน มีความยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทนทานต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

นำแสงอาทิตย์เข้า ป้องกันสภาวะอากาศภายนอก และเป็นหลังคาที่มีความสวยงาม

ห้องทำงานและที่พักอาศัย ซึ่งเราใช้งานอยู่ควรเป็นห้องที่อยู่สบาย ผนังและฝ้าเพดานเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันการรุกรานจากสภาพอากาศที่เลวร้ายภายนอก เพราะเราใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่ในอาคาร เมื่อเวลาที่อากาศภายนอก เช่นอากาศที่เย็นหรือร้อนเกินไป เราจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Danpal เข้าใจดีว่าในขณะที่เราชอบให้แสงอาทิตย์เข้ามาภายในอาคาร เราก็อยากจะป้องกันความร้อนที่เราไม่ต้องการออกไปด้วยหลังคาโปร่งแสงของ Danpal ซึ่งถูกผลิตขึ้นมาให้มีความคงทนด้วยเทคโลยี microcell ป้องกันการรั่วซึมของน้ำและอากาศได้ 100% คุณจึงมั่นใจได้ว่าเมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์ของ Danpal คุณจะได้รับการปกป้องที่ดีจากสถาวะอากาศภายนอกและให้ความรู้สีกที่สบายกับผู้ใช้งานที่ยู่ข้างในอาคาร

CONTROLITE® กับการอนุรักษ์พลังงาน

ขณะที่โลกเปลี่ยนจากยุคเกษตรกรรมสู่ยุคอุตสาหกรรม งานเกี่ยวกับอาคารและสิ่งปลูกสร้างจัดว่าเป็นส่วนที่ใช้พลังงานค่อนข้างมาก แต่ด้วยระบบหลังคาโปร่งแสง Controlite® ซึ่งช่วยในการประหยัดพลังงานที่ถูกนำไปใช้ในการปรับอากาศและแสงสว่างให้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แผ่น Danpal รุ่น Controlite®สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบและสามารถช่วยให้อาคารได้คะแนนจากการประเมินอาคารเขียวได้อีกด้วย

ทำไมแผ่นโพลีคาร์บอเนตจึงมีความแข็งแรง คงทนมากกว่าวัสดุประเภทอื่นๆ

การพัฒนาโพลีคาร์บอเนตและแผ่นโพลีคาร์บอเนตมีมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้เมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆที่มีในท้องตลาด สาเหตุหลักของการพัฒนาเกิดมาจากการที่ผู้ใช้งานต่างมองหาวัสดุที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวัสดุที่มีความสามารถในการช่วยประหยัดพลังงาน เพื่อนำมาใช้ทดแทนวัสดุในการก่อสร้างแบบเดิมๆ ถ้าหากว่าคนส่วนใหญ่ต้องการแค่วัสดุที่เน้นแต่การปกป้องสิ่งแวดล้อม ในขณะที่วัสดุมีราคาที่สูงและไม่ช่วยในการประหยัดพลังงาน ตัวแผ่นโพลีคาร์บอเนตคงจะไม่เป็นที่นิยมอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ในปัจจุบันทั่วโลกโพลีคาร์บอเนต เริ่มมีบทบาทในการเข้ามาใช้เป็นวัสดุทดแทนสิ่งก่อสร้างแบบเดิมๆ เช่น กระจกอบแข็ง หรือแผ่นโพลีเอทิลีน ในวงการธุรกิจประเภทต่างๆ ทั้งนี้เหตุผลหลักเนื่องมาจากจุดเด่นของความสมดุลระหว่างการทนทานต่อแรงกระแทก น้ำหนักที่เบา การไม่ลามไฟ การส่องผ่านของแสงที่ดี และคุณสมบัติเด่นในการป้องกันรังสี UV ในขณะที่ตัวมันเองยังนำมาใช้สนการออกแบบได้อย่างสวยงาม

แผ่นโพลีคาร์บอเนตแบบใส มีความใสที่ใกล้เคียงกับกระจก ในขณะที่มีน้ำหนักแค่เพียงครึ่งเดียว ซึ่งส่งผลให้การขนส่งและการติดตั้งวัสดุทำได้อย่างง่ายดาย จากผลการทดสอบทำให้เรารู้ว่า แผ่นโพลีคาร์บอเนตแข็งแกร่งกว่ากระจกทั่วไปประมาณ 200 เท่า และแข็งแกร่งกว่ากระจกนิรภัย 20 เท่า และนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการเลือกใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนตในการก่อสร้างอาคารที่อยู่ในพื้นที่ที่ลักษณะของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง เช่น พื้นที่ลมแรง และมีพายุฝน

ที่ Danpal เรามีความตั้งใจในการผลิตระบบการติดตั้งวัสดุปิดพื้นผิวอาคารแบบโปร่งแสงต้วยการนำแผ่นโพลีคาร์บอเนตมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เราออกแบบระบบผนังกันฝน (Rain Screen System) ที่สามารถป้องกันน้ำรั่วซึมได้ 100% ซึ่งส่งผลให้พื้นผิวของอาคารมีอายุการใช้งานได้อย่งยาวนานยิ่งขึ้น

เนื่องจากแผ่นโพลีคาร์บอเนตตัดแต่งได้โดยง่าย และมีความยืดหยุ่นในการทำงานที่สูงในการนำมาประยุกต์ใช้งานประเภทต่างๆ ทำให้สถาปนิกหลายๆคนเริ่มนำมาใช้เป็นนวตกรรมในการออกแบบพื้นที่ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นในการออกแบบผลงานให้กับลูกค้า

ข้อดีหลักๆของการใช้งานโพลีคาร์บอเนตของคนส่วนใหญ่มาจากคุณสมบัตืของวัสดุที่มีความเป็นฉนวนที่ดี ซึ่งในปัจจุบันของประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ การสิ้นเปลืองพลังงานกว่า 40% มาจากการใช้งานของอาคารต่างๆไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์ หรือที่พักอาศัย ดังนั้นคุณสมบัติของการเป็นฉนวนที่ดีจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพลังงานต่างๆ

ระบบของเราช่วยในการปกป้องฉนวนที่อยู่ภายในอาคารจากสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบผนังอาคารที่ออกแบบมา เพื่อช่วยในการถ่ายเทอากาศของพื้นผิวอาคารจากช่องว่างของผนัง นั้นหมายถึงการก่อให้เกิดการพัดพาเอาความร้อนให้ระบายออกผ่านทางช่องว่าง ซึ่งส่งผลให้ฉนวนและผนังต่างๆที่อยู่ด้านในอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีความชื้นสะสม และสามารถยืดประสิทธิภาพการทำงานของวัสดุไปได้อีกยาวนานยิ่งขึ้น

แผ่นโพลีคาร์บอนเนทของ Danpal – 50 ปี แห่งนวัตกรรม

เหล่านี้คือกุญแจสำคัญที่ลูกค้าต่างมองหาสำหรับงานอาคารที่ยอดเยี่ยม มันคือการพัฒนาคุณสมบัติของแผ่นโพลีคาร์บอเนต ที่จะสามารถทดแทนวัสดุดั้งเดิมได้ในที่สุด
ที่ Danpal เราทุ่มเทเวลากว่า 50 ปีเพื่องานผนังอาคารที่สมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อยๆ และเราค้นพบสูตรสำเร็จของความยั่งยืนในการออกแบบ ช่วยประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยควบคุมราคาก่อสร้าง โดยไม่สูญเสียความงามแต่อย่างใด

 ทำไมแผ่นโพลีคาร์บอเนตจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น?

ราคาของโพลีคาร์บอเนตนั้นเคยสูงมากในอดีต ทั้งยังไม่สามารถช่วยประหยัดพลังงานมันจึงยังไม่เป็นที่นิยมนัก ก่อสร้างสมัยนั้นนิยมการใช้กระจกเป็นหลักและมีการเสริมการรับแรงโดยใช้ โพลียูรีเทน เมมเบรนด์ ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่โพลีคาร์บอเนตมีความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการนำมาเป็นวัสดุประกอบอาคาร เพราะรวมคุณสมบัติของการรับแรงกระแทก การป้องกันความร้อนความเย็นและแสง UV ช่วยกระจายแสง และกันน้ำรั่วซึม ที่สำคัญคือยังสวยด้วย นั่นแหละเป็นสาเหตุที่แผ่นโพลีคาร์บอเนตได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

ด้วยน้ำหนักเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของกระจก แต่ใสเหมือนกัน แถมง่ายต่อการขนส่งและติดตั้ง ความแข็งแรงทนทานของแผ่นโพลีคาร์บอเนตนั้นมากกว่ากระจกธรรมดาถึง 200 เท่า และแข็งแรงมากกว่ากระจกเทมเปอร์ถึง 20 เท่า จึงไม่เป็นที่กังขาว่าทำไมถึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับงานอาคารที่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน

แผ่นโพลีคาร์บอเนต Danpal ใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนตอย่างไร

โพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุที่ Danpal เลือกมาพัฒนา เพราะคุณสมบัติที่โดดเด่นโดยเฉพาะเมื่อมาสู่ช่วงการติดตั้ง ลองสังเกตดูงานระบบ Rainscreen ของเราที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของฉนวนกันความร้อนได้ จากการป้องกันความร้อนและระบายอากาศได้ของมัน สถาปนิกต่างก็ชอบใช้โพลีคาร์บอเนตเพราะความยืดหยุ่นในการดัดโค้งที่เข้ากับงานออกแบบหลากหลายรูปแบบ ผู้ออกแบบสามารถใช้นวัตกรรมและประโยชน์นี้มาเป็นจุดเด่นในการออกแบบอาคารที่ตัวเองต้องการ แผ่นของ Danpal ง่ายต่อการตัด ทำให้ใช้แรงและเวลาการทำงานไม่มากซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการลดต้นทุนนั่นเอง

ใบเสร็จค่าไฟของคุณเป็นสิ่งที่บอกให้คุณรู้ว่าการประหยัดต้นทุนนั้นสำคัญแค่ไหน แผ่นโพลีคาร์บอเนตนั้นเป็นฉนวนป้องกันอุณหภูมิที่ดีเยี่ยมที่ส่งผลดีต้นทุนและสิ่งแวดล้อม ในเวลาที่คาร์บอนฟุทปริ้นท์กำลังเป็นหัวข้อที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจในโลกตอนนี้

แผ่นโพลีคาร์บอเนตช่วยระบายอากาศในอาคารได้อย่างไร

เมื่อคุณคิดถึงเรื่องการระบายอากาศ จะเห็นได้อย่างชัดเจน ระบบการติดตั้งของ Danpal ช่วยปกป้องฉนวนของอาคารคุณจาก สิ่งรบกวนภายนอก โดยการออกแบบให้มีการระบายอากาศโดนการพาความชื้นออกผ่านช่องที่อยู่หลังแผ่น  ทำให้ฉนวนกันความร้อนไม่เปียกชื้น และแห้งอยู่เสมอ

งานออกมาดูดีด้วยแผ่น Danpalon

เราให้ความสำคัญกับการประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการประหยัดพลังงานผ่านการใช้งานชุดผนังของเรา โดยที่เราไม่ลดความสำคัญของความงามที่ปรากฎในหลายๆแง่มุม ด้วยค่าการส่องผ่านของแสงที่เรามีให้หลากหลายระดับนี้เอง ทำให้เกิดความงามที่ไม่ซ้ำแบบทั้งจากการแสงที่ส่องผ่านและสิ่งที่สะท้อนออกมาผ่านแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน ถ้าคุณมีอาคารสีสว่างที่มีโลหะเงางามประกอบอยู่ คุณจะต้องการแผ่นโพลีคาร์บอเนตแบบขุ่นของเราที่มีให้คุณเลือกหลายระดับความทึบแสงเข้าไปประกอบด้วย ทั้งนี้หากคุณต้องการให้มีหลายสีคุณสามารถปรับเปลี่ยน จับคู่ เพื่อผสมผสานให้เกิดความงามและผลลัพธ์แบบที่คุณต้องการได้

เคอ ร์เทนวอลล์เพิ่มการป้องกันและสร้างความเฉพาะตัวให้กับอาคารของคุณ

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับระบบเคอร์เทนวอลล์

Danpal มีชื่อเสียงมายาวนานกับความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้างในตัว บางท่านอาจจะลืมนึกไปว่าระบบเคอร์เทนวอลล์ก็เป็นอีกสิ่งที่เราชำนาญ ถึงแม้ว่าจะไม่เชิงเป็นโครงสร้างแต่ ระบบเคอร์เทนวอลล์ก็ได้ใช้คุณสมบัติที่ดีเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในการปกป้องภายในอาคารของคุณจากภายนอกให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ ทั้งนี้ ระบบเคอร์เทนวอลล์ ยังสามารถเป็นปราการห่อหุ้มอาคารของคุณจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี การเลือกติดตั้งเคอร์เทนวอลล์เป็นความคิดที่ดี เรากำลังจะบอกคุณว่าทำไม

เคอร์เทนวอลล์ : ด่านชั้นแรกของการป้องกัน

หากเราต้องการสร้างอาคารให้มีความคงทน มันต้องมีคุณสมบัติที่จะสู้กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันได้ ไม่ว่าจะเป็น ความร้อน ฝนตก ลมพายุ หรือ หิมะ เมื่อออกแบบอาคาร สถาปนิกได้คำนึงถึงวัสดุเปลือกอาคารที่ช่วยป้องกันอาคารได้อย่างดีที่สุดอยู่แล้ว และเรา Danpal ก็ยินดีที่จะเสนอว่า เทคโนโลยี microcell ที่ใช้กับแผ่นโพลีคาร์บอเนตของเรานั้น ทำให้เกิดคุณสมบัติที่ทนทานต่อแรงกระแทก และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดมาโดยตลอดในการปกป้องอาคาร เมื่อคุณได้อยู่ภายในอาคารที่ห่อหุ้มด้วยผลิตภัณฑ์ของ Danpal คุณจึงไม่ต้องกังวลถึงเรื่องรั่วซึมขณะที่ฝนตกหนัก หรือกังวลเรื่องการรับน้ำหนักเมื่อถูกหิมะทับถม แม้กระทั่งกลัวความเสียหายของวัสดุเมื่อถูกพายุลุกเห็บ นั่นก็เพราะว่าอาคารของคุณได้รับการปกป้องแล้วเป็นอย่างดี

ระบบเคอร์เทนวอลล์ติดตั้งระบบเคอร์เทนวอลล์เผื่อความปลอดภัย

ระบบเคอร์เทนวอลล์ของ Danpal มาพร้อมกับระบบล๊อคสองชั้นต่อกันแบบไร้รอยต่อ ทำให้มีความปลอดภัยและสามารถรับน้ำหนักได้มาก เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูงและเสริมความปลอดภัยให้กับงานผนังอาคาร ที่สำคัญคือติดตั้งได้รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก

วัสดุน้ำหนักเบาช่วยให้งานติดตั้งผนังง่ายกว่าที่คิด

วิศวกรของ Danpal ได้พัฒนาคุณสมบัติของวัสดุให้ดีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และมีความแข็งแรง ความเบานี้เองที่มีส่วนสำคัญให้การขนส่งและติดตั้งสะดวกรวดเร็ว ง่ายสำหรับทุกคนที่ทำงานเกี่ยวข้อง ส่วนความแข็งแกร่งนั้นเป็นคุณสมบัติตามธรรมชาติของระบบอยู่แล้ว สุดท้ายความยืดหยุ่นนี้เองที่ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถออกแบบให้สอดคล้องกับงานดีไซน์ที่เกิดขึ้น

.ระบบเคอร์เทนวอลล์ของ Danpal ส่งมอบความงามพร้อมประโยชน์รอบด้าน

นวัตกรรมเคอร์เทนวอลล์ตามแบบได้ก้าวไปอีกระดับ นั่นก็เพราะ Danpal มีทางเลือกให้คุณอย่างหลากหลาย ทั้งสีสรร พื้นผิว และ ผลลัพธ์ที่ตามองเห็น ที่สามารถนำไปประกอบกับงานออกแบบของคุณได้อย่างลงตัว การก่อสร้างเป็นงานที่มีแบบแผนที่แน่นอนตายตัว แตกต่างจากงานออกแบบตรงที่สามารถสร้างแตกต่าง สวยงาม ได้ตามแต่จินตนาการและความถูกใจของแต่ละคน

Danpal นำเสนอทางเลือกของสีที่ช่วยให้งานมีเอกลักษณ์และสอดคล้องกับความต้องการของคุณ เราเชื่อมั่นว่าการเลือกใช้สีคือการผจญภัยอย่างหนึ่งในการออกแบบ เราจึงมีทั้งโทนสีที่นุ่มนวล ที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบอาคาร ทั้งสีสว่าง สดใส ที่ทำให้อาคารเป็นที่จดจำ เราสามารถช่วยคุณในการสื่อสารความงามผ่านอาคารได้

หลังคาโปร่งแสงที่เข้ากับรสนิยมของคุณ

หลังคาโปร่งแสงที่เข้ากับรสนิยมของคุณ

‘ยิ่งแสงสว่างเยอะยิ่งดี’ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิด Danpal ก็เห็นด้วยในประเด็นนี้เช่นกัน และนี่คือเหตุผลที่บริษัทมุ่งมั่นค้นคว้าและพัฒนาการทำหลังคาโปร่งแสงที่มีคุณภาพโดนใจลูกค้า อย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 50 ปี  ในด้านของความทนทานต่อดินฟ้าอากาศ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

Danpal’s dry-glaze translucent systems มีให้หลายแบบให้เลือกตามความพึงพอใจและรูปลักษณ์ของอาคารของคุณ ในขณะที่ The Danpavault Barrel Vault Skylight System คือหลังคาโปร่งแสงที่โดดเด่นในการสร้างความสมดุลของแสง ให้เหมาะกับพื้นที่ทำงานและอยู่อาศัย Danpal’s dry-glaze translucent systems มีให้หลายแบบให้เลือกตามความพึงพอใจและรูปลักษณ์ของอาคารของคุณ ในขณะที่ The Danpavault Barrel Vault Skylight System คือหลังคาโปร่งแสงที่โดดเด่นในการสร้างความสมดุลของแสง ให้เหมาะกับพื้นที่ทำงานและอยู่อาศัย

 

หลังคาโปร่งแสงหลังคาโปร่งแสงของ Danpal ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด

เพราะหลังคาโปร่งแสงของ Danpal ต้องมีน้ำหนักเบามากพอที่จะโค้งงอได้ และต้องแข็งแรงมากพอที่จะรับมือกับสภาพดินฟ้าอากาศภายนอก ทำให้ Danpal มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างอเนกประสงค์ในตัวเอง โดย Microcell เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างคุณสมบัติความแข็งแกร่งทนทาน แม้แต่การตกกระทบของลูกเห็บ เหมาะในการนำมาใช้เป็นหลังคาหลายรูปแบบ ไม่ว่าโครงสร้างจะเป็นเหล็กหรือคอนกรีต ติดตั้งง่าย และสามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับความต้องการได้ เพราะมีขนาดและสีสรรให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะ Danpavault Barrel Vault Skylight System ที่มีระบบโครงที่สามารถรับน้ำหนักของตัวเองไม่จำเป็นต้องทำโครงสร้างเพิ่มเติม และไม่มีปัญหาในกรณีที่ความยาวช่วงพาดไม่เท่ากัน

หลังคาโปร่งแสงกับลมฟ้าอากาศ

พลังธรรมชาติกับสภาพอากาศที่แปรปรวนเป็นศัตรูของอาคาร แต่ด้วยระบบหลังคาโปร่งแสงของ Danpal ที่ปกป้องอาคารและป้องกันการรั่วซึมได้ 100% ภายในอาคารของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบใดใดจากฝนหรือหิมะที่ตกหนักภายนอกอาคาร The Danpavault System ขยายขอบเขตการกันแสง UV และควบคุมอุณหภูมิมากขึ้น ช่วยให้คุณ(สถาปนิก)ช่วยลูกค้าประหยัดเงินจากการยืดอายุการใช้งานของอาคาร ทั้งนี้การต่อแผ่นแบบไร้รอยต่อยังช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิแสนสบายข้างในเอาไว้อีกด้วย

 

หลังคาโปร่งแสงและรูปลักษณ์ที่สวยงาม

Danpal มีความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า เมื่อลูกค้าเลือกใช้หลังคาโปร่งแสง ความงามจัดว่าเป็นสิ่งแรกที่ถูกพิจารณา แล้วถ้าหลังคาโปร่งแสงสามารถให้ประโยชน์ได้มากกว่าความงาม ใครบ้างล่ะจะไม่สนใจ มันไม่ใช่แค่อุปกรณ์ที่นำแสงอาทิตย์เข้าสู่อาคารเท่านั้นแต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศดีดีที่ส่งเสริมสุขภาพ ที่แสงไฟประดิษฐ์ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ รอยต่อระหว่างแผ่นของ Danpal ทำได้แนบเนียน สวยงาม เช่นเดียวกับความสบายที่มอบให้ หากคุณกลัวว่าโพลีคาร์บอเนตจะให้ความใสได้ไม่เท่ากระจก เราอยากให้คุณพิจารณาอีกครั้งจะพบว่าไม่มีความแตกต่างในเรื่องของความใส แถมยังให้มากกว่าในเรื่องของความยืดหยุ่นด้วย

กระจกมีสีให้เลือกอย่างจำกัด ไม่เหมือนกับโพลีคาร์บอเนตของ Danpal ที่มีสีให้คุณเลือกมากมาย บางคนชอบความขุ่นขาวเล็กน้อยของแผ่น ในขณะที่บางคนชอบความเป็นมันวาวเหมือนโลหะ หรือสีอื่นๆที่เข้ากับสีวัสดุมุงของคุณ หลังคาจะเป็นสิ่งกำหนดรสนิยมและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ มีความแข็งแรงทนทาน และมีส่วนช่วยประหยัดพลังงานได้ แล้วคุณจะประทับใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

 

แผ่นโพลีคาร์บอเนต คือ วัสดุก่อสร้างที่มีทั้งความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นในแผ่นเดียวกัน

Danpal มีชื่อเสียงยาวนานถึงห้าสิบปีจากการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งในแง่นวัตกรรมและความเชี่ยวชาญ พวกเราขยายตลาดไปยังห้าทวีปทั่วโลก และมีคำขวัญที่เป็นสากลนั่นคือ “Global, Vision, Local Focus” (เป็นสากล มีวิสัยทัศน์ ศูนย์รวมท้องถิ่น) สอดคล้องกับที่ตลาดงานก่อสร้างคาดหวังให้วัสดุก่อสร้างมีความแข็งแรงทนทานขึ้น น้ำหนักเบาขึ้น ช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น และง่ายขึ้นในการติดตั้ง Danpal จึงกลายเป็นผู้นำที่มาเปลี่ยนวงการ วัสดุก่อสร้าง โดยที่ชื่อเสียงของเราเกิดจากการสร้างความเชื่อมั่นในนวัตกรรมและจากการที่ผลิตภัณฑ์ของเราตอบสนองการใช้งานของลูกค้าได้เป็นอย่างดี.

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกบริษัทจะสามารถรักษาระดับและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ๆได้ และไม่ใช่ทุกผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง แผ่นโพลีคาร์บอเนตเป็นหนึ่งในวัสดุใหม่ในตลาด ที่มีทั้งความแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และสวยงาม ในแผ่นเดียว ที่สามารถทดแทนวัสดุดั้งเดิมอย่างกระจกได้

แผ่นโพลีคาร์บอเนต ไม่จำนนต่อสภาพอากาศ

ไม่สำคัญว่าเราจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาวะอากาศแบบไหน เรารู้อยู่แล้วว่าเราจะเจอแรงปะทะจากสภาพลมฟ้าอากาศที่เราอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น หิมะ ฝน ลม หรือ ลูกเห็บ โชคดีที่เรามีเทคโนโลยีที่ทำให้ประสิทธิภาพของวัสดุเปลี่ยนไป แผ่นโพลีคาร์บอเนต ที่ถูกผลิตมาสองรูปแบบเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างอาคารสมัยใหม่ คุณสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบแผ่นโปร่งแบบมีช่องอากาศด้านใน และแผ่นตันใส ที่จะมาทดแทนการใช้กระจกได้อย่างสิ้นเชิงในขณะที่มีน้ำหนักเบากว่าแต่แข็งแรงกว่า

แผ่นโพลีคาร์บอเนตแผ่นโพลีคาร์บอนเนต มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน

ถ้าจะมีผลิตภัณฑ์ใดที่มีคุณสมบัติเบาและง่ายต่อการทำงาน (เช่นโพลี่คาร์บอเนต) ผลิตภัณฑ์นั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นที่นิยมสำหรับสถาปนิกและลูกค้า เหตุผลก็คืองานติดตั้งนั้นจะเรียบร้อยและสร้างปัญหาหน้างานได้น้อยกว่ามาก ขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ประหยัดงบประมาณในการดำเนินงาน ส่วนคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นได้ก็เอาชนะใจลูกค้าผู้ผลิตเครื่องกลทางการเกษตร กระจกหน้ารถยนต์ แผงนิรภัย และการเคลื่อนย้ายชิ้นช่วนจักรกล โพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุที่สามารถดัดโค้งได้ ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากกว่ากระจก ถ้าคุณต้องการทำหลังคาโค้ง แผ่นโพลีคาร์บอเนตขนาดใหญ่จะเหมาะมาก เพราะยิ่งแผ่นใหญ่ยิ่งดัดโค้งได้มากกว่า

โพลีคาร์บอนเนตเป็นวัสดุที่มีความแกร่งมากกว่ากระจก 200 เท่า แต่น้ำหนักเบากว่าครึ่งหนึ่ง และ ไม่แตกกระจายเหมือนกระจก ถ้าเลือกแบบแผ่นตันจะมีความใสคล้ายกระจก

The Danpal Ventilated Rain System (VRS) ใช้โพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุหลัก

แผ่นโพลีคาร์บอเนตของ Danpal’s Ventilated Rain System มีการระบายอากาศในช่องอากาศที่เป็นฉนวนกันความร้อน การป้องกันฉนวนกันความร้อนจากความชื้นนี้เองที่จะช่วยยืดอายุฉนวนและการใช้งานของอาคารนานขึ้น

เมื่อคุณเลือกใช้โพลี่คาร์บอเนต คุณมั่นใจได้เลยว่ากำลังปกป้องอาคารจากสภาพอากาศและป้องกันความชื้นไปพร้อมๆกัน และยิ่งไปกว่านั้นอาคารคุณจะดูทันสมัยเพราะโพลี่คาร์บอเนตเป็นวัสดุที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

Rainscreen Cladding ปกป้องอาคารของคุณทั้งภายในและภายนอก

Rainscreen Cladding – อาคารหนึ่งหลังจะมีสิ่งที่มองเห็นหลักๆอยู่สองด้าน คือด้านนอกของอาคารที่ถูกมองเห็นได้โดยคนทั่วไป และด้านในโดยผู้ใช้งานอาคาร คนที่เดินผ่านอาคารไปมาจะรับรู้ถึงความงามของอาคารจากหลังคาและเปลือกอาคาร แต่เมื่ออยู่ภายในอาคาร สิ่งที่เรามองเห็นและการรับรู้จะต่างออกไป .

เมื่อข้าวของเครื่องใช้ เช่น พื้น หรือ พรม สกปรก หรือ เริ่มเสื่อมสภาพ มันจะง่ายต่อการมองเห็นและเราก็จะทำความสะอาด ซ่อมบำรุงหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนอันใหม่ได้ทันท่วงที แต่จะมีใครที่สังเกตเห็นว่าฉนวนกันความร้อนใต้หลังคามันเสื่อมลง ไม่มีความสามารถในการป้องกันความร้อนได้อีกต่อไป ไม่น่าเชื่อว่าจุดเล็กๆที่ถูกซ่อนไว้นี้กลายเป็นส่วนสำคัญที่จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้ใช้อาคาร นั่นคือเหตุผลที่ Rainscreen cladding เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด จากคุณสมบัติการปราการป้องกันสภาพอากาศไม่พึงประสงค์ภายนอกโดยไม่ทำลายบรรยากาศภายใน

Rainscreen-CladdingRainscreen Cladding ที่เหนือกว่าของ Danpal

สภาพอากาศเป็นศัตรูที่แท้จริงของผิวอาคาร โดยทั่วไปคนเราจะรับรู้แค่ว่าวันนี้ร้อนหรือเย็นจะต้องแต่งตัวแบบไหนให้เหมาะ แต่แทบไม่ได้สนใจว่าอากาศที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวันนั้นส่งผลกระทบอย่างไรบ้างกับอาคาร
นั่นคือเหตุผลที่ Danpal’s Ventilated Rainscreen Cladding SYSTEM (VRS) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดในการสามารถปกป้องอาคารจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงภายนอก VRS เป็นแผ่นสองชั้นที่มีรอยหยัก ที่สามารถป้องกันฝน หิมะ และความชื้นไม่ให้เข้าอาคาร .

นอกจากนี้แล้ว VRS ยังมีช่องอากาศที่ช่วยระบายอากาศเพื่อไล่ความชื้นที่จะเกิดในแผ่น อีกคุณสมบัติที่ดีของ VRS คือการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็ว ง่าย โดยเฉพาะเมื่อออกแบบให้รอยต่ออยู่บริเวณโครงสร้างที่รับน้ำหนัก ก็ไม่จำเป็นจะต้องเสริมโครงสร้างเพิ่มแต่อย่างใด และด้วยคุณสมบัติเองนี้ทำให้ประหยัดทั้งเวลาในการก่อสร้างและการบำรุงรักษา .

RAINSCREEN CLADDING เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน

ไม่ใช่แค่ความง่ายในการติดตั้งเท่านั้น rainscreen cladding by Danpal มีความพิเศษรอบด้านและสวยงามดึงดูดในการใช้งาน เป็นที่ชื่นชอบของสถาปนิกผู้ซึ่งไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ เพราะสามารถนำไปประกอบกับวัสดุต่างๆไม่ว่าจะเป็น เหล็ก อลูมิเนียม พลาสติก ไม้ อิฐ และ หิน ได้หลากหลาย.

หมดยุคกับงานอาคารที่มีทางเลือกของวัสดุที่จำกัด Danpal มุ่งให้สถาปนิกได้มีเครื่องมือ วัสดุ ที่มากพอที่จะส่งเสริมจินตนาการที่ไม่รู้จบ.

RAINSCREEN CLADDING เป็นทางเลือกที่ดีกว่าต่อสุขภาพ

ผู้ใช้งานอาคารมักจะไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับฉนวนกันความร้อนของอาคาร โดยที่หารู้ไม่ว่าฉนวนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้งานอาคารได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายมีสุขภาพที่ดี.

เมื่อความชื้นเข้าสู่อาคารและทำให้ฉนวนกันความร้อนที่ใช้อยู่เปียก มีโอกาสสูงมากที่ฉนวนกันความร้อนเหล่านั้นจะเกิดเชื้อราและเป็นที่บ่มเชื้อให้เจริญเติบโต ผู้ที่ใช้งานอาคารก็เริ่มป่วยจากโรคทางเดินหายใจโดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานนี้เอง .

ผู้ป่วยโรคหอบหืดและภูมิแพ้ จะได้รับผลกระทบจากเชื้อราในอากาศอย่างหนัก Rainscreen cladding ไม่ได้เป็นแค่หลังคาในการป้องกันฝน หากแต่ยังช่วยป้องกันผู้ใช้อาคารจากเชื้อราที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย .